หุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,690.08 จุด เพิ่มขึ้น 15.86 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ ( 25 ก.ค. 2018) อยู่ที่ 1,690.08 จุด เพิ่มขึ้น 15.86 จุด หรือ 0.95% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,695.20 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,678.09 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,540.27 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.CPALL ปิดที่ 76.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,015.80 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 51.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,891.99 ลบ. 3.KTC ปิดที่ […]
IMF คาดการณ์เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ปี 2018-2019 โต 6.7%
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินว่า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของฟิลิปปินส์จะขยายตัว 6.7% ในปีนี้และปีหน้า ส่วนในระยะกลางเศรษฐกิจยังคงไปได้ดีอยู่ อย่างไรก็ตาม ในระยะใกล้เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น จากอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมภายนอกที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนอย่างมาก ซึ่งหากต้องการรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตและความยั่งยืนของเศรษฐกิจ ฝ่ายนโยบายต้องปรับลดแรงกดดันเงินเฟ้อลง พร้อมปรับโครงสร้างให้เกื้อหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ Luis E. Breuer หนึ่งในทีมงานของ IMF ที่เดินทางไปเยือนฟิลิปปินส์ช่วงวันที่ 11-25 ก.ค. ที่ผ่านมา สรุปว่า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ทำผลงานได้ดี โดยจีดีพีเติบโตได้ 6.7% ในปีที่ผ่านมา และทีมงานคาดว่าการเติบโตจะอยู่ในอัตราเดียวกันนี้ได้ในปีนี้และปีหน้า เป็นผลมาจากการบริโภคและการลงทุนที่เข้มแข็ง รวมถึงการลงทุนของภาครัฐด้วย ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นเป็นแรงกดดันภายนอกต่อค่าเงินเปโซ เนื่องจากจะมีผลกระทบทำให้ต้องเสียภาษีสรรพาสามิตเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการในประเทศก็ได้รับแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 5.2% หรือเฉลี่ย 6 เดือนอยู่ที่ 4.3% ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดคาดว่าจะเกินดุลเพิ่มขึ้น 1.5% ของจีดีพี สิ้นปีนี้ เป็นผลจากการนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบเพิ่มขึ้น […]
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ เชิญชวนช่วยเหตุน้ำท่วมลาว
สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเวียงจันทน์ ได้ออกประกาศเชิญชวนร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในแขวงอัตตะปือและแขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หลังจากที่ช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุน้ำท่วมหนักในแขวงอัตตะปือและแขวงจำปาสัก ส่งผลให้สะพานที่เชื่อมต่อแขวงอัตตะปือกับแขวงจำปาสักได้รับความเสียหายอย่างหนักจนใช้การไม่ได้ และพังลง ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักทั้งด้านการคมนาคมและความเป็นอยู่ จึงขอเชิญร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุน้ำท่วมผ่าน 2 ช่องทาง คือ ช่องทางบัญชีที่สถานเอกอัครราชทูตฯ เปิดไว้ และช่องทางของแขวงอัตตะปือ อย่างไรก็ตาม Facebook Page : Royal Thai Embassy, Vientiane แจ้งเพิ่มเติมมาว่า ผู้มีจิตศรัทธาจากประเทศไทยจำนวนมากแจ้งว่าไม่สามารถโอนเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน สปป. ลาว เข้าบัญชีตามที่ระบุในประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ ที่ระบุได้ ซึ่งเป็นบัญชีที่เปิดในนครหลวงเวียงจันทน์ และขอให้สถานเอกอัครราชทูตฯ พิจารณาช่องทางให้สามารถบริจาคได้นั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อเปิดช่องทางรับบริจาคในประเทศไทยและจะแจ้งให้ทราบต่อไป ที่มา : Facebook : Royal Thai Embassy, Vientiane
ก.ล.ต. เริ่มเปิดรับคำขออนุญาตเป็นผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. เปิดรับคำขออนุญาตการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลแล้วตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากประกาศกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการอนุญาตประกอบธุรกิจ มีผลใช้บังคับแล้ววันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอรับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขาย นายหน้า หรือผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลต่อ ก.ล.ต. ได้ ทั้งนี้ ผู้ยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องมีคุณสมบัติสำคัญ คือ 1.เป็นบริษัทไทยที่เป็นบริษัทจำกัด หรือบริษัทจดทะเบียน 2.มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วตามที่กำหนด 3.มีความพร้อมด้านระบบงาน ฐานะทางการเงิน การควบคุม และการปฏิบัติงานที่ดี 4.ไม่ประสบปัญหาทางการเงิน 5.กรรมการ ผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ต้องขอความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. และไม่มีลักษณะต้องห้าม 6.ในกรณีประกอบธุรกิจอื่นอยู่ก่อนแล้ว ต้องเป็นกิจการที่ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เว้นแต่จะมีระบบป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่มีประสิทธิภาพ มีงบการเงินประจำปีงวดปีล่าสุดที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีที่สำนักงานให้ความเห็นชอบ และสามารถดำรงเงินกองทุนและกันเงินสำรองได้ตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่ควบคุมการประกอบธุรกิจของบริษัทนั้น หลักเกณฑ์นี้ใช้บังคับกรณีผู้ขอรับใบอนุญาตที่เป็นรายใหม่ และผู้ที่ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่เดิมตั้งแต่ก่อนที่พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลมีผลใช้บังคับในวันที่ 14 พ.ค. 2018 “ก.ล.ต. มีหน้าที่กำหนดมาตรฐานการประกอบธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ให้บริการมีระบบที่พร้อม ทั้งเรื่องการบริหารจัดการ ระบบงานต่างๆ […]
หุ้นไทยปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 1,674.22 จุด ลดลง -1.53 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ ( 24 ก.ค. 2018) อยู่ที่ระดับ 1,674.22 จุด ลดลง -1.53 จุด หรือ -0.09% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,686.81 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,667.95 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,098.90 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 50.25 บาท ลดลง -0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,219.91 ลบ. 2.AOT ปิดที่ 65.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,476.43 ลบ. 3.PTTGC ปิดที่ […]
BF Editorial Property Technology PropTech Technology
5 เทคโนโลยีพลิกโฉมวงการก่อสร้าง
By…จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์ การขาดแคลนแรงงานเป็นปัญหาท้าทายที่ทุกภาคธุรกิจพบเจอในยุคนี้ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมก่อสร้าง จะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมาต้องมีการจ้างแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงาน เพราะคนไทยที่ทำงานในภาคนี้มีไม่เพียงพอ การมองหาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานจึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจ เมื่อไม่นานมานี้ www.weforum.org ได้นำเสนอ 5 เทคโนโลยีที่น่าสนใจ ที่คาดว่าจะมาเปลี่ยนวงการก่อสร้างของโลก ได้แก่ 1.โดรน (Drones) โดรนขับเคลื่อนอัตโนมัติจะถูกนำมาใช้กับงานก่อสร้างได้ ในโครงการก่อสร้างที่ใช้ดิจิทัล ซึ่งโดรนจะช่วยให้เกิดความแม่นยำในการทำงานได้สูงขึ้น ลดความผิดพลาดอันเป็นต้นเหตุของการก่อสร้างล่าช้าหรือทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น Shakti Shaligram นักออกแบบของ seymourpowell กล่าวว่า โดรนสามารถเพิ่มความรวดเร็ว ความแม่นยำ และมาตรฐานความปลอดภัย ให้กับงานก่อสร้างดานต่างๆ ได้ ขณะเดียวกันโดรนยังเก็บสะสมข้อมูลของไซต์งานได้จากการบินขึ้นไปด้านบนแล้วถ่ายภาพความละเอียดสูง โดยช่างภาพที่มีความชำนาญสามารถจะดึงข้อมูลในภาพที่มีคุณภาพสูงแล้วมาจำลองเป็นภาพ 3 มิติได้ จากความสามารถเหล่านี้จะช่วยลดความผิดพลาด และยังลดระยะเวลาในการก่อสร้างจากเป็นเดือนหลือแค่ไม่กี่วันได้ หรืออาจจะใช้เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงด้วยซ้ำในบางกรณี ยิ่งถ้าในอนาคตโดรนมาราคาถูกลงและฉลาดมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะมีประโยชน์กับวงการก่อสร้างมากขึ้นเท่านั้น 2.การพิมพ์ 3 มิติ (3D printing) เมื่อเดือน เม.ย. องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ องค์การนาซา […]
จีนออกแผนรับมือความตึงเครียดการค้าเน้นนโยบายการคลังเชิงรุก
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า จีนได้ประกาศมาตรการกระตุ้นความต้องการภายในประเทศเพื่อชดเชยผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้ากับประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างสหรัฐฯ สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการเตรียมรับมือสงครามการค้าที่อาจเกิดขึ้น สภาแห่งรัฐ หรือ คณะรัฐมนตรีจีน ได้ประกาศมาตรการดังกล่าวออกมาเมื่อช่วงค่ำของวันจัทนร์ที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วยมาตรการลดภาษีเพื่อกระตุ้นให้เกิดการวิจัยและพัฒนา รวมไปถึงการออกพันธบัตรพิเศษระดมทุนเพื่อใช้ลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้เนื่องจากมองว่าจะช่วยสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจในการรับมือกับผลกระทบจากความไม่แน่นอนภายนอกประเทศ ทั้งนี้ รัฐบาลจะดำเนินนโยบายการคลังเชิงรุกมากขึ้น (more proactive) และให้สอดคล้องกับนโยบายการเงิน ตามที่กระทรวงการคลังของจีนส่งสัญญาณว่าจะดำเนินนโยบายการคลังไปในทางกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับธนาคารกลางจีน ขณะที่ธนาคารกลางจีนได้เริ่มลดอัตราส่วนกันสำรองทางการเงินของธนาคารขนาดใหญ่ลงถึง 3 ครั้งในปีนี้ และประกาศมาตรการพิเศษเพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการส่วนบุคคล และผู้ประกอบการขนาดย่อม
จีน ยัน ไม่มีแผนลดค่าเงินหยวนเพื่อความได้เปรียบทางการค้า
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนยืนยันว่า ไม่มีแผนที่จะลดค่าเงินหยวนเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับภาคส่งออก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯกล่าวหาว่า จีนกำลังบิดเบือนค่าเงินด้วยการปล่อยให้อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา “อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินหยวนของจีนถูกกำหนดโดยตลาด และขึ้นลง หรือ เคลื่อนไหวสองทาง” Geng Shuang โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าว โดยประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า จีนกำลังบิดเบือนค่าเงิน ทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปีเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ และทำให้จีนได้เปรียบทางการค้าต่อสหรัฐฯอย่างมาก “การข่มขู่คุกคามใช้ไม่ได้ผลกับเรา และเราเชื่อมั่นในความสามารถของเราที่จะปกป้องผลประโยชน์ของชาติ” “พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้นำสหรัฐฯใช้สติและมีเหตุผล” เขากล่าว
หุ้นไทยปิดตลาดบวก 4.69 จุด มาอยู่ที่ 1,675.75 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ ( 23 ก.ค. 2018) อยู่ที่ระดับ 1,675.75 จุด เพิ่มขึ้น 4.69 จุด หรือ 0.28% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,681.74 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,665.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,264.60 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 51.00 บาท ลดลง -0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,342.03 ลบ. 2.BEAUTY ปิดที่ 8.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,057.13 ลบ. 3.BBL ปิดที่ […]
จีนลุยปรับโครงสร้างเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพขึ้น
ไชน่าเดลี่ รายงานว่า ทางการจีนได้ประกาศแผนที่จะปรับโครงสร้างภาษีเพื่อสร้งระบบการจัดเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพและครบวงจรมากขึ้น สำหรับแผนงานนี้ถูกประกาศออกมาโดยสำนักงานคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและสำนักงานสภา โดย จีนวางแผนจะรวมสำนักงานจัดเก็บภาษีระดับชาติ และระดับท้องถิ่นเข้าด้วยกัน เพื่อให้สามารถกำกับดูแลระบบการจัดเก็บภาษีได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันยังมีความพยายามมากขึ้นในการลดขั้นตอนการจัดเก็บภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการจัดเก็บ เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจให้ดีขึ้น ทางด้าน หน้าที่รับผิดชอบของสำนักงานจัดเก็บภาษีแต่ละระดับจะถูกปรับปรุง และมีการจัดสรรทรัพยากรให้ดีขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการเพิ่มความโปร่งใสและสอดคล้องกับนโยบายภาษีของรัฐ ทั้งนี้นโยบายการจัดเก็บภาษีแบบใหม่จะเริ่มใช้วันที่ 1 ม.ค. 2019 โดยจีนจะโอนเงินค่าประกันสังคม เงินบำนาญขั้นพื้นฐาน และเงินประกันสุขภาพไปให้หน่วยงานจัดเก็บภาษีจัดการ ตามแผนที่วางไว้ สำหรับข้อมูลจากสำนักงานบริหารภาษีของรัฐ ระบุว่า ภาพรวม 6 เดือนปีนี้ จีนเก็บภาษีได้ 8.2 ล้านล้านหยวน หรือ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่นับรวมภาษีที่ได้จากการส่งออก) เพิ่มขึ้น 15.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน