Fund Comment – EQUITY (กันยายน 2560)

Fund Comment – EQUITY (กันยายน 2560)

  ภาพรวมตลาดหุ้น ตลาดหุ้นไทยยังทยอยปรับขึ้นในเดือนกันยายน และนักลงทุนต่างชาติได้กลับเข้ามาซื้อหุ้นไทย ด้วยมูลค่าการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในเดือนนี้กว่า 6,500 ล้านบาท สูงที่สุดเป็นรายเดือนนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เป็นสัดส่วนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากความคาดหวังต่อการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจไทยนั้นมีสัญญาณที่ดีขึ้นทั้งในภาคการส่งออก การลงทุนเอกชน และการบริโภคในประเทศ ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไปถึงปีหน้า ตลาดที่ปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เป็นผลการแรงซื้อหุ้นกลุ่ม Big Cap ที่กระจายไปในหลายอุตสาหกรรม รวมทั้งการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจในประเทศ เช่น กลุ่มค้าปลีก กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หรือกลุ่มผู้ให้บริการสินเชื่อ เป็นต้น ซึ่งแม้หุ้นเหล่านี้จะปรับตัวขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับมูลค่าพื้นฐานของปี 2018 ขณะที่หุ้นซึ่งเป็นตัวแทนของเศรษฐกิจไทยอย่างหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ นั้นนับว่ายังไม่ได้ปรับตัวขึ้นมากนัก และผลประกอบการในไตรมาส 3 และ 4 ของปี 2017 น่าจะมีสัญญาณที่ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งน่าจะทำให้มีการทยอยปรับการคาดกาณณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนได้สูงขึ้นในอนาคต เมื่อประกอบกับการที่นายกรัฐมนตรีประกาศจะมีการเลือกตั้งในปี 2561ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ในช่วงหลังจากนี้ ด้านความเสี่ยงในช่วงนี้ ยังไม่เห็นปัจจัยที่มีนัยสำคัญต่อตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยปัจจัยในประเทศนั้นส่วนใหญ่จะเป็นปัจจัยเกื้อหนุนตลาดมากกว่า ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศนั้น FED ได้ส่งสัญญาณที่จะปรับลดการถือครองสินทรัพย์ (Balance […]

Key Take Away วันแรกของการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 19 (National Party Congress)

Key Take Away วันแรกของการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 19 (National Party Congress)

    เมื่อ 18 ต.ค. การประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 19 (National Party Congress) เปิดฉากขึ้นแล้วที่มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง และจะดำเนินไปถึงวันที่ 25 ต.ค. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมหรือที่เรียกว่า Political Report โดยมีใจความสำคัญ (Key Takeaways) ดังนี้;   Political Report เน้นย้ำการพัฒนาสังคมจีนไปสู่ 小康社会 ภายในปี 2020 (xiǎokāngshèhuì) หรือที่เป็นภาษาอังกฤษว่า Moderate Properous Society (คำนี้ใช้ตั้วแต่สมัยหูจิ่นเทา เน้นย้ำให้สังคมเข้าสู่กลุ่มรายได้ปานกลาง ให้ประชากรอยู่อย่างสะดวกสบาย แม้ว่าจะไม่ฟุ้งเฟ้อ แต่ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น) เพื่อให้ประเทศจีนบรรลุความฝันของชาวจีน (Chinese Dream ในนิยามนี้คือ เป้าหมายเป็นประเทศที่มีความทันสมัยในระบอบสังคมนิยมที่มีความเข้มแข็งฯและฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ของชาติจีน หรือ Achieving the great renewal of the Chinese nation) โดยในเป้าหมายระยะยาวสีจิ้นผิงได้น้อมนำวิสัยทัศน์ของเติ้งเสี่ยวผิงให้จีนรุ่งเรืองภายในปี 2035 และให้แข็งแกร่งมั่งคั่งภายในปี 2050 […]

E-Commerce : ‘จุดเปลี่ยน’ หรือ ‘จุดจบ’ ของโมเดิร์นเทรดอาเซียน

E-Commerce : ‘จุดเปลี่ยน’ หรือ ‘จุดจบ’ ของโมเดิร์นเทรดอาเซียน

  ตลาดค้าปลีกออนไลน์หรือ E-Commerce ในอาเซียนมีขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ แต่มีศักยภาพการเติบโต โดยได้แรงสนับสนุนจากปัจจัยต่างๆ อาทิ กำลังซื้อของผู้บริโภคที่สูงขึ้น การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ขยายวงกว้างขึ้น และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางออนไลน์ที่เข้มข้นขึ้น ทั้งหมดกำลังช่วยผลักดันให้ตลาดในภูมิภาคนี้มีอัตราการเติบโตที่สูงต่อไปในอนาคต ตามรายงานของ เอ. ที. เคียร์เน่ บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจชั้นนำของโลก ตลาดค้าปลีกออนไลน์ใน 6 เศรษฐกิจหลักของอาเซียน (ASEAN 6) ซึ่งประกอบด้วย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม มีมูลค่ารวมราว 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสิงคโปร์มีขนาดใหญ่สุดราว 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่มาเลเซียและอินโดนีเซียอยู่ในอันดับสองร่วมกันราว 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยมีขนาดตลาดราว 0.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รายงานระบุว่า ตลาดค้าปลีกออนไลน์ในกลุ่ม ASEAN 6 ยังค่อนข้างเล็ก คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่าร้อยละ 1 ของตลาดค้าปลีกออนไลน์ทั้งโลก ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) […]

Morning Brief 19/10/17

Morning Brief 19/10/17

    สีเน้นเปิดประเทศจีนกว้างขึ้นสำหรับนักลงทนต่างประเทศ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงประกาศว่าจีนสนับสนุนระบบเศรษฐกิจโลกที่เปิด และสัญญาว่าจีนจะเดินหน้าเปิดเสรีเพื่อให้นักลงทุนต่างชาติสามารถเข้ามาลงทุนในจีนได้สะดวกยิ่งขึ้น “ประตูของประเทศจีนจะไม่ปิด แต่จะเปิดกว้างมากขึ้น” สีพูด สีพูดในช่วงงานเปิดประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่19ที่กรุงปักกิ่ง โดยย้ำว่าที่ผ่านมาจีนประสบความสำเร็จในการดำเนินตามระบบสังคมนิยมแบบจีนๆ และจีนจะสามารถสร้างสังคมที่มีความร่ำรวยพอประมาณตามเป้าหมายได้ สีบอกว่า นอกจากจะผลักดันนโยบายเปิดเสรีแล้ว จีนจะเปิดโอกาสให้กลไกตลาดได้ทำงาน เพื่อที่จะทำให้ระบบเศรษฐกิจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในการใช้ทรัพยากร โดยที่ระบบอัตราแลกเปลี่ยน และระบบอัตราดอกเบี้ยต่อไปจะถูกกำหนดโดยกลไกตลาดมากยิ่งขึ้น สีบอกว่า รัฐบาลจะยกเลิกกฎระเบียบ หรือวิธีปฏิบัติที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาตลาด และการแข่งขันที่เป็นธรรม และจะสนับสนุนบริษัทของเอกชน และกระตุ้นให้มีการแข่งขัน นักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจกับนโยบายที่สีแถลงมาก เพราะว่าทุกคนอยากจะเห็นว่าสีมีความเด็ดเดี่ยวเพียงใดในการดำเนินการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจของจีน ซึ่งได้ชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา การที่เศรษฐกิจจีนจะต่ออย่างยั่งยืนต่อไปได้ ต้องผ่านการปฏิรูป โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐวิสาหกิจใหญ่ๆทั้งหลาย ที่หลายแห่งไม่สามารถแข่งขั้นได้อีกต่อไป สีบอกว่า รัฐบาลจะสนับสนุนกลไกตลาดในการแก้ไขรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งจะสนับสนุนการควบรวมกิจการสำหรับรัฐวิสาหกิจ

Innovating Thailand “Speed up…Speed up และ Speed up”

Innovating Thailand “Speed up…Speed up และ Speed up”

ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดมุมมองไว้ในงาน “เศรษฐกิจคิดใหม่” BOT Symposium 2017 : Innovating Thailand ไว้ว่า “พลังของเทคโนโลยีทุกวันนี้รุนแรงมาก” เป็นได้ทั้งความเสี่ยงและโอกาสในเวลาเดียวกัน เทคโนโลยีกำลังทำให้สิ่งที่เราเคยได้รายได้บางอย่างหายไป แต่ก็กำลังสร้างโอกาสในอีกด้านที่สำคัญเป็นแบบก้าวกระโดด เป้าหมายใหม่ต้องอยู่ภายใต้สมมุติฐานว่าจะไม่มีการขาดแคลนสินค้าต่างๆ อีกต่อไป เพราะการผลิตใช้ระบบอัตโนมัติ ทำให้ต้นทุนถูกลง ทำให้ประเทศไทยจึงต้องปรับตัวจากอุตสาหกรรมการผลิตแบบเดิมไปสู่แบบใหม่ ที่เครื่องจักรทดแทนไม่ได้ คือเป็นการผลิตงานฝีมือ เป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะส่วนบุคคลมากขึ้น ทำในสิ่งที่คอมพิวเตอร์จะมาทดแทนไม่ได้ และยังมีโอกาสตามมาในด้านการท่องเที่ยว เพราะเมื่อเทคโนโลยีมาทำแทนคนในหลายด้าน คนมีเวลาและมีเงินมากขึ้น คนก็อยากไปเที่ยว อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะเป็นอนาคตของประเทศไทยได้ “เมื่อวัตถุเป็นของที่หาง่าย คุณค่าทางจิตใจจะเป็นของที่สำคัญมากขึ้น การบริการเฉพาะบุคคลที่ผนวกกับบริการประเภทนี้จะเป็นทางออกของประเทศไทย แต่ต้องวางตำแหน่งทางธุรกิจและพัฒนาโมเดลธุรกิจของประเทศให้ชัดเจน” ขณะที่จุดอ่อนของอีโคซิสเต็มในไทยที่สำคัญคือ มหาวิทยาลัยและระบบการศึกษาที่ไม่เชื่อมต่อกับภาคอุตสาหกรรม   “มหาวิทยาลัยในไทยมีปัญหาที่สปีดช้ามากและไร้จุดหมายว่าจะเอางานวิจัยไปทำอะไร ขณะที่ในยุคที่เทคโนโลยี สปีดเป็นเรื่องสำคัญมาก ฉะนั้นมหาวิทยาลัยต้องเกาะไปกับคนที่เร็วกว่าและคนที่รู้ทิศทาง คือภาคเอกชนในประเทศที่รู้ว่าจะเอานวัตกรรมไปผลิตสินค้าและบริการอะไร และองค์กรหรือมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่พัฒนาระบบนวัตกรรมมีความชัดเจน ระบบลงตัวและรู้ทิศทางของตนเอง” ตัวอย่างบริษัทโลกที่ลงทุนในไทยอยู่แล้ว อย่างฮาร์ดดิสก์หรือรถยนต์ แต่มีความเชื่อมโยงกับระบบนวัตกรรมในไทยน้อยมาก ทั้งที่มีงบฯ ทำวิจัยสูง […]

Welcome to a New, Better India

Welcome to a New, Better India

อินเดีย แดนภารตะ เมื่อเอ่ยถึงประเทศนี้ ถ้าไม่นับเรื่องของเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วแล้ว เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่จะนึกถึงภาพลักษณ์ที่อาจจะไม่ได้ดีมากนัก ทั้งสภาพบ้านเมือง หรือความแออัดของประชากรที่เราเคยได้เห็นผ่านทางสื่อ แต่เชื่อหรือไม่ว่า ชาวอินเดียเองนั้นตระหนักดีถึงข้อเสียเหล่านี้ และสิ่งต่างๆ เหล่านี้กำลังจะเปลี่ยนไป เร็วๆ นี้ มีแนวโน้มที่น่าสนใจเกิดขึ้นในอินเดีย ก็คือ มีกลุ่มคนรุ่นใหม่กลุ่มหนึ่งที่พยายามจะเปลี่ยนอินเดียให้เป็นสถานที่ที่ดีขึ้น แต่การจะเปลี่ยนประเทศหนึ่งที่ใหญ่และยุ่งเหยิงขนาดนั้นให้ดีขึ้น โดยไม่ได้ทุนทรัพย์หรืออำนาจใดๆ มันจะต้องเริ่มจากตรงไหน อันดับแรก และใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด ต้องเริ่มจากการสื่อสารหรือรณรงค์ค่านิยมดีๆ ให้แผ่ขยายขึ้นมาก่อน ในเมืองหลวงของอินเดีย มีกลุ่มวัยรุ่นที่เคลื่อนไหวเรียกร้องด้วยแคมเปญ ‘Do Nice Sh*t’ ซึ่งสนับสนุนให้คนทำความดีเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น คนกลุ่มนี้ไม่ใช่ NGO และไม่ได้รับเงินบริจาคใดๆ เขาเพียงแต่แลกเปลี่ยนวิธีการช่วยเหลือสังคมกับคนที่มีความสนใจว่า เขาสามารถทำความดีอะไร เพื่อช่วยอะไรขึ้นมาได้บ้าง แล้วก็เผยแพร่ลงไปในโซเชียลมีเดีย กิจกรรมเหล่านั้นก็มีตั้งแต่ ให้คอมพิวเตอร์กับเด็กนักเรียนด้อยโอกาส รณรงค์สร้างนิสัยขับขี่ที่ปลอดภัย  แจกสิ่งของให้คนยากจนในสลัม ปลูกต้นไม้ในสวนสาธารณะ ไปจนถึงเรื่องเล็กๆ อย่าง เอาน้ำสะอาดมาให้สุนัขจรจัดในช่วงหน้าร้อน เรียกว่า เป็นการสร้างค่านิยมที่ทำให้คนรู้สึกว่า การได้ทำความดีให้สังคมนั้นเป็นเรื่องเท่ห์และน่าภูมิใจ โดยผู้ก่อตั้งแคมเปญนี้ […]

สายการบินตะวันออกกลาง หาทางลดต้นทุน

สายการบินตะวันออกกลาง หาทางลดต้นทุน

เมื่อพูดถึงกว่า 30 ปีที่ผ่านมา ความได้ประโยชน์ทางภูมิศาสตร์ของเจ้าน่านฟ้าอย่าง “เอมิเรตส์” “ทิฮัด” และ “กาตาร์” ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมต่อซีกโลกตะวันออกกลาง ทำให้ตลอดทศวรรษต่างมีความสุขกับตัวเลขนักเดินทางที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าในทุกๆ ปี แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีสัญญาณของความไม่สดใสต่างรุมเร้าธุรกิจอย่างหนัก ตั้งแต่การที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคากันอย่างหนักจากโลว์คอสต์แอร์ไลน์ ขณะที่ทั้ง 3 สายการบินยังให้บริการแบบฟูลเซอร์วิส ปัญหาราคาน้ำมันโลกที่ตกต่ำช่วง 2 ปีที่ผ่านมาส่งผลต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอ่าว การก่อการร้ายทั่วโลก คำสั่งแบนชาวมุสลิมของสหรัฐอเมริกา ซึ่งกระทบต่อความต้องการเดินทางมาภูมิภาคนี้ลดลงไปเรื่อย ๆ ไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่า ในช่วงปี 2016-2017 สายการบินเอมิเรตส์มีผลกำไรลดลง 82% ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี และจำนวนที่นั่งที่เดินทางจากดูไบเพิ่ม 2% เท่านั้น ขณะที่ช่วงปี 2012-2016 มีการเติบโตเฉลี่ยปีละ 11% ขณะที่ “เอทิฮัด” สูญเสียรายได้กว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่ไปลงทุนในสายการบินยุโรปอย่าง “แอร์เบอร์ลิน” […]

คำแนะนำ 7 ประการจากเจ้าพ่อ VANGUARD GROUP

คำแนะนำ 7 ประการจากเจ้าพ่อ VANGUARD GROUP

ยอมรับกันว่า John Bogle ผู้ก่อตั้ง Vanguard Group เป็นผู้ที่ช่วยแนะนำนักลงทุนเดินดินธรรมดาที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงในระยะยาว และฉลามที่หิวโหยจากวอลล์สตรีทอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขาเขียนหนังสือ Enough: True Measures of Money, Business, and Life ซึ่งเขาถือว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของชีวิตการทำงาน หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ในปี 2008 ขณะที่ Bogle ก้าวเข้าสู่ช่วงวัย 80 ปี และในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เขามีอายุครบ 88 ปี Bogle มีคำแนะนำการลงทุน 7 ประการ ซึ่งนักลงทุนทั่วไปสามารถเรียนรู้ได้จากเขา Invest you must. คุณต้องลงทุน ความเสี่ยงใหญ่หลวงที่สุดที่นักลงทุนต้องเผชิญนั้น ไม่ใช่ความผันผวนระยะสั้น แต่เป็นความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับผลตอบแทนอย่างเพียงพอกับเงินต้น ในขณะที่มันกำลังสะสมความมั่งคั่ง Time is your friend. เวลาเป็นมิตรของคุณ การลงทุนเป็นพฤฒิกรรมที่ถือว่าเป็นความดีงาม ซึ่งควรจะเริ่มต้นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ให้มีความสุขกับผลตอบแทนที่ทวีคูณ แม้ว่าจะลงทุนด้วยจำนวนเงินพอประมาณในช่วงที่เราอายุ 20 […]

กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย มิติใหม่ของภาคตลาดทุนและภาคสังคม

กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย มิติใหม่ของภาคตลาดทุนและภาคสังคม

นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยหรืออาจจะครั้งแรกในโลก ที่ภาคตลาดทุนจับมือร่วมกับภาคสังคมอย่างจริงจัง และดำเนินการเป็นผลสำเร็จออกมาเป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่นโยบายความเห็นบนกระดาษ โดยภาคตลาดทุนที่กล่าวถึง คือ “บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน” จำนวน 11 บริษัท โดยการสนับสนุนของสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ได้ร่วมมือกับภาคสังคม คือ “มูลนิธิเพื่อคนไทย” และ “สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย เช้นจ์ เวนเจอร์” ได้ร่วมกันก่อตั้งโครงการ “กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย” หรือ Thai CG Fund  ซึ่งเป็นกองทุนหุ้น ที่ลงทุนในหุ้นไทยเฉพาะกลุ่ม บริษัทจัดการกองทุน 11 บริษัท (จากทั้งหมด 22 บริษัท) ซึ่งมีขนาดกองทุนรวมภายใต้การบริหารกว่า 90% ของทั้งอุตสาหกรรมกองทุนรวม ได้ร่วมกันกำหนดกติกากลั่นกรองหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ว่าหุ้นใดเข้าข่ายเป็นหุ้นที่มีการกำกับกิจการที่ดี (CG) ให้แต่ละบริษัทเลือกและนำมาลงทุนในกองทุนธรรมาภิบาลไทยที่แต่ละบริษัทจะจัดตั้งขึ้น บริษัทจัดการกองทุนทั้ง 11 บริษัท จะแยกกันจัดตั้งกองทุนหุ้นธรรมาภิบาลไทยของตนเอง ไม่ได้ร่วมทีมกันจัดตั้งกองทุนเพียงกองเดียว เพราะการทำแบบนั้นมีความยากลำบากเกินไป เนื่องจากแต่ละค่ายจะมีสไตล์ มีวิธีการบริหาร […]

การทำนายเศรษฐกิจจีนและอินเดียในอนาคต

การทำนายเศรษฐกิจจีนและอินเดียในอนาคต

PricewaterhouseCoopers (PwC) ได้เขียนรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ภายในปี 2050 อินเดียจะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าสหรัฐเมื่อวัดตามความเสมอภาคของอำนาจซื้อ (Purchasing Power Parity) ความเสมอภาคของอำนาจซื้อจะสะท้อนว่าประเทศนั้นๆ ได้ผลิตสินค้าและบริการรวมกันมากน้อยแค่ไหน หากใช้ราคาสินค้าและบริการในสหรัฐอเมริกาเป็นฐานในการคำนวณ (หรือง่ายๆ คือ สมมุติราคาสินค้าให้เท่ากับในสหรัฐอเมริกา) ปรากฎว่า จีนแซงหน้าสหรัฐเรียบร้อยแล้วในปี 2016 เมื่อเทียบขนาดเศรษฐกิจของจีนกับสหรัฐตามความเสมอภาคของอำนาจซื้อ โดยที่จีนมีขนาดเศรษฐกิจ 21.26 ล้านล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ตามมาด้วยสหรัฐที่ 18.56ล้านล้านเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ อินเดียที่ 8.7 ล้านล้านเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ ญี่ปุ่นที่ 4.9 ล้านล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ เยอรมันนีที่ 3.9 ล้านล้านเหรียญดอลล่าห์สหรัฐ รัสเซียที่ 3.7 ล้านล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ บราซิลที่ 3.1 ล้านล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ อินโดเนเซียที่ 3.0 ล้านล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ อังกฤษที่ 2.7 ล้านล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ และฝรั่งเศสที่ 2.7 ล้านล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ PwC […]