หุ้นไทยพลิกปิดตลาดในแดนลบ อยู่ที่ระดับ 1,821.83 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ (16 ม.ค. 61) ที่ระดับ 1,821.83 จุด ลดลง -0.83 จุด หรือ -0.05% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,831.45 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,816.90 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขาย ณ เวลา 16.45 น. อยู่ที่ 76,820.71 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.AOT ปิดที่ 70.75 บาท ลดลง -0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,484.45 ลบ. 2.EA ปิดที่ 67.00 บาท ลดลง -1.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย […]
ค่าพีอี หรือ P/E ratio (ตอนจบ)
การพิจารณาว่าหุ้นราคาถูกหรือแพงโดยดูที่ราคาหุ้นอาจไม่เพียงพอ ตัวอย่าง หุ้นธนาคาร X ราคา 220 บาท หุ้นธนาคาร Y ราคา 200 บาท ดูเหมือนธนาคาร X จะมีราคาแพงกว่า การใช้ค่า P/E จะทำให้เปรียบเทียบได้ดีกว่า หากธนาคาร X มีกำไรต่อหุ้น 22 บาท ส่วนธนาคาร Y เป็น 15 บาท ดังนั้นค่า P/E ของธนาคาร X เท่ากับ 10 ธนาคาร Y เท่ากับ 13.3 แสดงให้เห็นว่ราคาหุ้นธนาคาร X ถูกว่า การเปรียบเทียบค่า P/E ระหว่างหุ้น ต้องดูปัจจัยอื่นประกอบด้วย การเปรียบเทียบ ค่า P/E ระหว่างหุ้นในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่แตกต่างกันอาจไม่เหมาะสม เช่น […]
พัฒนาการของ ESG ในจีน (ตอนจบ)
By… เศรณี นาคธน โอกาสพัฒนา ESG ในจีน จากแรงหนุนของรัฐบาล นโยบายการปฏิรูปทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมของรัฐบาลจีนฉบับล่าสุด (2016-2020) ผนวกกับแรงขับเคลื่อนจากนักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ ที่หันมาให้ความสำคัญต่อ ESG ควบคู่กันไปกับผลประกอบการในการพิจารณาลงทุนจะช่วยเป็นแรงกดดันให้บริษัทของจีนต้องตระหนักถึงความสำคัญของ ESG ทั้งนี้นโยบายการปฏิรูปของภาครัฐ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายด้าน ซึ่งด้านที่ชัดเจนและเห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุด คือ ด้านสิ่งแวดล้อมที่มีการพยายามหาทางลดมลภาวะ โดยจีนประกาศตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ทั้งประเทศเลิกพึ่งพาโรงงานไฟฟ้าถ่านหินเป็นหลักให้ได้ในปี 2020 ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินขนาดใหญ่ของจีนหลายแห่งได้ถูกยกเลิกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงมีบทลงโทษสำหรับบริษัทหรือโครงการใดๆที่ก่อให้เกิดมลภาวะขึ้นซึ่งมีโทษสูงสุดถึงการสั่งปิดกิจการ นอกจากนี้รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนแก่บริษัท หรือโครงการต่างๆที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการเข้าระดมทุนในตลาด แม้กระทั่ง การตั้งเป้าหมายที่จะให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กระทั่ง ณ ปัจจุบันประเทศจีนกลายเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับรถยนต์ EV สำหรับด้านธรรมาภิบาลนั้น ทาง กลต. ของจีนได้พยายามพัฒนาเพื่อให้ใกล้เคียงกับมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็น กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนของจีนต้องเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนมากขึ้น รวมถึงข้อมูลในด้านของ ESG เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุน สำหรับเรื่องของคอร์รัปชั่น นโยบายการกำจัดคอร์รัปชั่นของรัฐบาลเริ่มเผยแพร่มาสู่ภาคเอกชน โดยบางบริษัทเริ่มมีนโยบายยกเลิกการมอบของขวัญให้กับข้าราชการ เพราะรัฐบาลได้บังคับใช้บทลงโทษสำหรับทั้งผู้ให้และผู้รับสินบน ด้วยแรงสนับสนุนของภาครัฐและเอกชนขนาดใหญ่ จึงเชื่อได้ว่าจีนมีโอกาสพัฒนาทางด้าน ESG ได้อีกไกล
