เกิดเหตุควันไฟกลุ่มหนาพวยพุ่งออกมาจากสำนักงานของกูเกิลใน ซิลิคอล วัลเลย์ ประเทศจีน
www.rt.com ได้เผยแพร่ภาพคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่มีกลุ่มควันไฟจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากหลังคาของสำนักงานกูเกิลในกรุงปักกิ่ง ที่ย่านเทคโนโลยี Zhongguancun ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นซิลิคอน วัลเลย์ของจีน ส่งผลให้ต้องอพยพผู้คนจำนวนมากที่ทำงานอยู่ในนั้น ทั้งนี้เหตุการณ์ไฟไหม้นี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของจีน โดยไฟไหม้ปะทุบนหลังคาบริเวณด้านหน้าของสำนักกูเกิล ส่งผลให้เกิดกลุ่มควันหนาสีดำลอยไปบนอากาศ เหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ เกิดกับสำนักงานของกูเกิลในจีน โดยพนักงานที่เผชิญเหตุการณ์เล่าว่า ทุกคนรีบอพยพกันในเวลา 20 นาที แต่หลังจากทุกอย่างเรียบร้อยก็ได้กลับเข้าไปทำงาน ส่วนสาเหตุไฟไหม้เกิดจากอะไรนั้น Raymond Zhong นักข่าวเทคโนโลยีระบุว่า ยังไม่มีใครทราบ ข่าวนี้ปรากฎขึ้นหลังจากการขู่วางระเบิดสำนักงานใหญ่ของเฟสบุ๊คในแคลิฟอร์เนีย แต่ก็ไม่พบกล่องต้องสงสัยใดๆ เช่นเดียวกันนี้เหตุการณ์ยังเกิดขึ้นในเวลาเพียงชั่วโมงหลังจากที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกูเกิลกำลังชี้แจงต่อคณะกรรมการตุลากรสหรัฐในประเด็นต่างๆ ซึ่งรวมถึงการที่บริษัทไปขยายธุรกิจในจีนด้วย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Pichai ซีอีโอ กูเกิล ชี้ว่า กูเกิล ยังไม่มีแผนที่จะสร้างเครื่องมือตรวจสอบการค้นหาในเวลานี้ แต่ก็ไม่ได้มีกฎออกมาว่าจะไม่เกิดแนวคิดนี้ในอนาคต ที่มา : https://www.rt.com/usa/446272-google-china-office-fire/
ฝึกนิสัยใหม่สู่การเป็นเศรษฐี
ฝึกนิสัยใหม่สู่การเป็นเศรษฐี โดย…อรพรรณ บัวประชุม CFP® ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center การที่จะเป็นเศรษฐี รวยได้อย่างที่ควรเป็น ต้องมีนิสัยอย่างไรบ้าง ตั้งแต่อดีต เราจะเห็นคนรวยส่วนใหญ่มีนิสัยขี้เหนียว กว่าจะจ่ายอะไรได้นี่ลำบากมาก คิดแล้วคิดอีก แต่ถ้าเราลองมองกลับไป จะเห็นว่าในสมัยก่อน การใช้ชีวิตไม่ได้สะดวกสบายเหมือนในสมัยปัจจุบัน การจะหาเงินได้แต่ละบาทก็แสนจะลำบาก จึงทำให้การจะใช้จ่ายอะไรต้องคิดแล้วคิดอีก ว่าการซื้อในครั้งนี้ จะคุ้มกับเงินที่ต้องจ่ายออกไปไหม เพราะฉะนั้น นิสัยเศรษฐีส่วนใหญ่ที่มีอย่างแรกคือ การคิดก่อนจ่าย นั่นเอง เทียบกับสมัยนี้ ก็คือ ก่อนจะไปซื้อของ ควรจดก่อนว่าจะซื้ออะไรบ้าง แล้วซื้อตามรายการที่จด ส่วนที่เกินจากที่จดเราก็ไม่ซื้อ (ยกเว้นว่าลืมจด) โดยเฉพาะหากมีรายการลดราคา โปรโมชั่นต่างๆ เรามักจะหลงซื้อมาก่อนเพราะราคาถูก แต่จริงๆ แล้วอาจจะไม่ได้ถูกอย่างที่คิด ถ้าเราซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ เท่ากับเอาเงินไปซื้อขยะมาเก็บในบ้าน บางทีซื้อซ้ำแบบไม่ได้ตั้งใจ กลับมาที่บ้านถึงกับงงว่าเคยซื้อแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่กัน นอกจากนี้แล้วยังมีอีกอย่างหนึ่งก็คือ จดบันทึกทุกครั้งที่จ่าย ถ้าจ่ายก็ต้องจด แม้ว่าจะใช้บัตรเครดิตก็ตาม จะทำให้เรารู้ว่าในวันนี้เราจ่ายอะไรไปบ้าง รูดไปแล้วเท่าไหร่ เพราะบางครั้งรูดเพลินเกินกว่าเงินเดือนที่ได้รับ จะทำให้ช้ำใจหนักเมื่อใบแจ้งหนี้มาถึง เพราะฉะนั้นต้องมีการจดบันทึกเตือนความทรงจำ […]
หุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,634.88 จุด เพิ่มขึ้น 1.26 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ (12 ธ.ค. 2018) อยู่ที่ระดับ 1,634.88 จุด เพิ่มขึ้น 1.26 จุด หรือ 0.08% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,644.90 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,632.34 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,430.47 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 49.00 บาท ลดลง -0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,725.19 ลบ. 2.KBANK ปิดที่ 190.00 บาท ลดลง -1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,666.70 ลบ. 3.CPALL ปิดที่ 70.75 […]
กองทุนบัวหลวง เสนอขายกองทุนใหม่ “บัวหลวงตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 9/18”
กองทุนบัวหลวง เสนอขายกองทุนใหม่ บัวหลวงตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 9/18 เน้นลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ และภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ IPO 12-18 ธันวาคม 2561 กองทุนรวมบัวหลวงตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 9/18 (B-Fixterm 9/18) อายุประมาณ 6 เดือน ประมาณการผลตอบแทน 1.45% ต่อปี ขนาดโครงการ 7,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ และภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในระดับ Investment grade ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าว เหมาะสมกับเงินลงทุนส่วนที่ต้องการความมั่นคง และความเสี่ยงต่ำ เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงิน โดยไม่ต้องไปลงทุนในหุ้น ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ที่ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วยลงทุน สำหรับตราสารหนี้ และ / หรือประเทศที่จะลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาวการณ์ของตลาดตราสารหนี้ขณะนั้นๆ […]
Artificial Intelligence ASEAN Morning Brief
แพลตฟอร์มชำระเงินชั้นนำอินโดนีเซียจับมือ CashShield ปราบทุจริต-ฉ้อโกง
CashShield บริษัทจัดการการฉ้อโกงออนไลน์แห่งเดียวของโลกที่ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ประกาศความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ OVO แพลตฟอร์มการชำระเงินชั้นนำของอินโดนีเซีย ในการจัดหาแนวทางป้องกันการฉ้อโกงครบวงจรชั้นนำในอุตสาหกรรมให้กับ OVO ซึ่งจะทำให้ฐานข้อมูลผู้ใช้งานกว่า 60 ล้านคนใน 500 เมืองทั่วอินโดนีเซียของ OVO จะได้รับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ ทั้งนี้ความร่วมมือที่เกิดขึ้นมาจากการชำระเงินผ่านมือถือได้รับความนิยมมากขึ้นในปีที่ผ่านมา และกลายเป็นเป้าหมายในการแสวงหาผลประโยชน์ของเหล่าบรรดาอาชญากรทางไซเบอร์ ซึ่งการตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกง สามารถให้บริการแก่ผู้ใช้งานได้ทั้งที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ หรือบริษัทที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว Justin Lie ซีอีโอของ CashShield กล่าว เทคโนโลยีสามารถลดอัตราการฉ้อโกงลงเหลือเพียง 1 ใน 10 ของค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมได้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของการผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเครื่องมือการ เทรดของ Wall Street เข้าด้วยกัน ทำให้ CashShield ช่วยลดการเข้ามามีส่วนร่วมของมนุษย์ในการตรวจจับและป้องกันการฉ้อโกงออนไลน์ ตลอดจนลดความเสี่ยงที่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องบัญชีผู้ใช้และข้อมูลส่วนตัวเอาไว้ได้
ศาลแคนาดาให้ประกันตัว CFO หัวเว่ยแล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ศาลแคนาดาได้ตัดสินให้ เหมิง หวันโจว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน (CFO) ของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี ได้รับการประกันตัวแล้ว รวมระยะเวลา 10 วัน หลังจากเธอต้องถูกคุมขังอยู่ในเมืองแวนคูเวอร์ ตามคำร้องของสหรัฐ ซึ่งถือเป็นประเด็นจุดชนวนความขัดแย้งในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ระหว่างจีนกับสหรัฐและแคนาดา เหมิง นั้นนอกจากจะเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินแล้วยังเป็นลูกสาวของผู้ก่อตั้งหัวเว่ยด้วย ซึ่งที่ผ่านมาสหรัฐกล่าวหาว่าเธอมีความผิดที่ลักลอบทำธุรกรรมเชื่อมโยงกับอิหร่าน ขัดต่อการคว่ำบาตรของสหรัฐ ทั้งนี้ศาลแคนาดาได้ตัดสินให้ประกันตัว โดยมีเงินประกัน 10 ล้านเหรียญแคนาดา หรือประมาณ 7.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเธอต้องถูกจำคุกมาตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. ซึ่งทันทีที่ศาลตัดสินออกมา เหมิงถึงกับร้องไห้และกอดทนายของเธอ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า เขาจะแทรกแซงกระทรวงยุติธรรมสหรัฐในกรณีของเหมิง หากกระทบต่อความมั่นคงของชาติ หรือช่วยให้ปิดกรณีพิพาททางการค้ากับจีนได้ ขณะที่จีน ก่อนหน้านี้ได้ออกมาประกาศว่า หากแคนาดาไม่ปล่อยตัวเหมิง ก็ต้องเตรียมรับผลกระทบร้ายแรงที่ตามมา อย่างไรก็ตามภายหลังการให้ประกันตัวแล้ว สถานทูตจีนยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นใดๆ ในเวลานี้ อนึ่ง […]
หุ้นไทยร่วงกว่า 16 จุด ปิดตลาดที่ 1,633.62 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ (11 ธ.ค. 2018) อยู่ที่ระดับ 1,633.62 จุด ลดลง 16.37 จุด หรือ -0.99% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,647.88 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,633.11 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,897.10 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.CPALL ปิดที่ 70.25 บาท ลดลง -1.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,103.85 ลบ. 2.PTTEP ปิดที่ 132.00 บาท ลดลง -3.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,836.11 ลบ. 3.PTT ปิดที่ 49.25 […]
BF Knowledge Center Personal Finance
ซื้อกองทุนไหนดี
By…ศรศักดิ์ สร้อยแสงจันทร์ BF Knowledge Center คำถามที่พบอยู่เป็นประจำจากนักลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุนรวมคือ “ซื้อกองทุนไหนดี” โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังคำตอบที่สั้นๆ ชัดเจน และตรงไปตรงมาจากผู้แนะนำการลงทุน เช่น กองทุน ABC ซิครับดี พร้อมอธิบายความดีงามของกองทุน 2-3 ประโยค และแสดงผลการดำเนินงานที่ดีในช่วง 6 เดือน ถึง 1 ปีที่ผ่านมา หรือมีผลตอบแทนสูงในระดับต้นๆจากการจัดอันดับของกูรูต่างๆ จะทำให้นักลงทุนตัดสินใจง่ายขึ้นในการเข้าลงทุนในกองทุนที่ได้รับการแนะนำ คงไม่ต่างกันกับนักลงทุนที่มักถามเจ้าหน้าที่การตลาดของโบรกเกอร์ว่า “ซื้อหุ้นตัวไหนดี” โดยต้องการคำตอบเพียงชื่อหุ้น 2-3 ตัว พร้อมเหตุผลประกอบสั้นๆ 2-3 ประโยคและราคาเป้าหมายที่จะไปถึง แม้จะมีนักลงทุนบางส่วนที่ไล่เรียงซักถามรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติมจากที่ได้รับคำแนะนำ แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อย หากเปรียบกันแล้วคงไม่ต่างจากการไปซื้อของในห้างสรรพสินค้าที่ลูกค้ามักถามพนักงานขายเครื่องสำอางหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าว่า ยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี โดยคาดหวังว่าพนักงานขายจะต้องมีความรอบรู้ในตัวสินค้าเป็นอย่างดีและสามารถแนะนำสินค้าที่ดี่ที่สุดได้ โดยพนักงานขายอาจแนะนำสินค้าที่ตัวเองคิดว่าเหมาะสมซึ่งบางครั้งอาจเชียร์สินค้าที่ห้างต้องการโปรโมทหรือให้ทำยอดขายตามเป้า ในความเป็นจริงกองทุนรวมมีความแตกต่างและหลากหลายมากมายขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนและระดับความเสี่ยง แต่ละกองทุนมีข้อดีและข้อด้อยในตัวเอง ไม่มีกองทุนที่ดีพร้อมในทุกด้าน เช่น ให้ผลตอบแทนสูง แต่มีความผันผวนและความเสี่ยงต่ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงไม่มีกองทุนไหนที่ดีเลิศเหมาะสำหรับนักลงทุนทุกๆ คน […]
ก.ล.ต. เตรียมปรับเกณฑ์เงินกองทุนสำหรับ บลจ. ที่จัดการกองอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน ผู้จัดการกองทรัสต์ และทรัสตี
ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน ผู้จัดการกองทรัสต์ และทรัสตี เป็นไปในแนวทางเดียวกับ บลจ. ที่จัดการกองทุนรวม กองทุนส่วนบุคคล หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานสากล สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีแนวคิดปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ที่จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือเป็นทรัสตีของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งผู้จัดการกองทรัสต์ เพื่อให้ดำรงเงินกองทุนที่เพียงพอและเหมาะสม โดยกำหนดส่วนของผู้ถือหุ้นขึ้นต่ำ 10 ล้านบาทสำหรับผู้จัดการกองทรัสต์ และ 20 ล้านบาทสำหรับ บลจ. รวมถึงต้องมีเงินกองทุนส่วนเพิ่มเพื่อรองรับความต่อเนื่องของธุรกิจ นอกจากนี้ บลจ. จะต้องมีเงินกองทุนส่วนเพิ่มเพื่อรองรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานผิดพลาด ในอัตราที่ผันแปรตามขนาดและปริมาณของการประกอบธุรกิจ และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของ บลจ. และผู้จัดการกองทรัสต์ในกรณีที่ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนได้ ทั้งนี้ ในแนวทางที่เสนอจะให้เวลา 2 ปี กับ บลจ. และผู้จัดการกองทรัสต์ ซึ่งประกอบธุรกิจอยู่แล้วก่อนวันที่ประกาศจะมีผลในการปฏิบัติให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. www.sec.or.th/hearing ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือโทรสาร […]
ไทยเผชิญความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งมากขึ้น
รายงานความมั่งคั่งและการถือครองทรัพย์สินปี 2018 (CS Global Wealth Report 2018) ระบุว่า ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำทางด้านความมั่งคั่งและการถือครองทรัพย์สินสูงที่สุดในโลก โดยข้อมูลล่าสุดถูกรวบรวมเรียบเรียงจากหน่วยงานทางด้านเศรษฐกิจของไทยแล้วนำไปวิเคราะห์และวิจัย ระบุว่า คนไทยเพียง 1% ถือครองทรัพย์สินและความมั่งคั่งถึง 66.9% และยังมีการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงสองปีที่ผ่านมา ผศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึง กรณีรายงานความมั่งคั่งและการถือครองทรัพย์สินปี 2018 ว่า มีความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำทางด้านความมั่งคั่งและการถือครองทรัพย์สินสูงที่สุดในโลก และยังมีการเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงสองปีที่ผ่านมาอีก โดยสถาบันการเงินเครดิตสวิส ได้เคยออกรายงานความมั่งคั่งของโลก ระบุว่า ไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำเป็นอันดับ 3 ของโลก คนรวย ที่มีสัดส่วน 1% ของประชากร ครอบครองความมั่งคั่งสูงถึง 58% ของระบบเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ข้อมูลของโครงสร้างเงินฝากในระบบสถาบันการเงินยังพบว่า คนรวย 0.1% หรือ 65,000 คน จากประชากรทั้งหมด 65 […]