กองทุนบัวหลวงมองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 2019 ในเชิงบวกแต่ชะลอลงจากปี 2017-2018

กองทุนบัวหลวงมองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปี 2019 ในเชิงบวกแต่ชะลอลงจากปี 2017-2018

BF Economic Research ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา GDP ไตรมาส 3/2018 (ประมาณการรอบที่สอง) ขยายตัว 3.5% QoQ, saar ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 4.2% QoQ saar โดยปัจจัยหลักที่หนุนการขยายตัวมาจากนโยบายลดภาษีที่ทำให้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนเร่งตัวขึ้น ขณะที่การส่งออกสุทธิพลิกกลับมาหดตัวหลังจากที่ขยายตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2017 เศรษฐกิจสหรัฐฯในช่วงที่ผ่านมาได้รับอานิสงส์จากการลงทุนภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง ทิศทางเศรษฐกิจปี 2019 และแนวทางด้านนโยบาย เราคาดว่า GDP สหรัฐฯ ในปี 2018-2019 จะขยายตัว 3.0% และ 2.3% ตามลำดับ ทำให้เมื่อเฉลี่ย 2 ปีจะขยายตัวที่ 2.7% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ส่วนอัตราการว่างงานก็มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ทั้งนี้ การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปี 2018-2019 ที่เรามองว่าอยู่เหนือกว่าค่าเฉลี่ยนั้น จะมาจากการลงทุนภาคเอกชน (CAPEX) เป็นหลัก เนื่องจากนโยบายลดภาษีนิติบุคคล และการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีอื่นๆ เพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศ […]

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้

BF Economic Research ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 10% คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นการตอบโต้จากที่จีนฉวยโอกาสใช้ Technology Transfer จากเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ โดยนับตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. สหรัฐฯจะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 10% และจากนั้นจะเพิ่มเป็น 25% ตั้งแต่ช่วงต้นปีหน้า สำหรับรายสินค้าของจีนที่จะถูกเรียกเก็บในครั้งนี้ มีอยู่เกือบ 6,000 รายการ ซึ่งถือเป็นรายการสินค้าจำนวนมากที่สุดเท่าที่สหรัฐฯดำเนินมาตรการกับจีน โดยสินค้าเหล่านี้รวมถึงกระเป๋าถือ ข้าว และสิ่งทอ ทั้งนี้ได้นำเอาสินค้าจำนวน 300 รายการออกจากการกีดกันภาษีครั้งนี้ อาทิ Smartwatches, สินค้าเคมีภัณฑ์, หมวกกันนอค และเก้าอี้ นอกจากนี้ ประธานาธิบดีกล่าวว่าหากจีนใช้มาตรการตอบโต้กลับก็จะยกระดับการกีดกันทางการค้ากับสินค้าจากจีนอีก 2.67 แสนล้านดอลลาร์ฯ ทางด้านจีน ยังไม่ได้ตอบโต้อย่างเป็นทางการ รองนายกฯ หลิว เหอ ของจีนจะประชุมในช่วงเช้าของวันนี้ […]

สภาผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจีนมูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ที่อัตราภาษี 25% ในวันที่ 23 ส.ค.

สภาผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจีนมูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ที่อัตราภาษี 25% ในวันที่ 23 ส.ค.

BF Economic Research สภาผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจีนมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ที่อัตราภาษี 25% ในวันที่ 23 ส.ค.นี้ หลังสินค้าในกลุ่มดังกล่าวเสร็จสิ้นกระบวนการรับฟังความเห็นจากสาธารณะ การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในรอบนี้ นับเป็นรอบที่สองตามแผนการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ารวม 5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯที่ USTR ได้ประกาศไปในช่วงกลางเดือน มิ.ย. โดยในรอบแรกสหรัฐฯ ได้ขึ้นภาษีกับสินค้าจีนมูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ มีผลบังคับใช้ไปแล้วในวันที่ 6 ก.ค. ซึ่งจีนได้ตอบโต้ด้วยการประกาศมาตรการตอบโต้โดยเริ่มเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% กับสินค้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นจำพวกสินค้าเกษตร และรถยนต์ และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. เช่นเดียวกัน ในลำดับถัดไป สหรัฐฯ กำลังอยู่ในกระบวนการพิจารณา ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ ที่อัตราภาษี 10% (และอาจกำลังพิจารณาปรับเพิ่มขึ้นเป็น 25%) […]

สภาผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ารวม 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ จากเดิมกำหนดอัตราเก็บภาษีนำเข้าที่ 10% เป็น 25% ด้านจีนตอบโต้สวนกลับทันที

สภาผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ารวม 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ จากเดิมกำหนดอัตราเก็บภาษีนำเข้าที่ 10% เป็น 25% ด้านจีนตอบโต้สวนกลับทันที

BF Economic Research สภาผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ารวม 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ จากเดิมกำหนดอัตราเก็บภาษีนำเข้าที่ 10% เป็น 25% ด้านจีนตอบโต้สวนกลับทันที ในขั้นตอนต่อไปรายชื่อสินค้าดังกล่าวจะเข้าสู่กระบวนการรับฟังความเห็นจากสาธารณะซึ่งจะปิดรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 30 ส.ค. และภาษีจะมีผลบังคับใช้ได้อย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นเดือน ก.ย. สำหรับสินค้าที่จะถูกเก็บภาษีเพิ่มเติมในรอบนี้ประกอบด้วยสินค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์และทีวี เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้าและเครื่องหนัง เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ชิ้นส่วนรถยนต์ เคมีภัณฑ์ พลาสติก ไม้แปรรูป ยาง อุปกรณ์ทางการเกษตร และสินค้าเกษตร เช่น เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ข้าว ธัญพืช ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้เริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ เมื่อวันที่ 6 ก.ค. และภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนอีก 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ […]

GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 2/2018 เร่งตัวขึ้นเป็น +4.1% QoQ, saar สูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี

GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 2/2018 เร่งตัวขึ้นเป็น +4.1% QoQ, saar สูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี

BF Economic Research GDP สหรัฐฯไตรมาส 2/2018 (Advance Estimate) ขยายตัวที่ +4.1% QoQ, saar จากไตรมาสก่อนที่ +2.2% QoQ, saar โดยนับเป็นการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3/2014 ปัจจัยหนุนหลักมาจากภาคส่งออก (+9.3% QoQ, saar vs. +3.6% ไตรมาสก่อน) สะท้อนว่าธุรกิจเร่งการส่งออกก่อนการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ในเดือนก.ค. เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนของสงครามการค้า ส่วนการบริโภคขยายตัวได้ดีที่ +4.0% QoQ saar จากไตรมาสก่อนหน้าที่ Flat สะท้อนจากยอดค้าปลีกที่ขยายตัวต่อเนื่อง เราคาดว่า GDP ทั้งปี 2018 จะขยายตัว +2.8% YoY ต่อเนื่องจากปีก่อนที่ขยายตัว +2.3% YoY จากการลดภาษี ซึ่งจะสนับสนุนการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนต่อไป แต่การส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัวลงในระยะข้างหน้า จากความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าและเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่า […]

สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจากจีนอีก

สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้ากับสินค้าจากจีนอีก

BF Economic Research หลังจากที่ ปธน.สหรัฐฯ ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้า 25% กับสินค้านำเข้ามูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ (ส่วนใหญ่เป็นสินค้ากลุ่ม High-tech) เริ่มวันที่ 6 ก.ค. และในระยะที่สองจะปรับขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้ามูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ (กลุ่มเคมีภัณฑ์และรถยนต์) ในอีกสองสัปดาห์ โดยที่สหรัฐฯ ได้ให้เหตุผลต่อการปรับขึ้นภาษีเนื่องจาก เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่จีนจะได้เปรียบด้าน Technology Transfer สืบเนื่องจากนโยบายการสนับสนุนของรัฐบาลจีน  (Made in China “2025”) นั้น ทางรัฐบาลสหรัฐฯ ได้แสดงความไม่พอใจต่อท่าทีของจีนที่ตอบโต้กลับด้วยมาตรการที่ใกล้เคียงกัน โดยสหรัฐฯ ได้ให้เหตุผลว่า “ เป็นการตอบโต้ที่ไม่สอดคล้องกับเกณฑ์ทางการค้าระหว่างประเทศ” ในวันนี้ (11 ก.ค.) ปธน.สหรัฐฯ จึงได้ตัดสินใจตอบโต้กลับด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้า 10% กับสินค้านำเข้ามูลค่า 2.0 แสนล้านดอลลาร์ฯกับจีน โดยใช้อำนาจภายใต้  Section 301 ใต้พรบ.การค้า […]

อเมซอนเตรียมเปิดตัวร้านค้าปลีกไร้เงินสดแห่งที่สอง

อเมซอนเตรียมเปิดตัวร้านค้าปลีกไร้เงินสดแห่งที่สอง

ไชน่าเดลี่ รายงานว่า อี-คอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอย่างอเมซอน เตรียมเปิดตัวร้านที่ใช้ระบบไร้เงินสดแห่งที่สองในปีนี้ในย่านเมืองซีแอตเทิล โดยคาดว่าจะเปิดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง 2018 อเมซอน ได้ประกาศออกมาว่าภายในไม่เกิน 6 เดือน หลังจากที่เปิดตัวร้านสะดวกซื้อที่ใช้ระบบไร้เงินสด Amazon Go แห่งแรกไปเมื่อเดือน ม.ค. จะเปิดตัวร้านแห่งต่อไป โดยร้านค้านี้เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดของความทันสมัย แต่เดินออกมาก็ช้อปปิ้งได้แล้ว เนื่องจากผู้บริโภคสามารถสแกนสมาร์ทโฟนของตัวเองที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่นเอาไว้ก่อนที่จะเข้าไปสู่ร้านค้า เมื่อผู้บริโภคหยิบสิ่งของที่ต้องการและใส่ลงในรถเข็นเสมือนจริง กล้องและเซนเซอร์ติดตั้งอยู่บนเพดานของร้านก็จะติดตามความเคลื่อนไหวต่างๆ ภายในร้าน เมื่อจบการช้อปปิ้งแล้ว ทางร้านก็จะตัดเงินอัตโนมัติผ่านแอพพลิเคชั่นอเมซอนเมื่อเดินออกจากร้านผ่านประตูที่มีเครื่องสแกนอยู่ สื่อต่างชาติรายงานว่า ร้านค้าแห่งที่สองจะตั้งอยู่ห่าง 1.6 กิโลเมตรจากสาขาแรกที่เปิดไปแล้ว ขณะที่อนาคตก็เตรียมเปิดตัวร้านค้าในลักษณะเดียวกันนี้ที่ชิคาโก และซานฟรานซิสโก เพื่อขยายธุรกิจจากร้านค้าปลีกออนไลน์ไปสู่ร้านค้าปลีกที่มีสถานที่ตั้งจริง

