ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดบวกกว่า 12จุด อยู่ที่ 1,822.66 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ (15 ม.ค. 61) ที่ระดับ 1,822.66 จุด เพิ่มขึ้น 12.47 จุด หรือ 0.69% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,830.68 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,818.15 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขาย ณ เวลา 16.46น. อยู่ที่ 94,100.59 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.EA ปิดที่ 68.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 7,583.94 ลบ. 2.AOT ปิดที่ 71.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,957.73 […]
ค่าพีอี (P/E ratio) ตอนที่ 1
P/E เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่คำนวนจาก ราคาตลาดของหุ้น (Price) เทียบกับกำไรต่อหุ้น (Earning per share) มีหน่วยเป็นเท่า แสดงให้เห็นถึงความคุ้มค่าน่าลงทุนของหุ้นบริษัทนั้น ตัวอย่าง หุ้นราคา 30 บาท กำไรต่อหุ้น 2 บาท ได้ค่า P/E 15 เท่า แปลว่าราคาหุ้นมีมูลค่าเป็น 15 เท่าของกำไร ถ้าให้ความหมายกันอย่างตรงๆ คงแปลได้ว่า เราลงทุนในบริษัทนี้จะใช้เวลาถึง 15 ปี จึงได้ทุนคืนจากผลกำไร (โดยสมมุติว่ากำไรทั้งหมดถูกจ่ายเป็นเงินปันผลให้นักลงทุน) P/E คำนวนได้ทั้งแบบย้อนหลังหรือมองไปข้าง · Trailing P/E ใช้กำไรปัจจุบันคือกำไรต่อหุ้นของสี่ไตรมาสที่ผ่านมา เป็นการคิดแบบ conservative ใช้กำไรจริงที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน · Forward P/E ใช้กำไรที่คาดว่าบริษัทจะทำได้ใน 12 เดือนข้างมาคำนวน ซึ่งจะเป็นวิธีแบบ Progressive โดยคิดว่าการลงทุนในหุ้นก็เพื่อได้รับผลกำไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไม่ใช่กำไรในอดีตที่ผ่านไปแล้ว แต่การใช้ […]
ก.ล.ต.เตรียมชงร่างแก้ไขพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ 4 เรื่อง เข้าครม.ภายในต้น ก.พ.นี้
รายงานข่าวจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ระบุว่า นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวในงานสัมมนา: “SEC Conference 2018 : Capital Market for All” ว่า ก.ล.ต. เตรียมเสนอ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะมีการแก้ไขใน 4 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย •การจัดตั้งกองทุน ส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน หรือ CMDF •ความอิสระของ บลจ. •ความคาดหวังต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย •อิเล็กทรอนิกส์แพลทฟอร์ม (ETP) หลังจากการเปิดรับฟังความคิดเห็นแล้วเสร็จ ก่อนนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาภายในกลางเดือน ม.ค. ไม่เกินต้นเดือน ก.พ.นี้ หากผ่านคณะรัฐมนตรี ก็จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาต่อไป พร้อมสรุปเกณฑ์กำกับดูแล Initial Coin Offering (ICO) ภายในไตรมาส 1 ปีนี้ หลังครบกำหนดเวลาเปิดรับฟังความเห็
การหาค่าใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีพหลังเกษียณ
ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพหลังเกษียณคือตัวเลขสำคัญที่ควรหาออกมาให้ได้สำหรับการวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณ เนื่องจากเป็นตัวเลขที่บ่งบอกว่า ในที่สุดแล้วการมีชีวิตอยู่หลังเกษียณของเราจะเป็นอย่างไร มีค่าใช้จ่ายเท่าไร รวมถึงเป็นตัวเลขเป้าหมายใหญ่ว่าเราจะต้องเก็บเงินให้ได้อย่างน้อยเท่าไรในวันที่จะเกษียณอายุเพื่อใช้ในการดำรงชีพ เริ่มต้นง่ายๆ สมมุตินาย ก มีเป้าหมายเกษียณที่อายุ 60 ปี และมีอายุขัยเฉลี่ยของญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวที่เสียชีวิตในวัยชรา คือ 80ปี ดังนั้นเป้าหมายระยะเวลาการดำรงชีวิตหลังเกษียณของนาย ก เมื่อพิจารณาแบบเผื่อพัฒนาการทางการแพทย์ที่ทำให้คนอายุยืนยาวขึ้นอีก 5 ปี ก็คือนาย ก จะวางแผนโดยจะต้องเตรียมเงินไว้ใช้หลังเกษียณอีก 25 ปี ดังนั้น ยอดเงินเพื่อการดำรงชีพหลังเกษียณของนาย ก ที่ควรต้องมีไว้ ณ วันเกษียณก็คือ ค่าใช้จ่ายต่อเดือน x 12 เดือน x 25 ปี ไม่นับค่าใช้จ่ายอื่นที่ต้องเตรียม เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายสำหรับผู้อยู่ใต้อุปการะ หรือภาระหนี้สินที่ยังคงเหลืออยู่ เป็นต้น ขั้นตอนต่อไปคือ แล้วจะหาค่าใช้จ่ายต่อเดือนได้อย่างไร ค่าใช้จ่ายต่อเดือนหลังเกษียณเป็นการคำนวณสำหรับอนาคต จึงไม่มีหนทางที่จะได้ตัวเลขที่แน่นอน […]
