B-INNOTECH B-INNOTECHRMF Product Special Technology
B-INNOTECH และ B-INNOTECHRMF
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา (15-31 พ.ค. 2019) ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐฯ เช่น Google Facebook Amazon Apple ลดลงจากการที่คณะกรรมมาธิการทางการค้าสหรัฐฯ หรือ the US government’s Federal Trade Commission (FTC) และกระทรวงยุติธรรม หรือ Department of Justice (DOJ) บรรลุข้อตกลงร่วมกันต่อการจัดการด้านการผูกขาดทางธุรกิจ (Source: https://www.ft.com/content/34993834-8609-11e9-97ea-05ac2431f453) ทั้งนี้ DOJ มีแนวโน้มเรียก Google และ Apple เข้ามาไต่สวน ขณะที่ FTC จะตรวจสอบ Facebook และ Amazon ข่าวดังกล่าวเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาหุ้นโกลบอลเทคโนโลยี ร่วงลงในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยี (Mega cap Tech stock) กำลังจะถูกเพ่งเล็งเข้มข้นขึ้น […]
คณะกรรมาธิการยุโรปเตรียมควบคุมงบการคลังของอิตาลีอีกครั้ง หลังดำเนินนโยบายไม่สอดคล้องกับกฎของอียู
BF Economic Research คณะกรรมาธิการยุโรป หรือ European Commission (EC) รายงานผลการประเมินนโยบายการคลังของอิตาลีเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ในปี 2018 รัฐบาลอิตาลีได้ดำเนินนโยบายการคลังอย่างขาดความรอบคอบ และไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบของอียูในการควบคุมหนี้สาธารณะของตัวเอง รวมทั้งมีแนวโน้มจะเป็นเช่นนี้ไปจนถึงปี 2020 สำหรับหนี้สาธารณะของอิตาลีนั้นมีสูงถึง 132.2% ต่อจีดีพีในปี 2018 ซึ่งมากกว่าระดับที่อียูกำหนดไว้ ทั้งนี้ อียูมีความกังวลเกี่ยวกับระดับหนี้สาธารณะของอิตาลีเป็นอย่างมาก เนื่องจากอิตาลีมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ในอียูโซน แต่กลับมีหนี้สาธารณะสูงถึงอันดับ 2 ในอียูโซน ทำให้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอียูในภาพรวมอย่างมีนัยสำคัญ ถ้าหากพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีเกิดผิดนัดชำระหนี้ (Default) ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า คณะกรรมการด้านเศรษฐกิจและการเงินของอียู ซึ่งประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ว่าธนาคารกลางของแต่ประเทศสมาชิก จะหารือร่วมกันว่าจะดำเนินมาตรการทางวินัยกับอิตาลีหรือไม่ ซึ่งถ้าคณะกรรมการฯ มีความเห็นว่าควรดำเนินมาตรการ คณะกรรมาธิการยุโรปจะเรียกร้องให้อิตาลีลดการขาดดุลงบประมาณการคลังลง จนอยู่กรอบของอียูภายในระยะเวลา 3-6 เดือน ผ่านการปรับอัตราภาษีขึ้น และลดการใช้จ่ายของรัฐบาลลง […]
วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,653.41 จุดเพิ่มขึ้น 4.95 จุด
ดัชนีหุ้นไทยประจำวันที่6 มิ.ย. 2562 ปิดตลาดที่ 1,653.41 จุดเพิ่มขึ้น4.95 จุดหรือ0.30% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,655.33 จุดและทำระดับต่ำสุดที่1,643.27 จุดมูลค่าการซื้อขาย49,878.7 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด5 อันดับได้แก่ 1.PTTEP ปิดที่125.00 บาทลดลง-1.50 บาทมูลค่าการซื้อขาย2,031.26 ลบ. 2.CK ปิดที่28.75 บาทเพิ่มขึ้น1.50 บาทมูลค่าการซื้อขาย1,752.83 ลบ. 3.AOT ปิดที่65.00 บาทเพิ่มขึ้น0.25 บาทมูลค่าการซื้อขาย1,600.22 ลบ. 4.LH ปิดที่11.10 บาทเพิ่มขึ้น0.10 บาทมูลค่าการซื้อขาย1,471.90 ลบ. 5.CPALL ปิดที่81.75 บาทลดลง-0.25 บาทมูลค่าการซื้อขาย1,471.18 ลบ.
