เฟดลดดบ.แน่ แม้เปลี่ยนเก้าอี้ นโยบายการเงินยังคงเดิม
เฟดลดดอกเบี้ยแน่ แม้เปลี่ยนเก้าอี้ นโยบายการเงินยังคงเดิม นักวิเคราะห์มองลดเกิน 0.75% การหมุนเวียนสับเปลี่ยนตำแหน่งประจำปีของคณะกรรมการผู้มีสิทธิออกเสียง กำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ในปี 2567 โน้มเอียงมาทางสายเหยี่ยว (hawkish) มากขึ้นกว่ากลุ่มที่กำลังจะพ้นตำแหน่งไปจากในปี 2566 อย่างไรก็ตาม การสับเปลี่ยนดังกล่าวจะไม่เปลี่ยนมุมมองต่อนโยบายสำคัญการหั่นอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า นักวิเคราะห์จำนวนมากมีข้อโต้แย้งที่ตรงกันข้าม โดยอัตราเงินเฟ้อที่ร่วงลงรวดเร็วอย่างต่อเนื่องกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งมองว่าผู้กำหนดนโยบายของเฟดหลายคนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.75% การเปิดเผยดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ธ.ค.) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดชอบใช้ในการพิจารณา ยังได้เสริมให้มุมมองที่เฟดต้องลดดอกเบี้ยแข็งแรงมากขึ้นไปอีก ทั้งมาตรวัดเงินเฟ้อผู้บริโภคแบบทั่วไปและแบบพื้นฐานที่ไม่รวมอาหารและพลังงานนั้น ชะลอตัวลงมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ซึ่งกำลังทำให้อัตราเงินเฟ้อรายปีในช่วง 3 เดือนและ 6 เดือนที่ผ่านมาของสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับหรือต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% ของเฟด ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงของการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดได้กลายมาเป็นสายพิราบ (dovish) หรือสายที่เน้นผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากหลักฐานจากข้อมูลที่สะสมมาเห็นชัดว่าแรงกดดันด้านราคาหรือเงินเฟ้อกำลังผ่อนคลายลง และตลาดแรงงานกำลังชะลอความร้อนแรงลงในการเผชิญกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดตั้งแต่เดือน มี.ค. ปี 2565 จนถึงเดือน ก.ค. ปี 2566 […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,413.45 จุด เพิ่มขึ้น 4.62 จุด (+0.33%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,413.45 จุด เพิ่มขึ้น 4.62 จุด (+0.33%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,406.50 จุด และสูงสุดที่ 1,414.44 จุด มูลค่าการซื้อขาย 33,948.24 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ BDMS ปิดที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 มูลค่าการซื้อขาย 1,706.11 ล้านบาท AOT ปิดที่ 60.00 บาท ลดลง 0.50 มูลค่าการซื้อขาย 1,285.45 ล้านบาท SCC ปิดที่ 301.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 มูลค่าการซื้อขาย 1,243.74 […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,408.83 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด (+0.27%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,408.83 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด (+0.27%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,404.35 จุด และสูงสุดที่ 1,409.41 จุด มูลค่าการซื้อขาย 21,857.77 ล้านบาท
B-ASIA B-ASIARMF B-ASIASSF B-BHARATA B-GLOBAL B-GLOBALRMF B-INDIAMRMF B-INNOTECH B-INNOTECHRMF B-INNOTECHSSF B-TOPTENRMF B-VIETNAM B-VIETNAMRMF BBLAM Weekly Investment Insights BEQSSF BERMF BKA BTP
BBLAM Weekly Investment Insights 25-29 ธันวาคม 2023
