6 ขั้นตอนแก้หนี้ ทำไม่ยากหากตั้งใจจริง (ตอนที่1)

6 ขั้นตอนแก้หนี้ ทำไม่ยากหากตั้งใจจริง (ตอนที่1)

BF Knowledge Center หนี้สินรุงรังยังเป็นเรื่องปัญหาโลกแตกของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย แต่เชื่อไหม ปัญหาของคนเป็นหนี้ท่วมหัวจำนวนมาก ไม่ใช่มาจากรายได้น้อย แต่มาจากการขาดวินัยทางการเงิน ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหนสาเหตุหลักๆ ก็เรื่องนี้ทั้งสิ้น การมีหนี้สินไม่ใช่สิ่งผิด หนี้ที่จำเป็นก็สามารถก่อได้ เช่นหนี้เพื่อการดำรงชีพ หนี้สินบ้าน รถที่จำเป็นต้องใช้ ให้พอเหมาะพอดีตามอัตภาพ แต่หลายคนมารู้เมื่อสายหนี้สินรุงรังพันตัวไปแล้ว สถานการณ์เช่นนี้จะหาทางออกได้อย่างไร หนี้ที่มี จะเป็นปัญหาหรือไม่ อยู่ที่คำว่าวินัย ถ้าเป็นหนี้แล้วรู้ตัวตลอดเวลา มีการบริหารจัดสรรการจ่ายคืนหนี้ และไม่ก่อหนี้ใหม่เกินตัว รู้จักประเมินตัวเอง รู้จักพอเพียง การมีหนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา หนี้สินมีหลายแบบ คนเราเกิดมาไม่เท่ากัน บางคนไม่อยากเป็นหนี้แต่มีความจำเป็น แต่บางคนก็หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ เพราะโลภ อยากได้ อยากมี และคิดว่าหนี้ไม่ใช่ปัญหา โดยไม่ประเมินกำลังความสามารถในการหาเงินหารายได้หรือชำระหนี้ของตัวเอง นี่คือขาดการวางแผนการเป็นหนี้ แต่จะหนี้แบบไหน ถ้ามีขึ้นมาแล้วเป็นทุกข์ทั้งนั้น จึงต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจ ลดละเลิกความอยากได้อยากมีให้ได้ เพราะหนี้มันเกิดง่ายตามความอยาก ที่ซ้ำร้ายคือสิ่งเย้ายวนมีมากขึ้น เดี๋ยวนี้ใครมีอะไรก็โชว์บนเฟส พอเข้าไปเห็นก็อยากได้ อยากไปเที่ยวบ้าง อยากกินบ้าง เวลาอยากได้ของก็ไม่ต้องไปร้าน แค่กดซื้อออนไลน์ […]

ส่งออกเดือนม.ค.61ขยายตัวสูงสุดในรอบ 62 เดือน

ส่งออกเดือนม.ค.61ขยายตัวสูงสุดในรอบ 62 เดือน

การส่งออกเดือนม.ค.อยู่ที่ 20,101 ดอลลาร์ฯ ขยายตัว +17.6% YoY (prev +8.6% YoY ) เป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 62 เดือน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 20,220 ล้านดอลลาร์ฯ ขยายตัว +24.3% YoY (prev +16.6% YoY) การนำเข้าเร่งตัวสูงกว่าส่งออกส่งผลให้การค้าเดือนม.ค.ขาดดุล -119 ล้านดอลลาร์ฯ (เดือนก่อนหน้าขาดดุลที่ -278.1 ล้านดอลลาร์ฯ) การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 ที่ +16.2% YoY สินค้าส่งออกที่ขยายตัวดี ได้แก่ ข้าว ขยายตัว +37.2% YoY ขยายตัวต่อเนื่องในระดับสูงโดยเฉพาะตลาดบังคลาเทศ เบนิน แอฟริกาใต้ ฮ่องกง สหรัฐฯ แคเมอรูน และจีน ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ขยายตัว +42.3% YoY […]

หุ้นไทยปิดบวกเล็กน้อย อยู่ที่ 1,801.16 จุด

หุ้นไทยปิดบวกเล็กน้อย อยู่ที่ 1,801.16 จุด

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ (21 ก.พ. 61) ที่ระดับ 1,801.16 จุด เพิ่มขึ้น 0.14 จุด หรือ 0.01%โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,814.83 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,797.79 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขาย ณ เวลา 17.07 น. อยู่ที่ 84,181.85 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 522.00 บาท เพิ่มขึ้น 32.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 17,092.95 ลบ. 2.IVL ปิดที่ 52.25 บาท ลดลง -2.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,106.86 […]

เจพีมอร์แกน มองเงินเฟ้อขาขึ้น หนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งตาม

เจพีมอร์แกน มองเงินเฟ้อขาขึ้น หนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งตาม

