สื่อต่างประเทศซึ่งรวมถึงไฟแนนเชียล ไทมส์ รายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กำลังพิจารณาเรียกเก็บภาษีจากบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติสหรัฐ คิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ รายงานระบุว่า คณะกรรมาธิการยุโรปจะเรียกเก็บ “ภาษีดิจิทัล” ในอัตรา 3% จากบริษัทเทคโนโลยีที่มีผู้ใช้งานเกินกว่า 100,000 คนในภูมิภาคยุโรป โดยประเมินจากรายได้ของบริษัทแทนการประเมินจากผลกำไร ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่รายได้จากการขายโฆษณาของกูเกิล และเฟซบุ๊ก ไปจนถึงรายได้จากค่าสมาชิกของบริษัทแอปเปิล และสปอติฟาย เอบี ทั้งนี้ คาดว่าอัตราภาษีใหม่จะมีการประกาศในสัปดาห์หน้า และจะทำให้สหภาพยุโรป (EU) มีรายได้เพิ่มขึ้นราว 5 พันล้านยูโรต่อปี ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของสหภาพยุโรป เกิดขึ้นหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ตัดสินใจเก็บภาษีสินค้านำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จนส่งผลเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างทั่วโลก

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯเสนอแนวคิดจัดตั้งกองกำลังอวกาศ หลังคาดว่า อวกาศอาจเป็นสมรภูมิสงครามอีกแห่งหนึ่งไม่เพียงแต่สมรภูมิทางบก ทางน้ำ และทางอากาศเท่านั้น โดยทรัมป์กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ความมั่นคงของชาติฉบับใหม่มองว่า อวกาศจะเป็นสมรภูมิรบแห่งหนึ่ง พร้อมกับเสนอความคิดที่จะจัดตั้งกองกำลังอวกาศ ซึ่งจะมีหน้าที่ปฏิบัติการทางทหารจากภายนอกชั้นบรรยากาศโลก “อวกาศจะเป็นเขตแดนใหม่ที่อาจมีการทำสงครามสู้รบ ไม่เพียงแต่เขตแดนทางน้ำ ทางบก ทางอากาศเท่านั้น เราอาจจะต้องมีกองกำลังอวกาศ ต้องพัฒนาขึ้นมา เรียกว่า Space Force ขณะนี้เรามีกองทัพอากาศแล้ว ต่อไปเราจะมีกองทัพอวกาศ” เขากล่าว