หุ้นไทย 10 ก.ย. 62 ปิดตลาดที่1,665.93 จุด ลดลง 5.29 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 10 ก.ย. 2562 ปิดตลาดที่ 1,665.93 จุด ลดลง 5.29 จุด หรือ -0.32% ระหว่างวันสูงสุดที่ 1,677.47 จุด ต่ำสุดที่ 1,662.28 จุด มูลค่าการซื้อขาย 58,277.80 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.CPALL ปิดที่ 83.00 บาท ลดลง -1.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,161.71 ลบ. 2.SCB ปิดที่ 117.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,951.92 ลบ. 3.KBANK ปิดที่ 165.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 […]
ลงทุนผ่าน Fund of Funds กับลงทุนตรงในกองอสังหาฯ และโครงสร้างพื้นฐาน ต่างกันอย่างไร
ลงทุนผ่าน Fund of Funds กับลงทุนตรงในกองอสังหาฯ และโครงสร้างพื้นฐาน ต่างกันอย่างไร โดย…ศรศักดิ์ สร้อยแสงจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center นักลงทุนบางท่านมีคำถามว่าการลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยตรงกับการลงทุนในกองทุนรวม Fund of Funds ที่มีนโยบายลงทุนในกองทุนดังกล่าวให้ผลที่ต่างกันอย่างไร การลงทุนใน Fund of Funds ซึ่งเป็นกองทุนรวมใช้เงินลงทุนน้อยกว่า ด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 500 บาท ทำให้นักลงทุนได้กระจายการลงทุนในกองทุนอสังหาฯและโครงสร้างพื้นฐานหลากหลายกองทุน หากลงทุนโดยตรงท่านต้องใช้เงินมากกว่าเพื่อให้ได้กองทุนในจำนวนที่เท่ากัน Fund of Funds ที่มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศนอกจากการเพิ่มโอกาสและช่วยกระจายการลงทุนแล้ว ยังช่วยให้นักลงทุนได้รับความสะดวกในการลงทุน ถ้าท่านต้องลงทุนในต่างประเทศด้วยตัวเองจะมีภาระและขั้นตอนต่างๆ ที่ยุ่งยากพอสมควร กรณีที่ลงทุนโดยตรง นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลของกองทุนทุกกองด้วยตัวเอง ต้องทำการวิเคราะห์ ประเมินมูลค่าและอัตราผลตอบแทนซึ่งใช้พื้นฐานความรู้ด้านการเงินการลงทุน และยังต้องติดตามผลการดำเนินงานของทุกกองทุนเพื่อประเมินผลและปรับพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ เทียบกับการลงทุนในกองทุนรวมภาระต่างๆ ดังกล่าวจะมีผู้จัดการกองทุนและทีมนักวิเคราะห์ที่มีความรู้ ความชำนาญและประสบการณ์ทำหน้าที่ที่ยุ่งยากซับซ้อนแทนท่านทั้งหมด ท่านที่เลือกลงทุนโดยตรงจะได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลเป็นรายไตรมาสอย่างสม่ำเสมอและค่อนข้างแน่นอน ถ้าทรัพย์สินของกองทุนยังสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ราคาของกองทุนที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นหรือลงมากเท่าไร ก็ไม่ส่งผลต่อเงินปันผลของกองทุน แต่จะส่งผลต่อผลตอบแทนรวมต่อเมื่อนักลงทุนขายกองทุนออกไป ในขณะที่ Fund […]
ไต้หวันคาดการณ์เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอดภายในปี 2026
ไชน่าเดลี รายงานว่า จากสถิติของหน่วยงานที่ดูแลกิจการภายในของไต้หวัน ออกมาเปิดเผยสถิติประชากรศาสตร์ พบว่า ขณะนี้ จำนวนประชากรสูงอายุของไต้หวันกำลังเติบโตต่อเนื่อง และเรียกว่าอยู่ในช่วงเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว โดยจากข้อมูลเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา พบว่า ไต้หวันมีประชากร 23.59 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นประชากรที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป 14.94% ทั้งนี้ สัดส่วนประชากรที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ต่อจำนวนประชากรทั้งหมด จะถูกเรียกว่าเป็นอัตราการชราภาพ โดยสังคมผู้สูงอายุจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ กำลังเข้าสู่งสังคมผู้สูงอายุ หมายถึงมีประชากรผู้สูงอายุ 7% ขึ้นไป เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว หมายถึงประชากรผู้สูงอายุ 14% ขึ้นไป และเป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด หมายถึงประชากรผู้สูงอายุ 20% ขึ้นไป อัตราการชราภาพของไต้หวันนั้น เลยระดับ 14% ไปแล้วตั้งแต่เดือน มี.ค. 2018 ดังนั้นจึงถือว่าเป็นสังคมผู้สูงอายุแล้ว และไต้หวัน คาดการณ์ว่าจะเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอดภายในปี […]
“วรวรรณ ธาราภูมิ” ขึ้นแท่นผู้หญิงดีเด่นแห่งเอเชียด้านความยั่งยืน
คุณวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการบริหาร กองทุนบัวหลวง ขึ้นแท่นรับรางวัลผู้หญิงดีเด่นแห่งเอเชียด้านความยั่งยืน (Asia’s Top Sustainability Superwomen Award 2019) นับเป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจของธุรกิจการเงินไทยที่มีบุคลากรที่มีความรู้และความสามารถ ทั้งได้รับการยกย่องในระดับนานาชาติ เมื่อเร็วๆ นี้ (4 กันยายน 2562) CSR Works International องค์กรของประเทศสิงคโปร์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านที่ปรึกษา ยุทธศาสตร์และการฝึกอบรมด้านความยั่งยืน จัดงานมอบรางวัล “Asia’s Top Sustainability Superwomen Award 2019” ขึ้น ที่โรงแรม Novotel Clarke Quay Singapore ด้วยการคัดเลือกเฉพาะผู้หญิงในเอเชียที่มีความโดดเด่นในด้านการส่งเสริมและสนับสนุนความยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นผู้ที่มีความริเริ่มใหม่ๆ ที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อภาคธุรกิจและสังคมโลกในทิศทางที่ดีขึ้น ในปีนี้ CSRWorks International ได้มอบรางวัล Asia’s Top Sustainability Superwomen 2019 ให้กับผู้หญิงที่โดดเด่น […]
หุ้นไทย 9 ก.ย. 62 ปิดตลาดที่ 1,671.22 จุด เพิ่มขึ้น 1.16 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 9 ก.ย. 2562 ปิดตลาดที่ 1,671.22 จุด เพิ่มขึ้น 1.16 จุด หรือ 0.07% ระหว่างวันสูงสุดที่ 1,676.62 จุด ต่ำสุดที่ 1,666.61 จุด มูลค่าการซื้อขาย 46,745.68 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.TRUE ปิดที่ 5.80 บาท ลดลง -0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,711.17 ลบ. 2.GPSC ปิดที่ 71.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,569.39 ลบ. 3.SCC ปิดที่ 424.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 […]
ญี่ปุ่นปรับจีดีพีเศรษฐกิจไตรมาส 2 ลง เหตุปัจจัยเสี่ยงภายนอกส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนโตน้อยลง
BF Economic Research เศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาส 2/2019 ถูกปรับประมาณการลงเป็นขยายตัว 1.3% QoQ saar (0.3% QoQ sa) จากตัวเลขเบื้องต้นที่ 1.8% QoQ saar (0.4% QoQ sa) เนื่องจากการปรับลดในส่วนของการลงทุนภาคเอกชนเป็นหลัก จากเดิมตัวเลขเบื้องต้นที่ 1.5% QoQ ลดลงมาขยายตัว 0.2% QoQ โดยเป็นผลจากภาคอุตสาหกรรมการผลิตเป็นส่วนใหญ่ที่มีมุมมองเชิงลบต่อมาตรการกีดกันทางการค้า จึงยังชะลอการลงทุน แม้การลงทุนในธุรกิจอื่นๆ อาทิ ธุรกิจที่เกี่ยวกับ Software จะเติบโตได้ดี แต่ยังไม่เพียงพอที่จะหนุนการหดตัวของการลงทุนภาคอุตสาหกรรมการผลิต ขณะที่ การลงทุนภาครัฐขยายตัวมากขึ้นเป็น 1.8% QoQ จากตัวเลขเบื้องต้นที่ 1.0% QoQ ส่วนการบริโภคภาคเอกชนซึ่งคิดเป็นกว่า 50% ของเศรษฐกิจไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ขยายตัว 0.6% QoQ ทั้งนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และมาตรการกีดกันการค้าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในระยะข้างหน้า ซึ่งสร้างแรงกดดันให้ธนาคารกลาง […]
อาลีบาบาซื้อ ‘Kaola’ แพลตฟอร์มขายสินค้าหรูเจาะตลาดจีน
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า อาลีบาบากรุ๊ป ตกลงที่จะซื้อธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ Kaola จากบริษัทเกมยักษ์ใหญ่จีน NetEase ด้วยเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแพลตฟอร์ม Kaola นั้น เป็นแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซเฉพาะทางในด้านการจำหน่ายสินค้าหรูที่นำเข้าจากต่างประเทศเพื่อรองรับตลาดผู้บริโภคในประเทศจีน อาลีบาบา กำลังมองหาแนวทางขับเคลื่อนรายได้ใหม่ๆ จากตลาดอี-คอมเมิร์ซ โดยจะลงทุน 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อถือหุ้นในธุรกิสตรีมมิ่งเพลง ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NetEase การทำข้อตกลงกับ Kaola และการลงทุนในด้านเพลงนี้เป็นข่าวลือมายาวนานแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางป้องกันการเติบโตของคู่แข่ง เช่น Pinduoduo และเพิ่มความยืดหยุ่นให้อาลีบาบาเองด้วยกลยุทธ์ใหม่ๆ NetEase เปิดตัว Kaola เมื่อปี 2015 โดยมีเป้าหมายรุกตลาดนักชอปในจีน ด้วยการนำเสนอสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำ เช่น กุชชี ชิเซโด้ และเบอร์เบอรี่ โดยการจัดหาสินค้ามาจากซัพพลายเออร์โดยตรง เพื่อขายให้ผู้บริโภค ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Jane Hali & Associates ระบุว่า […]