“ทรัมป์-ปูติน” เตรียมพบกัน 16 ก.ค.นี้

“ทรัมป์-ปูติน” เตรียมพบกัน 16 ก.ค.นี้

ทรัมป์และปูติน เตรียมประชุมสุดยอดเฮลซิงกิ วันที่ 16 ก.ค. นี้ ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐและประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะพบปะกันในวันที่ 16 ก.ค. นี้ ที่เฮลซิงกิ เมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ ซึ่งถือเป็นการประชุมสุดยอดอย่างเป็นทางการร่วมกันครั้งแรกที่จะถูกจับตาอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ 2 ประเทศประกาศรายละเอียดการประชุมครั้งนี้ออกมาภายหลังจากนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ เดินทางไปเยือนกรุงมอสโก รัสเซีย เมื่อวันพุธ โดยทั้ง 2 ประเทศจะหยิบยกประเด็นความสัมพันธ์และความมั่นคงปลอดภัยของชาติมาหารือกัน โดยประเด็นเกี่ยวกับซีเรียและยูเครน เป็นหนึ่งในหลายประเด็นที่จะหยิบขึ้นมาถกกัน การประชุมครั้งนี้ จะเป็นที่จับตาของกลุ่มที่ไม่ยอมรับปูติน เช่น อังกฤษ รวมถึงกลุ่มที่กังวลว่าทรัมป์จะมีมิตรภาพที่ดีมากกับผู้นำรัสเซีย

สหรัฐชี้ประกาศจำกัดการลงทุนไม่เจาะจงแค่จีนแต่รวมประเทศอื่นด้วย

สหรัฐชี้ประกาศจำกัดการลงทุนไม่เจาะจงแค่จีนแต่รวมประเทศอื่นด้วย

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ออกมาระบุว่า ประกาศที่จะออกโดยรัฐบาลสหรัฐเกี่ยวกับการจำกัดด้านการลงทุนนั้นจะถูกใช้กับจีนและประเทศอื่นๆ ที่ละเมิดสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาในเทคโนโลยีของสหรัฐ “ประกาศการจำกัดการลงทุนที่จะออกมานั้น ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงแค่จีนเท่านั้น แต่หมายรวมถึงทุกๆ ประเทศที่พยายามจะขโมยเทคโนโลยีของเรา” มนูชิน กล่าวผ่านข้อความทวิตเตอร์ของเขา ทั้งนี้ รัฐบาลของทรัมป์ เตรียมประกาศการจำกัดการลงทุนจากนักลงทุนจีนในสหรัฐและระงับการส่งออกเทคโนโลยีเพิ่มเติมไปยังประเทศในเอเชีย เพราะมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้ รายงานข่าวยังระบุว่า มนูชิน ทำงานเกี่ยวกับแผนการจำกัดการลงทุนมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ธ.ค. ปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะประกาศแผนนี้ออกมาให้นักลงทุนต่างชาติในสหรัฐได้รับทราบในช่วงสิ้นเดือนนี้ ก่อนหน้านี้ Rhodium Group บริษัทด้านที่ปรึกษาและวิจัย ระบุว่า ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.) นักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนและซื้อกิจการในสหรัฐเพียงแค่ 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงไปถึง 92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการลดลงอย่างรวดเร็วต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีหลังของปีที่แล้ว หลังเผชิญแรงกดดันจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ

Fed มีมติปรับดอกเบี้ย 1.75-2.0% Dot Plot สะท้อนทั้งปีปรับ 4 ครั้ง

Fed มีมติปรับดอกเบี้ย 1.75-2.0% Dot Plot สะท้อนทั้งปีปรับ 4 ครั้ง

BF Economic Research  คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.75-2.0% (จากที่ได้ปรับดอกเบี้ยขึ้นในครั้งก่อนเมื่อเดือน มี.ค.) ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาด ขณะที่ FOMC มีมติปรับขึ้น Fed Fund Rate 0.25% แต่กลับปรับขึ้น IOER 0.2% เป็นผลให้ IOER ขยับขึ้น 1.95% ต่ำกว่า Fed Fund Rate 0.05% พร้อมกันนี้ FOMC ได้กล่าวว่า ได้เริ่มการลดงบดุลตามแผนที่ได้เคยระบุไว้ในเดือน มิ.ย. 2017 ในการประชุมดังกล่าวได้เผยประมาณการเศรษฐกิจ (GDP, Unemployment, และ Inflation) ส่วนใหญ่เป็นการปรับประมาณการเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ให้ระยะกลาง-ยาว เท่าเดิม (สะท้อนว่า Fed มองว่า […]