วันนี้ 17 กรกฎาคม 2562 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,718.85 จุด ลดลง 9.13 จุด
วันนี้ 17 กรกฎาคม 2562 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,718.85 จุด ลดลง 9.13 จุด หรือ -0.53% ณ เวลา 16:42 น. มีมูลค่าการซื้อขาย 62,628.42 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 48.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,955.15 ลบ. 2.BEM ปิดที่ 10.30 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,835.67 ลบ. 3.GPSC ปิดที่ 67.75 บาท ลดลง -3.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,801.91 ลบ. […]
ต่างชาติแห่เที่ยวญี่ปุ่น ใช้จ่ายสะพัดแตะระดับ 2.43 ล้านล้านเยน สูงสุดเป็นประวัติการณ์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตัวเลขล่าสุดจากสำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่นระบุ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศญี่ปุ่น ทำสถิติสูงสุดในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ โดยประมาณการว่า ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 16.63 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับยอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น เพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 2.43 ล้านล้านเยน (2.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รัฐบาลญี่ปุ่นได้กำหนดเป้าหมายการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ราว 40 ล้านคนต่อปี และได้เพิ่มเป้าหมายยอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติขึ้นสู่ระดับ 8 ล้านล้านเยนในปีหน้า ซึ่งเป็นปีที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว และพาราลิมปิก เมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศและภูมิภาค พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมีมากที่สุดถึง 4,532,500 คน เพิ่มขึ้น 11.7% โดยได้แรงหนุนจากการที่ญี่ปุ่นผ่อนคลายกฎระเบียบในการออกวีซ่าเมื่อเดือนม.ค. อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ลดลง 3.8% แตะที่ระดับ 3,862,700 คน ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากไต้หวันลดลง 1% สู่ระดับ 2,480,800 คน […]
เรื่องน่ารู้กองทุนอสังหาฯ (ตอนจบ)
โดย พริ้มพัชร จิรบวรพงศา AFPTTM ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน จึงถูกจัดเป็นสินทรัพย์การลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงถึงสูงมาก (สำนักงาน ก.ล.ต.พิจารณาตามหลักเกณฑ์) ผู้ลงทุนจึง จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในสินทรัพย์ที่ลงทุน เนื่องจากสินทรัพย์นั้นมีลักษณะเฉพาะ โดยนักลงทุนมีข้อควรรู้ดังนี้ 1) กรรมสิทธิ์การลงทุน และ 2) สินทรัพย์ที่ลงทุน 1) กรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์ ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่า กองทุนรวมลงทุนในสินทรัพย์ที่เป็นสิทธิขาดของกองทุนหรือไม่? กรณีที่เป็นสิทธิขาดเรียกว่า Freehold หรือสิทธิในความเป็นเจ้าของอสังหาฯ นั้น ผลตอบแทนที่ได้รับจะมาจากค่าเช่า และส่วนต่างราคากรณีขายคืนหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่หากกองทุนรวมลงทุนในสิทธิการเช่า Leasehold หรือสิทธิในการจัดหาผลประโยชน์ในอสังหาฯ นั้นตามระยะเวลาที่กำหนด (เปรียบเปรยง่ายๆ เหมือนเซ้งมาลงทุน) ผลตอบแทนที่ได้รับมาจากค่าเช่า โดยกองทุนรวมจะจ่ายผลตอบแทนพร้อมทยอยคืนเงินลงทุนให้ ซึ่งก็จะหมดลงกลายเป็นศูนย์เมื่อครบระยะเวลาที่กำหนด ดังนั้น หากผู้ลงทุนไม่ทราบมาก่อนว่า Leasehold มีลักษณะอย่างไร? ก็อาจทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนว่า “ขาดทุนกลายเป็นศูนย์” อย่างไรก็ตาม หากให้เปรียบเทียบเรื่องความเสี่ยงระหว่าง Freehold กับ Leasehold […]
วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทย 12 ก.ค. 2562 ปิดที่ 1,731.59 จุด ลดลง -8.86 จุด
วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทย 12 ก.ค. 2562 ปิดที่ 1,731.59 จุด ลดลง -8.86 จุด หรือ -0.51% ณ เวลา 16:43 น. มีมูลค่าการซื้อขาย 70,714.01 ล้านบาท. หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.BEM ปิดที่ 10.60 บาท ลดลง -0.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,231.27 ลบ. 2.TOP ปิดที่ 72.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,742.12 ลบ. 3.TRUE ปิดที่ 6.15 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 2,548.16 ลบ. […]
ตามติดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ “รุกขกร” ภายใต้โครงการ สายไฟใจดี ของกองทุน ‘BKIND’
โครงการ สายไฟใจดี เป็นหนึ่งในโครงการที่ กองทุนรวม คนไทยใจดี (BKIND) เข้าไปสนับสนุน ซึ่งโครงการนี้ดำเนินการโดย บริษัท รักษ์ไม้ใหญ่ วิสาหกิจเพื่อสังคม หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม Big Trees โดยในช่วงเดือน ก.พ. 2561 – ม.ค. 2562 BKIND สนับสนุนงบประมาณโครงการนี้ไปทั้งสิ้น 494,400 บาท โดยหนึ่งในกิจกรรมที่โครงการนี้ทำ และทีมงานกองทุนบัวหลวงได้ลงพื้นที่ไปร่วมสังเกตการณ์ คือ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการตัดแต่งต้นไม้ (รุกขกรรมขั้นต้น) ในโอกาสนี้จึงได้มีการสัมภาษณ์ตัวแทนของบริษัท รักษ์ไม้ใหญ่ วิสาหกิจเพื่อสังคม รวมถึงวิทยากรที่มาให้ความรู้ และผู้เข้าร่วมอบรมด้วย เริ่มจาก คุณอรยา สูตะบุตร ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหาร บริษัท รักษ์ไม้ใหญ่ วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด หรือ Big Trees ผู้รับผิดชอบโครงการสายไฟใจดี กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานของกลุ่ม Big Trees และเครือข่าย […]
กองทุนบัวหลวงชี้การลงทุนกลุ่มกองทุนอสังหาฯ และโครงสร้างพื้นฐานมีแนวโน้มโตสดใส
นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า การลงทุนในกลุ่มกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (PFPO) ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในกองทุนกลุ่มนี้ ซึ่งให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร ทั้งยังจ่ายเงินปันผลเฉลี่ย 6-7% สูงกว่าบริษัทจดทะเบียนที่จ่ายเงินปันผลเฉลี่ย 3-4% ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ต่างๆ ก็จัดตั้งกองทุนรวมมาลงทุนซื้อสินทรัพย์ทางเลือกประเภทนี้ ซึ่งจะเป็นผลดีกับตลาดโดยรวมของกลุ่มธุรกิจประเภทนี้เพิ่มขึ้นไปอีก “หากเรามองดูการไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ เมื่อเทียบกับการซื้อสินทรัพย์ประเภทนี้ จะเห็นว่า ใช้เงินต่างกัน เช่น การจะซื้อคอนโดมีเนียมในแต่ละครั้ง ใช้เงิน 2-3 ล้านบาท และก็ต้องไปกู้ยืมเงินเพื่อซื้อด้วย แต่ว่าหากเรานำเงินที่มีไปซื้อกองทุนกลุ่มนี้ จะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า สภาพคล่องดีกว่า ความเสี่ยงก็น้อยกว่าด้วยเช่นกัน เพราะตลาดอสังหาริมทรัพย์ […]
วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทย 11 ก.ค. 2562 ปิดที่ 1,740.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.02 จุด
วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทย 11 ก.ค. 2562 ปิดที่ 1,740.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.02 จุด หรือ 0.06% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,748.15 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,738.63 จุด มูลค่าการซื้อขาย 69,148.13ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.TRUE ปิดที่ 6.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,614.94 ลบ. 2.CPALL ปิดที่ 87.50 บาท ลดลง -0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,784.33 ลบ. 3.TOP ปิดที่ 71.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท […]
จีนเร่งออกมาตรการเพิ่มเติมหวังสร้างเสถียรภาพการค้าระหว่างประเทศ
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า คณะรัฐมนตรีจีนตัดสินใจออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างเสถียรภาพทางการค้าระหว่างประเทศ นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวระหว่างการเปิดประชุมคณะรัฐมนตรีจีนว่า เพื่อให้การค้าระหว่างประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น จีนต้องเปิดเสรีให้มากขึ้นและมุ่งเน้นการยกระดับบริษัทสัญชาติจีน ผ่านการปฏิรูปตลาดและเศรษฐกิจ จีนจะปรับปรุงนโยบายงบประมาณและภาษี โดยจะหารือกันเรื่องการลดภาษีนำเข้าโดยรวมของประเทศ รวมทั้งทบทวนนโยบายลดภาษีการส่งออก รวมถึงเร่งกระบวนการลดภาษีให้เร็วขึ้น หลี่ ยังกล่าวเรียกร้องให้มีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการสนับสนุนเงินทุนกับบริษัทต่างชาติด้วย นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะนำเสนอประกันในรูปแบบพิเศษๆ มากขึ้นสำหรับบริษัทค้าขายต่างชาติ พร้อมสนับสนุนให้สถาบันการเงินเพิ่มวงเงินการให้สินเชื่อการค้าระหว่างประเทศกับบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมทั้งปรับปรุงความสะดวกในการชำระหนี้ด้วยเงินสกุลหยวน นอกจากนี้จะมีการเรียกร้องให้เร่งพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ๆ ประกอบด้วย อี-คอมเมิร์ซข้ามพรมแดน และอำนวยความสะดวกทางการค้าให้ผู้ค้า ด้วยการปรับปรุงเอกสารการนำเข้าและส่งออก ลดระยะเวลาในการดำเนินการตามขั้นตอนพิธีศุลากร และลดค่าธรรมเนียมจอดเรือเทียบท่า เป็นต้น