เจาะลึกเศรษฐกิจจีนปี 2018
สำหรับในปี 2018 เราคาดว่า โมเมนตัมเช่นนี้น่าจะยังคงดีต่อเนื่อง แม้ว่าจะเติบโตในอัตราที่ชะลอลงจาก 6.8% เป็น 6.5% ตามทิศทางเดียวการปฏิรูปประเทศที่เน้นการเติบโตเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ แต่เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก จีนยังนับว่าเป็นประเทศที่เศรษฐกิจขยายตัวได้ในระดับสูง ด้านนโยบายภาครัฐ การรวมอำนาจของประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ภายหลังการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมานั้น น่าจะทำให้นโยบายเป็นไปในแนวทางสนับสนุนการฟื้นตัวของภาคเอกชน พร้อมทั้งเดินหน้าปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ และคุมเข้มภาคการเงินเพื่อชะลอหนี้ที่เติบโตรวดเร็วมากขึ้น อย่างไรก็ดี การชะลอตัวของอัตราการขยายตัวของสินเชื่อ อาจทำให้ตลาดเงินตึงตัวมากขึ้น และเป็นความท้าทายของการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะต่อไป สำหรับในปี 2018 นี้เราคาดว่า รัฐบาลน่าจะปล่อยเม็ดเงินเข้าสู่ระบบในปริมาณที่ชะลอลงเล็กน้อย โดยเราคาดว่ารัฐบาลจีนจะขาดดุลการคลัง -3.5% ของ GDP ในปี 2018 ชะลอลงจากปี2017 ซึ่งขาดดุลการคลัง -3.7% ของ GDP เนื่องด้วย รัฐบาลท้องถิ่นอาจจะปล่อยงบได้ยากขึ้นตามเกณฑ์การใช้จ่ายที่รัดกุมกว่าเดิม ขณะที่การทำ […]
สหรัฐขึ้นบัญชีดำ แพลตฟอร์มค้าปลีกอาลีบาบา ขายของละเมิดลิขสิทธิ์
รายงานข่าวจากโพสต์ทูเดย์ ระบุว่าสหรัฐขึ้นบัญชีดำ เถาเป่าขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ต่อ หวั่นทำการค้าจีน-สหรัฐตึงเครียดยิ่งขึ้น สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) ประกาศขึ้นบัญชีดำ “เถาเป่า” แพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์ ของอาลีบาบายักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซจีน ให้ อยู่ในรายชื่อตลาดขายสินค้าละเมิด ลิขสิทธิ์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ถึงแม้ว่าการขึ้นบัญชีดำครั้งนี้ไม่มีบทลงโทษโดยตรง แต่เป็นการสกัดความพยายามกอบกู้ภาพลักษณ์ของอาลีบาบาที่กำลังกำจัดสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ออกจากเว็บไซต์ โดยยูเอสทีอาร์ ระบุว่ายังพบการจำหน่ายสินค้าปลอมจำนวนมาก สะท้อนว่าอาลีบาบายังไม่ดำเนินการปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์มากพอ ซึ่งความเคลื่อนไหว ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่กำลัง เพิ่มขึ้น แม้ รายงานของยูเอสทีอาร์ ระบุว่า ปีที่ผ่านมา อาลีบาบาพยายามเพิ่มการปราบปรามการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ทางหน่วยงานได้รับคำร้องเรียนจากบรรดาธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะจากธุรกิจจำหน่ายชิ้นส่วนรถยนต์ว่าพบสินค้าปลอมและละเมิดลิขสิทธิ์บนเถาเป่าจำนวนมาก
จับตาบาทแข็งค่าไม่หยุด เอกชนโอดกระทบส่งออก
ประชาชาติธุรกิจรายงานว่า นางสาวกัณญภัค ตันติพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่าได้เข้าหารือกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า จากกรณีที่เงินบาทแข็งค่าหลุด 32.00 บาท/ดอลลาร์ อาจส่งผล กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ อุตสาหกรรมเกษตร อาหาร ซึ่ง 2 กลุ่มนี้มีสัดส่วนประมาณ 17% ของมูลค่าการส่งออกของไทยปี 2560 อยู่ที่ 231,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และใช้วัตถุดิบการผลิตภายในปนะเทศ ด้านนางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วย ผู้ว่าการ สายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่าเงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค ขณะที่ความผันผวนอยู่ในระดับปานกลาง โดยบางช่วงที่เงินบาทแข็งค่าเร็วเกินควร ไม่สอดคล้องกับพื้นฐาน เศรษฐกิจ ธปท. ก็ได้เข้าดูแลเพื่อลดผลกระทบต่อผู้ประกอบการ สะท้อนจากเงินสำรองระหว่างประเทศในปี 2560 ที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งการดูแลที่ผ่านมา ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ไทยได้เปรียบการค้ากับต่างประเทศ หรือเพื่อฝีนทิศทางของตลาด แต่เพื่อให้เวลากับเอกชนในการปรับตัว การแข็งค่าของค่าเงินบาทตั้งแต่ต้นปี 2561 หลัก ๆ มาจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ และการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเป็นสำคัญ ซึ่งหากดูในแง่เงินทุนไหลเข้าในรูปการลงทุนในหลักทรัพย์ถือว่าเป็นส่วนน้อยที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า สถานการณ์เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี โดยวันที่ 12 ม.ค. 2561 เปิดตลาดที่ 31.95 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าสุดในรอบ 40 เดือน นับตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. 57 ซึ่งแข็งค่าต่อเนื่อง
ฮาวายเร่งสอบกรณีเตือนภัยขีปนาวุธ ผิดพลาด
นายเดวิด ไอกี ผู้ว่าการฮาวายได้ทวีตข้อความในเวลา 2.34 น. ตามเวลาท้องถิ่น วันที่ 14 ม.ค. โดยระบุว่า “ผมจะเข้าประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงประจำกระทรวงกลาโหมและหน่วยงานจัดการภัยฉุกเฉินฮาวาย ในช่วงเช้าวันนี้ เพื่อค้นหาสาเหตุความผิดพลาดของระบบเตือนภัยและเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีกครั้ง” ก่อนหน้านี้มีการรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศว่า ระบบเตือนภัยขีปนาวุธได้ส่งสัญญาณเตือนฉุกเฉินว่าขีปนาวุธกำลังพุ่งตรงไปยังเกาะฮาวายในช่วงเช้าประมาณ 8.07 เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น (เวลา 1.07 น. ของวันอาทิตย์ที่ 14 ม.ค. ตามเวลาในประเทศไทย) ส่งผลให้ประชาชนเร่งหาที่หลบภัยกันชุลมุน ก่อนที่จะพบว่าสัญญาณเตือนดังกล่าวเป็นความผิดพลาด ของเจ้าหน้าที่ซึ่งประจำสำนักงานบริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน (EMA) กดปุ่มผิดพลาดขณะรีบผลัดเปลี่ยนเวรปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นความผิดโดยไม่ได้ตั้งใจและไม่มีเจตนาร้าย แต่ อย่างไรก็ตาม เหตุดังกล่าวไม่ควรจะเกิดขึ้นและจะมีการดูแลป้องกันไม่ให้เหตุเกิดซ้ำรอยอีก ด้าน ขณะที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ประกาศว่าจะสอบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้โดยละเอียด
ดัชนีหุ้นไทยปิดบวก 7.39 จุด อยู่ที่ 1,810.19 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ (12 ม.ค. 61) ที่ 1,810.19 จุด เพิ่มขึ้น 7.39 จุด หรือ 0.41%โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,816.81 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,808.53 จุด ขณะที่มูลค่าการซื้อขาย ณ เวลา 17.07 น. อยู่ที่ 81,790.68 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.AOT ปิดที่ 69.50 บาท ลดลง -0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 6,327.33 ลบ. 2.EA ปิดที่ 65.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,415.17 […]
ซัมซุง เปิดนวัตกรรมอัจฉริยะ ชูความล้ำหน้าจาก IoT แบบไร้รอยต่อ
ซัมซุงเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ SmartThings App ที่เชื่อมต่อผู้บริโภคด้วยอุปกรณ์ต่างๆ อย่างไร้รอยต่อในชีวิตประจำวัน ทั้งที่บ้าน สำนักงาน และทุกๆ ที่ วิธีใหม่สำหรับผู้บริโภค ในการจัดการและควบคุมอุปกรณ์ไอโอทีของตน แอพใหม่นี้จะรวมแอพไอโอทีไว้ในที่เดียว (Single Touchpoint) อำนวยความสะดวกสำหรับชีวิตแห่งการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ ซัมซุงยังได้วางแผนผนวก HARMAN Ignite แพลตฟอร์มระบบคลาวด์ที่เพิ่มความสามารถให้รถยนต์อัจฉริยะเชื่อมต่อเข้ากับคลาวด์สมาร์ทธิงส์ โดยเห็นว่า รถยนต์เป็นอีกส่วนประกอบสำคัญของไอโอที พร้อมทุ่มงบวิจัย 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ เดินเครื่องพัฒนานวัตกรรมไอโอที ตั้งเป้าสร้างการเชื่อมต่ออัจฉริยะ เข้ากับน็อกซ์ แพล็ตฟอร์มรักษาความปลอดภัย สามารถใช้งานได้ทุกดีไวซ์ภายในปี 2020