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เจพีมอร์แกนเชสแอนด์โค (JPMorgan Chase & Co) คาดว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเป็นผลดีต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาแร่โลหะ และโลหะมีค่า ซึ่งรวมถึงทองคำ ‘อัตราเงินเฟ้อได้เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และนั่นจะเป็นผลดีต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์’ เจพีมอร์แกนระบุ โดยรายงานล่าสุดของเจพีมอร์แกนระบุว่าปัจจัยที่เป็นผลดีต่อต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น โดยราคาสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ ซึ่งเจพีมอร์แกนคาดว่า ราคาวัตถุดิบอุตสาหกรรมจะได้รับผลดีที่สุดในช่วงที่วงจรเศรษฐกิจเข้าสู่ช่วงปลายของการขยายตัว ‘อัตราเงินเฟ้อที่กำลังเพิ่มขึ้นเป็นผลดีต่อสินค้าโภคภัณฑ์ อันที่จริง ราคาโลหะ ทั้งที่เป็นวัตถุดิบอุตสาหกรรม และโลหะมีค่า ปรับเพิ่มขึ้นมานับตั้งแต่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2% ตามเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง’ เจพีมอร์แกนกล่าว แนะนำลงทุนในโลหะมีค่า เช่นทองคำ เงิน ทองคำขาว และลงทุนในทองแดง สังกะสี และนิกเกิ้ล โดยคาดว่า จะให้ผลตอบแทนในระดับสูงสุดในช่วง 1 ปีข้างหน้าบนสมมุติฐานที่ว่า วงจรขาขึ้นจะยืนออกไปยาวกว่าปี 2018 และการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านั้นในขณะนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่แข็งแกร่งเท่านั้น

จีนพ้น “อดอยาก” ในปี 2020

จีนพ้น “อดอยาก” ในปี 2020

สำนักข่าวซินหวารายงาน จีนกำลังมุ่งมั่นช่วยประชาชนอีก 30 ล้านคน ให้พ้นจากสภาพอดอยากก่อนสิ้นปี 2020 ขณะที่ใน 5 ปีที่ผ่านมา จีนภายใต้การนำของผู้นำสี จิ้นผิง ได้บรรลุโครงการรณรงค์แก้จน โดยสามารถช่วยประชาชนมากกว่า 68 ล้านคน หลุดพ้นจากสภาพยากจน นาย หลิว หย่งฝู หัวหน้ากลุ่มการนำของสภามุขมนตรี เพื่อแก้ไขความยากจนและการพัฒนา แถลงในวันอาทิตย์ ( 18 ก.พ.) ว่า นับจากการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 18 เมื่อปลายปี 2012 ซึ่งเป็นปีที่สี จิ้นผิง ได้รับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการใหญ่พรรคฯสมัยแรก นับจากนั้นมา พรรคฯและรัฐบาลได้จับมือลุยมาตรการแก้ไขความยากจน ตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา ประชาชนทั้งสิ้น 68.53 ล้านคน ได้บอกลาชีวิตที่แร้นแค้นแล้ว โดยคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกลุ่มคนยากจนในประเทศจีน “ไม่มีความสำเร็จใดยิ่งใหญ่ไปกว่าการบรรเทาความยากจนของประชาชน” หลิวกล่าว […]

สิงคโปร์จ้องขึ้นภาษีสินค้าและบริการ (GST) ตามตลาดคาด

สิงคโปร์จ้องขึ้นภาษีสินค้าและบริการ (GST) ตามตลาดคาด

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2018 รัฐบาลสิงคโปร์เผยงบประมาณ FY2018 จัดไว้ให้ขาดดุล 6 ร้อยล้านดอลลาร์สิงคโปร์ พลิกจากการเกินดุล 9.61 พันล้านดอลลาร์ใน FY2017 สืบเนื่องจากการขาดดุลการคลังที่ไม่รวมรายจ่ายที่เกี่ยวกับภาระหนี้ (Primary Deficit) จากรายได้ดำเนินงาน (Operating Revenue) ที่ลดลงเหลือ 7.27 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่รายจ่าย (Expenditure) เพิ่มขึ้นเป็น 8.00 หมื่นล้านดอลลาร์ รายได้: เม็ดเงินภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินได้บุคคลยังคงไต่ขึ้น แต่รายได้ที่หดตัวลง มาจากส่วนสมทบของหน่วยงานราชการภายนอก (Statutory Boards’ Contribution) ที่ลดลงจาก 4.87 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เหลือเพียง 460 ล้านดอลลาร์ รายจ่าย: รายจ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 5.77 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (+2.8%) ระหว่างที่รายจ่ายพัฒนาประเทศอยู่ที่ 2.24 หมื่นล้านดอลลาร์ (+25.4%) โดยหากจำแนกตามกระทรวง […]