2023 – The Rise of Asia INVESTMENT STRATEGY BBLAM X Invesco “มุมมองการลงทุนในเอเชียระยะข้างหน้า “ปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุน” ในอินเดีย เกาหลีใต้ จีน เพราะมีโอกาสเติบโต “ปรับลดน้ำหนักลงทุน” ในไต้หวัน อินโดนีเซีย หลังจากราคาหุ้นปรับตัวขี้นมากแล้ว” BBLAM แนะนำกองทุน กองทุนลงทุนตราสารหนี้เน้นยืดหยุ่น : B-DYNAMIC BOND และ กองทุนลดหย่อนภาษี : B-DYNAMICRMF และ B-DYNAMICSSF กองทุนลงทุนหุ้นคุณภาพจากทั่วโลก : B-GLOBAL หรือกองทุนลดหย่อนภาษี B-GLOBALRMF กองทุนลงทุนใน Asia Ex Japan : B-ASIA หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-ASIARMF และ B-ASIASSF กองทุนลงทุนอินเดีย : B-BHARATA หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-INDIAMRMF และกองทุน SSF เลือก B-ASIASSF กองทุนลงทุนในเทคโนโลยี แต่พยายามเฟ้นหาหุ้นเทคฯพื้นฐานดี มูลค่ายังน่าลงทุน : B-INNOTECH หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-INNOTECHRMF และ B-INNOTECHSSF ลงทุนหุ้นเวียดนาม : B-VIETNAM หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-VIETNAMRMF และ B-VIETNAMSSF ลงทุนหุ้นไทยเน้นกระจายลงทุน : BKA หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ BERMF และ BEQSSF ลงทุนหุ้นไทยแบบเน้นเน้น : BTP หรือกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-TOPTENRMF และกองทุนลดหย่อนภาษีรูปแบบใหม่ ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดอีก 1 แสนบาท ได้แก่ B-TOP-THAIESG […]
ฮอนด้า เรียกคืนรถยนต์ 4.5 ล้านคันทั่วโลก รุ่นดัง ซีวิค-ซีอาร์วี โดนด้วย
รอยเตอร์ รายงานว่า หน่วยงานในอเมริกาของฮอนด้า มอเตอร์ กำลังเรียกคืนรถยนต์ประมาณ 4.5 ล้านคันทั่วโลก จากความเสี่ยงที่ปั๊มเชื้อเพลิงขัดข้อง การเรียกคืนครั้งนี้ ครอบคลุม รถยนต์จำนวน 2.54 ล้านคันในสหรัฐฯ โดยเกิดขึ้นหลังจากผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น เคยเรียกคืนรถยนต์ 628,000 คันในสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ในปี 2564 และ 136,000 คันในปี 2563 จากปัญหาเดียวกัน ฮอนด้า ได้เรียกคืนรถเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา จากปัญหาเดียวกันในจีนและญี่ปุ่น ทั้งนี้ บริษัทได้แจ้งต่อสำนักงานความปลอดภัยด้านการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติสหรัฐฯ (NHTSA) ว่าจะทำการเปลี่ยนระบบปั๊มเชื้อเพลิงในรถให้ใหม่ และมีแผนที่จะแจ้งย้ำเรื่องการเรียกคืนรถอีกครั้งในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า การเรียกคืนรถยนต์ครั้งนี้ ครอบคลุมรถยนต์หลายรุ่น ในปี 2018-2020 ได้แก่ Honda Accord, Civic, CR-V, HR-V, Insight, Ridgeline, Odyssey, Passport และรุ่น Acura หลายรุ่น รวมถึง […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 22 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,405.09 จุด เพิ่มขึ้น 0.25 จุด (+0.02%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 22 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,405.09 จุด เพิ่มขึ้น 0.25 จุด (+0.02%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,397.93 จุด และสูงสุดที่ 1,407.57 จุด มูลค่าการซื้อขาย 33,666.09 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ AOT ปิดที่ 60.25 บาท ลดลง 0.25 (-0.41%) มูลค่าการซื้อขาย 1,219.01 ล้านบาท DELTA ปิดที่ 92.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 (+1.10%) มูลค่าการซื้อขาย 1,208.36 ล้านบาท BBL ปิดที่ 150.50 บาท ลดลง 2.00 […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 21 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,404.84 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด (+0.32%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 21 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,404.84 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด (+0.32%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,394.28 จุด และสูงสุดที่ 1,407.87 จุด มูลค่าการซื้อขาย 38,806.30 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ PTT ปิดที่ 35.00 บาท ลดลง 0.25 (-0.71%) มูลค่าการซื้อขาย 2,535.01 ล้านบาท PTTGC ปิดที่ 37.75 บาท ลดลง 2.75 (-6.79%) มูลค่าการซื้อขาย 1,702.47 ล้านบาท DELTA ปิดที่ 91.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 […]
ราคาน้ำมันดิบโลก พุ่ง 1% ดันเบรนท์ทะลุ 80 ดอลล์ วิตกความตึงเครียดในทะเลแดง