จีน-รัสเซียเดินหน้ายกระดับความสัมพันธ์และร่วมมือเชิงกลยุทธ์กันมากขึ้น
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า จีนและรัสเซียตกลงจะยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อเป็นพันธมิตรร่วมมือในเชิงกลยุทธ์กันมากขึ้นสำหรับยุคใหม่นี้ โดยการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นระหว่างการประชุมที่นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีนไปเยือนรัสเซียและพบปะกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ทั้งนี้ระหว่างการประชุม ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ ประเมินผลการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศตลอด 70 ปีที่ผ่านมา และเห็นด้วยที่จะยกระดับความสัมพันธ์อันดีนี้เพิ่มขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ร่วมกัน พัฒนาความสัมพันธ์ในการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้วยการทำข้อตกลงทวิภาคดี เพื่อประโยชน์ของคนทั้ง 2 ประเทศและทั่วโลก สี กล่าวว่า การไปเยือนรัสเซียของเขาในครั้งนี้ นับเป็นการเยือนครั้งแรกหลังจากที่เขาได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาเป็นประธานาธิบดีเมื่อปีที่ผ่านมา และถือเป็นครั้งที่ 8 ที่เขาเดินทางไปเยือนรัสเซีย นับตั้งแต่ปี 2013 โดยเชื่อว่าหลังจากนี้จะเห็นความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียพัฒนาต่อไป และมองเห็นการพัฒนาในระดับที่สูงขึ้น และดีที่สุดเท่าที่เคยมีในประวัติศาสตร์มา สี กล่าวอีกว่า ทั้ง 2 ประเทศ จะสนับสนุนเศรษฐกิจและการค้าร่วมกัน เพิ่มความร่วมมือในโครงการกลยุทธ์หลักๆ เช่นเดียวกับในด้านใหม่ๆ พร้อมทั้งยกระดับความร่วมมือตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน พลังงาน เทคโนโลยี อากาศยาน การเชื่อมโยงระหว่างประเทศ ภาคเกษตรกรรม […]
เงินเฟ้อเดือน พ.ค. ได้แรงหนุนจากอาหารสด
BF Economic Research อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของเดือน พ.ค. ยังคงแข็งแกร่งที่ 1.15% แม้ราคาพลังงานในประเทศจะลดลง 0.49% YoY แต่ราคาอาหารสดยังคงเห็นการเพิ่มขึ้นที่ 5.28% YoY ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปนับตั้งแต่ต้นปี (YTD) อยู่ที่ 0.92% ต่ำกว่ากรอบล่างของเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อของ ธปท. ที่ 1%-4% เล็กน้อย ในระยะข้างหน้า ด้วยฐานราคาพลังงานที่สูงในกลางปี 2018 กอปรกับการปรับลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกเมื่อเร็วๆ นี้ ทำให้เราคงมุมมองอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2019 ที่ 1.0% และมองว่าธปท จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ในปีนี้ เราได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2019 ลงเป็น 3.6% (จาก 4.1% ในปี 2018) เนื่องจากการส่งออกได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งทางการค้าในเวทีโลก อีกทั้งเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังเลือกตั้งอาจทำให้การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนสะดุด เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจตัวสุดท้ายซึ่งคือการบริโภคในประเทศก็ขึ้นอยู่กับการซื้อสินค้าคงทน อาทิ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ […]
วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,648.46 จุด เพิ่มขึ้น 10.77 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 5 มิ.ย. 2019 ปิดตลาดที่ 1,648.46 จุด เพิ่มขึ้น 10.77 จุด หรือ 0.66% โดยระหว่างวันดัชนีแตะระดับสูงสุดที่ 1,650.70 จุด และต่ำสุดที่ 1,642.35 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,214.32 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.CPALL ปิดที่ 82.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,090.59 ลบ. 2.KBANK ปิดที่ 192.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,042.94 ลบ. 3.PTT ปิดที่ 47.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 […]
กองทุนเปิดบัวหลวงภารตะ (B-BHARATA)
สรุปประเด็นสำคัญทางเศรษฐกิจอินเดีย ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการซึ่งได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2019 ส่งผลให้พรรค BJP (Bharatiya Janata Party) ของนายนเรนทรา โมดิ รวบรวมเสียงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้อีกสมัย โดยเสียงที่เขารวบรวมในสภาล่าง (Lok Sabha) นั้นได้สมาชิกรวมทั้งสิ้น 350 เสียงจากทั้งหมด 543 เสียง คิดเป็นสัดส่วน 56% ตัวเลขดังกล่าว นอกจากจะสูงกว่า ผลสำรวจก่อนการเลือกตั้งแล้ว ยังสูงกว่าตัวเลขที่แกนนำร่วมรัฐบาล(NDA: National Democratic Alliance) ที่นำโดยพรรค BJP เคยได้รับในปี 2014 ในครั้งนั้นพรรค BJP ซึ่งเป็นสมาชิกหลักของแกนนำร่วมรัฐบาล รวบรวมเสียงได้เพียง 336 เสียง คิดเป็นสัดส่วน 52% (เทียบกับ 56% ในปีนี้) และหากนับเฉพาะคะแนนเสียงที่พรรค BJP ได้รับโดยลำพัง (Standalone) แล้วถือว่าเพิ่มขึ้นเป็น […]
คนโสด…โปรดวางแผน
คนโสด…โปรดวางแผน โดย…พริ้มพัชร จิรบวรพงศา AFPTTM ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ครองตัวเป็นโสดกันมากขึ้น บ้างก็เพราะยังไม่เจอคนที่ถูกใจ บ้างก็ทุ่มเทให้กับการทำงานเพื่อสร้างความมั่นคง กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เป็นโสดไปเสียแล้ว ทั้งโสดจริงแบบตัวคนเดียว โสดไม่สนิทแบบมีคนคุย โสดแบบกัลยาณมิตร และอีกหลากหลายรูปแบบความโสด โดยความโสดอาจทำให้รู้สึกเหงาบ้างในบางครั้ง เปล่าเปลี่ยวบ้างในบางเวลา แต่ข้อดีที่สุดของคนโสดที่คนไม่โสดแอบอิจฉา นั่นคือ “อิสรภาพ” โดยเฉพาะอิสรภาพในการจับจ่ายใช้สอย (เรื่องนี้คุณผู้ชายที่มีคู่แล้วจะเข้าใจดีที่สุด) คนโสดที่อยู่ในวัยเริ่มต้นทำงานส่วนใหญ่ มักไม่ค่อยกังวลเรื่องเงินมากนัก โดยมีรูปแบบในการใช้เงินคือ หามาใช้ไป เนื่องจากยังไม่มีภาระทางการเงิน สุขภาพแข็งแรง และยังสนุกกับการใช้ชีวิต แต่เมื่อคนโสดเริ่มเข้าสู่วัยเลขสามปลายๆ ก็เริ่มมีความกังวลเรื่องเงิน เนื่องจากเริ่มมีภาระทางการเงินบ้างแล้ว (ผ่อนบ้าน คอนโด รถยนต์) เริ่มมีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพบ้างเข้ามาให้เห็น ทั้งสุขภาพตัวเองและคนในครอบครัว ทำให้มีภาระทางการเงินต้องรับผิดชอบมากขึ้น รู้ตัวอีกทีคนโสดก็ก้าวเข้าสู่วัยเลขสี่ หันมาตรวจสอบเงินในบัญชีก็ตกใจ ตายละ! ยังไม่ได้วางแผนเกษียณ หันไปมองซ้ายขวาก็ไม่เห็นใครนอกจากตัวเอง พุทธสุภาษิตที่ว่า อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน จึงเป็นเรื่องจริงที่คนโสดต้องเผชิญ […]
อินโดนีเซียเร่งศึกษาแนวทางเปิดให้สายการบินต่างชาติให้บริการเส้นทางบินในประเทศ