จีนเอาจริงเตรียมสกัดซื้อขายเงินดิจิทัลผ่านแอพพลิเคชั่น
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่าทางการจีนวางแผนสกัดการเข้าถึงแพลทฟอร์มและแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล โดยการสกัดกันดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจีนยังคงเดินหน้ากวาดล้างการซื้อขายสกุลเงินบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลประเภทอื่นๆ เนื่องจากทางการจีนมองว่า สกุลเงินดิจิทัล เป็นต้นตอของความเสี่ยงในระบบการเงิน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากรัฐบาลจีนได้รับรายงานการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นบนแพลทฟอร์มที่ตั้งขึ้นโดยชาวจีนและต่างชาติ แม้รัฐบาลจะสั่งระงับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเมื่อปีที่แล้ว ภายใต้กฎห้ามการระดมทุนด้วยสกุลเงินดิจิทัล (Initial Coin Offering: ICO) รวมทั้งปิดการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในหลายตลาด และจำกัดการขุดเหมืองเพื่อหาบิตคอยน์
หมดยุคลอกเลียนแบบ จีนขึ้นแท่นผู้นำด้านเทคโนโลยี
บริษัทจีนได้ข้ามพ้นการเป็นผู้ลอกเลียนแบบด้านเทคโนโลยีด้านต่างๆของผู้อื่นไปแล้ว หลังจากจีนได้กว้าขึ้นมาเป็นผู้นำเศรษฐกิจอันดับสองของโลกในด้านต่างๆ Raymund Chao ประธาน PwC’s chairman ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและจีนแผ่นดินใหญ่ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า “ถึงแม้ทุกวันนี้ ยังคงมีความเชื่อที่ว่าจีนคือ copycat แต่นั่นไม่ใช่ความจริงอีกต่อไป” จีนได้กลายเป็นผู้นำที่ช่วยให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมหลายด้าน ซึ่งรวมถึง เทคโนโลยีด้านการเงิน หรือ ฟินเทค โดรน เอไอ และโมบายเพย์เมนท์ เขากล่าวว่า ในกลุ่มอุตสหกรรมแบบดั่งเดิม (traditional sectors) เริ่มปรับตัวนำเอานวัตกรรมมาใช้ในภาคการผลิต
พัฒนาการของ ESG ในจีน (ตอนที่1)
By… เศรณี นาคธน ESG ในจีนยังอยู่ในระดับต่ำ หลังเร่งขยายสังคมเมืองกระทบสิ่งแวดล้อม เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา MSCI ซึ่งเป็นบริษัทจัดทำดัชนีระดับโลกได้พิจารณาเพิ่มบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่จำนวน 222 บริษัท ในตลาด A-Share ของจีนเข้าร่วมคำนวณใน MSCI Emerging Markets Index จนถึงปัจจุบัน มีสัดส่วนของจีนในดัชนีทยอยเพิ่มขึ้นมาสู่ 30% นับเป็นความสำเร็จก้าวหนึ่งในการเปิดเสรีทางการเงินของจีนและช่วยจูงใจให้นักลงทุนหันมาสนใจลงทุนในตลาดการเงินของจีนมากขึ้น แต่หากพิจารณาในแง่มุมของ ESG พบว่า MSCI Emerging Markets SRI Index ซึ่งเป็นดัชนีที่รวบรวมบริษัทต่างๆในตลาดเกิดใหม่ที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม สังคม และมีการจัดการที่มีธรรมภิบาล