ราคาน้ำมันดิบโลก พุ่ง 1% ดันเบรนท์ทะลุ 80 ดอลล์ WTI เฉียด 75 ดอลล์ โดยสัญญาทั้งสองยังเพิ่มขึ้นมากกว่า 4% เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน วิตกความตึงเครียดในทะเลแดง วันที่ 22 ธันวาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบโลก พุ่งขึ้นมากถึง 1% ในการซื้อขายวันศุกร์ (22 ธ.ค.2566) เนื่องจากความตึงเครียดยังคงมีอยู่ในตะวันออกกลาง ภายหลังการโจมตีเรือของกลุ่มฮูตีในทะเลแดง แม้ว่าการตัดสินใจของแองโกลาที่จะออกจากโอเปก (OPEC) ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกลุ่มในการสนับสนุนราคาน้ำมัน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.1% สู่ 80.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 04.09 น. GMT ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) […]
ดอลลาร์อาจอ่อนค่าในปี 2567 โพลชี้สกุลเงินสหรัฐจะร่วงลงเมื่อเทียบ G10 ในครึ่งปีหลัง
การปรับแกนนโยบายสำคัญของธนาคารกลางสหรัฐฯ มาเป็นสายพิราบ (dovish) หรือผ่อนคลายทางการเงินในเดือน ธ.ค.ได้สนับสนุนกรณีการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐให้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่ปี 2567 แม้ว่าความเข้มแข็งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจำกัดการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากทะยานสูงสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ จากการกลับมาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2565 ค่าเงินของสหรัฐฯ ได้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเป็นส่วนใหญ่ในปีนี้ จากการกลับมาของการเติบโตของสหรัฐฯ ที่ยืดหยุ่นกลับคืนสู่สภาพเดิม และการให้คำมั่นของธนาคารกลางจะยังคงรักษาต้นทุนการกู้ยืมให้สูงขึ้น การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งหนึ่งที่ไม่ได้คาดไว้ หลังจากประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวว่า การคุมเข้มนโยบายการเงินครั้งประวัติศาสตร์ซี่งได้นำพาอัตราดอกเบี้ยไปสู่ระดับสูงสุดของเฟดในรอบหลายทศวรรษนั้น น่าที่จะจบลงแล้ว เนื่องจากการชะลอลงของอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ผู้กำหนดนโยบายในขณะนี้ คาดการณ์ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.75% ในปีหน้า อัตราดอกเบี้ยที่ร่วงลงโดยทั่วไปถูกมองว่าเป็นแรงต้านสำหรับเงินดอลลาร์ ทำให้สินทรัพย์ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีความน่าดึงดูดน้อยลงต่อนักลงทุนที่แสวงหาอัตราผลตอบแทน ถึงแม้ว่านักกลยุทธ์ได้คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงในปีหน้า ซึ่งความรวดเร็วของการหั่นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วขึ้นอาจจะเร่งให้มีการปรับตัวลดลงของเงินดอลลาร์ การเดิมพันต่อการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ยังคงเป็นการดำเนินการที่ไม่น่าปลอดภัยในช่วงไม่กี่ปีมานี้ และนักลงทุนบางส่วนได้ระมัดระวังการดำเนินการก่อนช่วงเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในกลุ่ม อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงอุปสรรคต่อนักลงทุนที่มองในขาลง (bearish) ของเงินดอลลาร์ โพลของรอยเตอร์ที่สำรวจนักกลยุทธ์ 71 รายเมื่อต้นเดือน […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 20 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,400.37 จุด เพิ่มขึ้น 5.47 จุด (+0.39%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 20 ธ.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,400.37 จุด เพิ่มขึ้น 5.47 จุด (+0.39%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,395.19 จุด และสูงสุดที่ 1,406.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,449.44 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ AOT ปิดที่ 59.50 บาท ลดลง 0.75 (-1.24%) มูลค่าการซื้อขาย 2,777.70 ล้านบาท PTT ปิดที่ 35.25 บาท ลดลง 0.50 (-1.40%) มูลค่าการซื้อขาย 1,992.75 ล้านบาท JAS ปิดที่ 2.02 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 […]