หุ้นไทยปิดลบ 8.65 จุด อยู่ที่ 1,801.02 จุด

หุ้นไทยปิดลบ 8.65 จุด อยู่ที่ 1,801.02 จุด

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ (20 ก.พ. 61) ที่ระดับ 1,801.02 จุด ลดลง -8.65 จุด หรือ -0.48% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,815.33 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,801.02 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขาย ณ เวลา 17.11น. อยู่ที่ 44,081.81 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.CPALL ปิดที่ 82.75 บาท ลดลง -1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,245.07 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 490.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,979.66 […]

ภาพรวมตลาดหุ้น มกราคม 2561

ภาพรวมตลาดหุ้น มกราคม 2561

ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในเดือนแรกของปี 2561 ต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว นำโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งหนุนด้วยราคาน้ำมันในตลาดโลก และหุ้นกลุ่มพาณิชย์บางตัวด้วยความคาดหวังต่อการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ ขณะที่มีการขายทำกำไรหุ้นบางตัวที่ราคาปรับขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า เช่น กลุ่มท่องเที่ยว หรือกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งกลุ่มธนาคารพาณิชย์นั้นผลประกอบการในไตรมาส 4/60 ที่ประกาศออกมาค่อนข้างต่ำกว่าที่ตลาดคาด ในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ตลาดเริ่มมีการปรับฐานลงหลังจากที่การเลือกตั้งในประเทศมีแนวโน้มจะถูกเลื่อนออกไปจากเดิมที่คาดกันว่าจะถูกจัดขึ้นภายในปีนี้ และยังมีประเด็นความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯเร็วกว่าที่คาด ทำให้เกิดแรงขายหนักในตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯและจีน ซึ่งเชื่อว่า แรงขายทำกำไรนี้น่าจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศหลักๆ ทั้งประเทศทางฝั่งตะวันตกและฝั่งเอเชีย ยังแสดงถึงการขยายตัวที่ดี แม้จะมีการปรับฐานบ้างแล้ว ระดับ P/E ตลาดหุ้นไทยเมื่อเทียบกับประมาณการกำไรปี 2561 ยังอยู่ที่ระดับมากกว่า 16.5 เท่า นับว่าตึงตัวพอสมควร แต่ว่าระดับ Valuation ของหุ้นในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นมีความแตกต่างกัน จึงมีหุ้นไทยบางส่วนที่ยังมีความน่าสนใจลงทุนอยู่ ขณะที่บางกลุ่มก็มีราคาแพงเกินพื้นฐาน การเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัวจึงมีความสำคัญมาก ซึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจนั้นน่าจะมีโมเมนตัมต่อเนื่อง และหนุนให้การคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในระยะหลังจากนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี และควรต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มที่มีมูลค่าสูงเกินไปให้มากขึ้น

หุ้นไทยปิดตลาดบวก 3.78 จุด อยู่ที่ 1,809.67 จุด

หุ้นไทยปิดตลาดบวก 3.78 จุด อยู่ที่ 1,809.67 จุด

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ (19 ก.พ. 61) ที่ระดับ 1,809.67 จุด เพิ่มขึ้น 3.78 จุด หรือ 0.21% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,819.36 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,809.14 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขาย ณ เวลา 17.17 น. อยู่ที่ 50,625.94 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.CPALL ปิดที่ 83.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,776.09 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 488.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย […]

โกลด์แมนแซคส์เตือน หนี้สาธารณะสหรัฐฯพุ่งสูงกว่า 100% ของจีดีพีในปี 2027

โกลด์แมนแซคส์เตือน หนี้สาธารณะสหรัฐฯพุ่งสูงกว่า 100% ของจีดีพีในปี 2027

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า โกลด์แมนแซคส์กรุ๊ป (Goldman Sachs Group) คาดว่าหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 100% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ในปี 2027 จากปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ 77% ของจีดีพี และจะทำให้ฐานะการคลังของสหรัฐฯย่ำแย่ที่สุดเท่าที่เคยประสบมา หรือ นับแต่ทศวรรษที่ 1940 และ 1990 โดยโกลด์แมนแซคส์คาดว่า นโยบายการคลังที่มุ่งกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้รัฐบาลกลางต้องก่อหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นจะทำให้ภาระหนี้สินของรัฐบาลกลางสหรัฐฯเพิ่มขึ้น เมื่อรวมกับปัจจัยเสริมจากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นแล้ว จะทำให้สหรัฐฯมีภาระดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่สูงกว่าในต้นทศวรรษที่ 1980 และ 1990 “นโยบายการคลังของสหรัฐฯกำลังเข้าสู่เขตแดนที่ไม่เคยเห็นมาก่อน กล่าวคือ ในอดีต เมื่อเศรษฐกิจขยายตัวแข็งแกร่ง แต่ภาระหนี้รัฐบาลเพิ่มขึ้น สภาคองเกรสจะตอบสนองด้วยการขึ้นภาษี และลดงบประมาณรายจ่าย แต่ในขณะนี้ ทุกอย่างกลับกัน” นายอเล็ก ฟิลิปส์ นักวิเคราะห์ที่โกลด์แมนแซคส์กล่าว