บริษัทจีนที่ผ่านเกณฑ์เพื่อเข้าร่วมดัชนีกลับมีสัดส่วนเพียงแค่ราว 4% ของดัชนีเท่านั้น สาเหตุที่ทำให้เกิดส่วนต่างมากขนาดนี้ มาจากการขยายของสังคมเมือง (Urbanization) ผนวกกับการเร่งขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในช่วงก่อนหน้า ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมลภาวะ ทั้งจากการเร่งตัวของการก่อสร้าง การใช้พลังงานมากขึ้น ขณะที่พลังงานหลักของประเทศมาจากถ่านหินซึ่งยิ่งใช้ยิ่งส่งผลเสียต่อมลภาวะทางอากาศ ในด้านของสังคม บริษัทจีนส่วนมากยังไม่มีมาตรฐานและนโยบายในเรื่องของแรงงาน รวมถึงสภาพความเป็นอยู่และสวัสดิการของแรงงานที่อยู่ในระดับต่ำ จะเห็นได้จากข่าวเรื่องการเกิดอุบัติเหตุจากการปฎิบัติงานบ่อยครั้งในประเทศจีนเมื่อเทียบกับประเทศตลาดเกิดใหม่อื่นๆ และในแง่ของผู้ถือหุ้น บริษัทจีนยังคงมีการเปิดเผยข้อมูลในระดับค่อนข้างต่ำ […]
จีนคุมเข้มภาคธนาคาร นักวิเคราะห์เตือนแบงก์ขนาดเล็กเร่งปรับตัว
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า คณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคาร (China Banking Regulatory Commission : CBRC) เพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแลภาคธนาคารมากขึ้นในปีนี้ โดยแผนงานกำกับดูแลภาคธนาคารที่สำคัญประกอบด้วย · การตรวจสอบแหล่งที่มาของเงินของผู้ถือหุ้นธนาคาร และตรวจสอบสัดส่วนการถือหุ้นว่าเป็นไปตามกฎระเบียบหรือไม่ · ตรวจสอบการปฏิบัติตามเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อให้กับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รัฐบาลท้องถิ่น และอุตสาหกรรมอื่นๆที่มีการกำหนดต้นทุนที่สูงเกินไป · พร้อมตรวจสอบการทำธุรกรรมระหว่างธนาคาร และการดำเนินธุรกิจบริการทางการเงินให้กับลูกค้าที่มีความมั่งคั่งสูง (wealth management businesses) ของธนาคารด้วย โดยจะดำเนินการทางกฎหมายกับธนาคารที่ไม่ปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล ฝ่าฝืนเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ และลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงสูง แถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่หน่วยงานกำกับดูแลภาคธนาคารของจีนที่เริ่มเอาจริงเอาจังกับการออกมาตรการที่น่าตื่นเต้นต่างๆอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2018 ด้าน นาย Huang Wentao นักวิเคราะห์จาก China Securities Co. กล่าวว่า “มาตรการกำกับดูแลใหม่ที่เข้มงวดขึ้นครอบคลุมทุกส่วนของระบบธนาคาร และแสดงให้เห็นว่า หน่วยงานกำกับดูแลเข้มงวดกับการแก้ปัญหาที่เกิดจากภาคการเงิน จริงจัง ซึ่งธนาคารหลายแห่ง โดยเฉพาะธนาคารขนาดเล็ก จะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจภายใต้เกณฑ์การกำกับดูแลใหม่นี้”
เปิดรายชื่อ 10 บริษัทขายอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในโลก
เศรษฐกิจใหม่ (New Economy) ที่มีอัตราการเจริญเติบโตที่สูงกำลังมีบทบาทที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในเศรษฐกิจจีน ทำให้ช่วยประคับประคองเศรษฐกิจจีนไม่ให้โตช้าลงกว่าที่ควรเป็น Xianchun Xu อาจารย์มหาวิทยาลัยซินหัว และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน ช่วยเติมว่า กล่าวในงานสัมนา dbAccess China Conference จัดโดยดอยช์แบงก์ที่ปักกิ่ง 2018 ว่าค่อนข้างชัดเจนว่าเศรษฐกิจใหม่มีความสำคัญต่อการปรับโครงสร้างของจีน ที่กำลังเห็นความสำคัญที่ลดลงของเศรษฐกิจเก่า (old economy) เขายอมรับว่า ยังไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจนสำหรับเศรษฐกิจใหม่ แต่เป็นที่เข้าใจว่าเศรษฐกิจใหม่มีพื้นฐานจากนวัตกรรมของไฮเทคด้านข้อมูล การใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของสังคมผ่านปัจจัยของเศรษฐกิจ การปรับปรุงระบบอุตสาหกรรมผ่านการผลิตที่ฉลาดขึ้น การแบ่งแรงงานที่มีประสิทธิภาพขึ้นผ่านความหลายหลากของสินค้าและบริการ ส่วนเศรษฐกิจเก่าของจีนที่กำลังผ่านการปฎิรูปเพื่อความอยู่รอด คืออุตสาหกรรมเหล็ก ถ่านหิน สินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ เสื้อผ้า ฯลฯ Xianchuan บอกว่าเศรษฐกิจใหม่ช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน ยกระดับการพัฒนา ทำให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากโครงสร้างเศรษฐกิจ เพิ่มคุณภาพ และประสิทธิภาพของเศรษฐกิจ และช่วยยกระดับการเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น” เขากล่าว ในปี 2016 มูลค่าเพิ่มจากอุตสาหกรรมการผลิตไฮเทคเติบโต10.8% หรือมีสัดส่วน 4.8% สูงกว่ามูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมทั่วไป นอกจากนี้ ในปี 2016 […]
มูดี้ส์เผยเศรษฐกิจยูโรโซนฟื้น ดันความน่าเชื่อถือปีนี้ มีเสถียรภาพ
รายงานจากมูดี้ส์ระบุแนวโน้มความน่าเชื่อถือของยูโรโซนในปี 2018 มีเสถียรภาพ ปัจจัยสนับสนุนมาจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจตามวัฏจักร ซึ่งสามารถชดเชยการปฏิรูปที่เป็นไปอย่างจำกัด สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิสยังระบุอีกว่า ความคืบหน้าในการปฏิรูปโครงสร้างเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆที่ฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการรับมือกับหนี้สินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น ยังไม่สอดคล้องกันทั่วภูมิภาค แม้เศรษฐกิจยูโรโซนยังคงมีโอกาสปรับตัวสู่ช่วงขาขึ้นก็ตาม คาดการณ์การขยายตัวโดยเฉลี่ยของเศรษฐกิจยูโรโซนในปี 2018 จะอยู่ที่ 2.0% ก่อนที่จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 1.7% ในปี 2019 พร้อมระบุว่า อุปสงค์ภายในประเทศ (domestic demand) จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในเยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน และอิตาลี
บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟน Xiaomi เตรียมทำไอพีโอปีนี้
Xiaomi บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนของจีนเตรียมที่จะทำไอพีโอในปีนี้ โดยคาดการว่ามูลค่าตลาดรวมของบริษัทจะอยู่ที่ $100,000 ล้าน เสี่ยวหมีกำลังอยู่ในขั้นตอนเลือกบริษัทที่จะมาดูแลการทำไอพีโอ โดยมีข่าวว่า Citic Securities, Goldman Sachs และMorgan Stanley เสี่ยวหมีเป็นบริษัทอีเลคโทรนิกส์และซอฟแวร์ของจีน มีสำนักงานใหญ่ที่กรุงปักกิ่ง บริษัทนี้มีธุรกิจออกแบบ พัฒนาและขายสมาร์ทโฟน โมไบแอ็ป แล็ปท็อป และสินค้าอีเลคโทรนิกส์อื่นๆ เสี่ยวหมีเป็นบริษัทที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง โดยในปี 2014 บริษัทมีมูลค่า $46,000 ล้าน แต่ปีนี้จะมีมูลค่า $100,000 ล้าน