ตลาดหุ้นไทย วันที่ 6 ก.ย. 62 ปิดตลาดที่ 1,670.06 จุด เพิ่มขึ้น 0.27 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 6 ก.ย. 2562 ปิดตลาดที่ 1,670.06 จุด เพิ่มขึ้น 0.27 จุด หรือ 0.02% ระหว่างวันสูงสุดที่ 1,679.65 จุด ต่ำสุดที่ 1,667.61 จุด มูลค่าการซื้อขาย 46,725.00 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.SCB ปิดที่ 116.00 บาท ลดลง -0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,273.04 ลบ. 2.PTTEP ปิดที่ 124.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,677.40 ลบ. 3.KKP ปิดที่ 66.75 บาท ลดลง -2.25 […]
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อลงทุนในกองทุนรวม
โดย…ศรศักดิ์ สร้อยแสงจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center กองทุนรวมเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความหลากหลายทั้งนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลตอบแทน การลงทุนในกองทุนรวมให้ได้ผลสำเร็จ นักลงทุนควรต้องศึกษาทำความเข้าใจข้อมูลต่างๆ ให้ชัดเจน โดยพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละคน ทั้งนี้ มีข้อคิดที่ฝากไว้เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อลงทุนในกองทุนรวม 1.ลงทุนโดยไร้เป้าหมาย ถ้าถามถึงเป้าหมาย นักลงทุนบางท่านคงตอบว่าอยากได้กำไร มากๆ และเร็วๆ บางท่านอาจตอบว่ากำไรไม่ต้องมากก็ได้ แต่ขอให้ไม่ขาดทุน การตั้งเป้าหมายการลงทุนที่ดีควรตอบโจทย์ชีวิตของแต่ละคน เช่น ลงทุนเพื่อออมไว้ใช้ยามเกษียณ ลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่ง หรือลงทุนเพื่อสร้างครอบครัว(ซื้อบ้าน/รถ ทุนการศึกษาลูก) โดยต้องกำหนดจำนวนเงินที่ต้องการใช้ ระยะเวลาที่ลงทุน พิจารณาประกอบกับจำนวนเงินที่ใช้ลงทุน ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ จึงจะนำไปสู่แผนการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่จะบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ และยังทำให้นักลงทุนสามารถติดตามทบทวนผลที่ได้รับเพื่อปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนได้ เป้าหมายและแผนลงทุนจะเป็นตัวกำหนดสินทรัพย์ควรที่ลงทุน เช่น กองทุนตราสารหนี้ กองทุนหุ้น กองทุนผสม หรือกองทุนอสังหาริมทรัพย์ หากไร้ซึ่งเป้าหมาย การลงทุนจะไร้ทิศทาง ใครชักชวนว่ากองทุนไหนดีก็ซื้อลงทุนตามคำแนะนำไป โดยไม่รู้ว่ากองทุนนั้นนำพาให้ไปสู่เป้าหมายได้หรือไม่ และจำนวนเงินที่ลงทุนในแต่ละกองทุนเหมาะสมกับเป้าหมายหรือระดับความเสี่ยงที่รับได้หรือไม่ 2.ซื้อขายกองทุนแบบเล่นหุ้น นักลงทุนส่วนมากมักลงทุนในกองทุนหุ้น โดยใช้ความคุ้นเคยจากการเล่นหุ้น นั่นคือซื้อกองทุนเมื่อคาดว่าตลาดหุ้นจะขึ้นและรีบขายออกเมื่อมีกำไร หรือขายตัดขาดทุนเมื่อหุ้นลง โดยหาจังหวะซื้อๆ ขายๆ ตามาภาวะตลาด […]
Fund Comment
Fund Comment สิงหาคม 2562 : มุมมองตลาดตราสารหนี้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญในทุกช่วงอายุ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นปรับลดลงประมาณ 0.25% ตามการลดลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับลดลงในช่วง 0.33%-0.91% ซึ่งเป็นการปรับลดลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และปัจจัยจากต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นผลจากปัญหาความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และความเสี่ยง No-deal Brexit ที่สูงขึ้น รวมถึงการที่ธนาคารกลางทั่วโลกส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ด้าน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงไปอยู่ในระดับต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 2 ปี หรือเกิดภาวะ Inverted Yield Curve สะท้อนความกังวลของนักลงทุนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) เนื่องจากความขัดแย้งทางการค้าที่รุนแรงขึ้น โดยตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2-3 ครั้งในปีนี้ ทำให้ความต้องการพันธบัตรระยะยาวเพิ่มขึ้นจนอัตราผลตอบแทนลดต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น ขณะที่นายเจอโรม โพเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวในการประชุมประจำปีที่ Jackson Hole ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ พร้อมที่จะดำเนินนโยบายการเงินอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้ส่งสัญญาณที่จะลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวได้ดี สะท้อนจากอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำและการบริโภคภาคเอกชนยังคงแข็งแกร่ง สำหรับ […]