ธนาคารกลางมาเลเซียคงดอกเบี้ยนโยบายตามคาด แต่มีโอกาสลดอีกครั้งในปีนี้ หากเศรษฐกิจเผชิญความเสี่ยงสูงขึ้น
BF Economic Research ธนาคารกลางมาเลเซีย (Bank Negara Malaysia: BNM) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 3.0% ในการประชุมเดือนก.ค. เป็นไปตามที่ ตลาดคาด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในการประชุมเดือนพ.ค. ได้ปรับอัตราดอกเบี้ยลงมา 25bps จาก 3.25% ทั้งนี้ รายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของ BNM ระบุว่า ความเสี่ยงเชิงลบจากการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงมีอยู่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของมาเลเซียในระยะข้างหน้า อย่างไรก็ดี การบริโภคและการลงทุนในประเทศจะเป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจให้สามารถเติบโตได้ต่อเนื่องในปี 2019 ด้านอัตราเงินเฟ้อ BNM ระบุว่า ในระยะสั้น เงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับต่ำ แม้ผลของฐานสูงในช่วงต้นปีก่อนการยกเลิกภาษี GST (Good and Services Tax) จะเริ่มมีผลน้อยลงนับตั้งแต่ครึ่งหลังของปีเป็นต้นไป แต่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงมา บวกกับการควบคุมราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ จะยังฉุดให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำต่อไป ซึ่งทำให้ BNM ยังมีพื้นที่ในการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง โดยคณะกรรมการนโยบายการเงินจะติดตามและประเมินความเสี่ยงต่างๆ ที่มีต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อภายในประเทศต่อไป สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2019 […]
Fund Comment
Fund Comment มิถุนายน 2562 : มุมมองตลาดตราสารหนี้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลดลงตลอดช่วงอายุ โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลระยะกลาง-ยาวที่ปรับตัวลงมากถึง 0.20% – 0.35% เป็นการปรับตัวในทิศทางเดียวกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุน ซึ่งเป็นผลมาจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ และยุโรปที่กลับมาส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอีกครั้ง หลังตัวเลขเศรษฐกิจโลกมีทิศทางชะลอตัวลงและมีความกังวลต่อผลกระทบของความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ด้านตลาดตราสารหนี้ไทยได้รับอานิสงส์จากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำเช่นเดียวกันจากปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศ Emerging Market ด้วยกัน ทำให้ในเดือนมิถุนายนมีเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาซื้อสุทธิรวม 52,296 ล้านบาท สำหรับผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย (กนง.) ในเดือนมิถุนายนยังคงมีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยคณะกรรมการฯ เห็นว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบันยังอยู่ในระดับผ่อนคลายเพียงพอต่อภาวะเศรษฐกิจไทย พร้อมปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ลงเหลือ 3.3% จากเดิม 3.8% จากการส่งออกสินค้าและบริการที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ยังแสดงความกังวลต่อการแข็งค่าของค่าเงินบาทที่ค่อนข้างเร็วและอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการส่งออกสินค้าและเศรษฐกิจไทยในอนาคต แนวโน้มตราสารหนี้ไทยในอนาคตยังต้องติดตามปัจจัยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน และทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ตลาดได้ให้น้ำหนักต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% – 0.75% ภายใน 12 เดือนข้างหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งความไม่แน่นอนดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศที่สำคัญคือ การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่คาดว่าจะล่าช้ากว่ากำหนด […]