เดอะ จาการ์ตา โพสต์ รายงานว่า Budi Karya Sumadi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม อินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมกำลังศึกษาข้อเสนอของนายโจโค วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ที่แนะนำให้เชิญชวนสายการบินจากต่างชาติมาให้บริการเส้นทางบินในประเทศ เพื่อช่วยผลักดันให้ค่าตั๋วเครื่องบินลดลง “เราไม่ได้เปิดรับสายการบินต่างชาติทั้งหมดง่ายๆ อุตสาหกรรมการบินของเรายังคงมีมาตรฐานสูงอยู่ อย่างไรก็ตามเรากำลังศึกษาข้อเสนอและเราจะรายงานผลลัพธ์ของการศึกษาให้ประธานาธิบดีรับทราบก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป” รมว.คมนาคม กล่าว เขายังกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สายการบินจากต่างชาติจะมาช่วยเติมเต็มความต้องการการดำเนินการเส้นทางบินในประเทศ แต่ก่อนที่สายการบินต่างชาติจะเข้ามาได้ พวกเขาต้องปฏิบัติตามหลักการของอุตสาหกรรมสายการบิน คือ ต้องมาจัดตั้งบริษัทในอินโดนีเซียและต้องมีชาวอินโดนีเซีย ถือหุ้นในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 51% นอกจากนี้บริษัทต่างชาติยังต้องทำให้แน่ใจว่าได้มาตรฐานความปลอดภัยทางการบิน รวมทั้งผ่านแนวทางการตรวจสอบที่จัดทำโดยกระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียด้วย
B-ASEAN B-ASEANRMF Product Update
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอาเซียน (B-ASEAN) และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอาเซียนเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-ASEANRMF)
สรุปภาวะตลาดหุ้นอาเซียนในช่วงที่ผ่านมาของปี 2019 ดัชนี MSCI AC ASEAN Index ตั้งแต่ช่วงต้นปีถึงปลายเดือน เม.ย. กลับมาปรับตัวขึ้นได้ถึง 7.7% จากปี 2018 ที่ปรับลดไปถึง 11% นำโดยตลาดหุ้นสิงคโปร์ที่เพิ่มขึ้นกว่า 11% จากความหวังว่าภาวะสงครามการค้าจะผ่อนคลายลงและจะลดทอนผลกระทบที่มีต่อภาคการผลิตและการส่งออกของสิงคโปร์ได้ ประกอบกับการที่หุ้นกุล่มธนาคารสามารถสร้าง ผลประกอบการออกมาได้อย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ตลาดหุ้นมาเลเซียเป็นตลาดที่ปรับลดลงมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียโดยปรับตัวลง 3% ด้วยผลกระทบจากการใช้นโยบายรัดเข็มขัดของภาครัฐบาล และภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง อย่างไรก็ตาม เมื่อก้าวเข้าสู่เดือน พ.ค. ตลาดหุ้นในภูมิภาคอาเซียนต้องเผชิญแรงกดดันอีกครั้ง หลังจากภาวะสงครามการค้าที่เริ่มส่อแววปะทุขึ้นอีกครั้งและอาจยืดเยื้อกว่าที่คาดการณ์กันก่อนหน้า ซึ่งไม่เพียงจะส่งผลถึง Sentiment ของตลาดการเงินโดยรวมเท่านั้น แต่อาจส่งผลลบต่อภาคเศรษฐกิจจริงของภูมิภาคอีกด้วย อีกทั้งยังมีปัจจัยเฉพาะประเทศเข้ามากดดัน เช่น อินโดนีเซียที่เกิดการประท้วงภายในกรุงจาการ์ตาหลังจากการประกาศผลการเลือกตั้งจนทำให้มีผู้เสียชีวิต หรือไทยที่การจัดตั้งรัฐบาลยังคงไม่ลงตัวแม้จะผ่านพ้นการเลือกตั้งมาเป็นระยะเวลาหลายเดือนแล้ว ทั้งนี้ในแง่ของกระแสเงินทุน ตลาดหุ้นอินโดนีเซียได้รับกระแสเงินทุนไหลเข้ามากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นปี ด้วยปัจจัยกดดันทางด้านบัญชีเดินสะพัดที่ขาดดุลเป็นอย่างมากและอย่างต่อเนื่องเริ่มคลี่คลายลง รวมถึงการที่ตลาดหุ้นปรับลดระดับลงมาดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุน ขณะที่ มาเลเซียยังคงเผชิญกับเงินทุนไหลออกจากปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจที่แย่ลงจากการรัดเข็มขัดทางการคลังของรัฐบาล มุมมองของกองทุนบัวหลวงต่อเศรษฐกิจอาเซียนแบ่งตามรายประเทศ อินโดนีเซีย หลังจากที่ธนาคารกลาง (BI: Bank Indonesia) ขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในปี […]