ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 6 ม.ค. 63 ปิดตลาดที่ 1,568.50 จุด ลดลง 26.47 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 6 ม.ค. 63 ปิดตลาดที่ 1,568.50 จุด ลดลง 26.47 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 6 ม.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,568.50 จุด ลดลง 26.47 จุด หรือ -1.66% โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดที่ 1,585.56จุด ต่ำสุดที่ 1,565.93 จุด มูลค่าการซื้อขาย 71,208.83 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 47.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,289.09 ลบ. 2.GPSC ปิดที่ 87.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,501.54 ลบ. 3.PTTEP ปิดที่ 133.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท […]

สรุปภาวะเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย. 2019

สรุปภาวะเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย. 2019

BF Economic Research เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนอ่อนแอต่อเนื่อง (PII -6.1% YoY vs. -4.7% เดือนก่อน) โดยเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนหดตัวในวงกว้าง ทั้งหมวดก่อสร้าง (อาทิ ยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง -5.3%) และหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ (อาทิ ยอดขายรถยนต์พาณิชย์ -15.5%) การบริโภคภาคเอกชน (PCI) ขยายตัว 2.4% YoY (vs. 2.1% เดือนก่อน) โดยปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อที่อ่อนแอลงเมื่อเทียบกับช่วง 1H 2019 อาทิ รายได้และความเชื่อมั่นยังกดดันการใช้จ่ายของครัวเรือน ทั้งนี้ ในเดือน พ.ย. มีเพียงการบริโภคสินค้าไม่คงทนและภาคบริการที่ขยายตัว (1.6% และ 3.2% ตามลำดับ) ส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ขณะที่ยอดซื้อสินค้าคงทนหดตัวที่ -9.1% YoY ที่ถูกฉุดจากยอดขายรถยนต์ที่หดตัวในเดือนพ.ย.ถึง -16.2% YoY รายได้เกษตร ขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการขยายตัวของราคาสินค้าเกษตรที่เร่งขึ้นในกลุ่ม […]

หุ้นแถบอ่าวเปอร์เซียร่วง หลังข่าวสหรัฐสังหารนายพลอิหร่าน

หุ้นแถบอ่าวเปอร์เซียร่วง หลังข่าวสหรัฐสังหารนายพลอิหร่าน

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ตลาดหุ้นคูเวต และซาอุดิอาระเบีย เปิดตลาดราคาต่ำลงในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากมีข่าวสหรัฐสังหารนายพลอิหร่านออกมา โดยหุ้นซาอุดิ อารามโก บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดิอาระเบีย ราคาลดลง 1.7% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซาอุดิอาระเบียเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) เมื่อเดือนก่อน โดยราคาของอารามโก ลดลงไปอยู่ที่ 34.55 ไรยัลต่อหุ้น ทั้งนี้ Qassem Soleimani เป็นนายพลอิหร่าน ควบคุมกองกำลังของเตหะรานในต่างประเทศถูกสังหารเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยโดรนสังหารของสหรัฐในท่าอากาศยานแบกแดด ข่าวนี้ส่งผลให้ ดัชนีตลาดหุ้นคูเวต ซึ่งเคยทำผลงานได้ดีที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลางเมื่อปี 2019 ปรับตัวลงมาเกือบ 4.1% ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นซาอุดิอาระเบีย ลดลง 2.2% ดัชนีตลาดหุ้นดูไบ ร่วงลง 3.1% นำโดยหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ชื่อว่า Emaar Properties ซึ่งปรับลดลงไป 3.7% ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นอาบู ดาบี ร่วงลง 1.41% นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร ได้แก่ ธนาคาร Al Rajhi […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 ม.ค. 63 ปิดตลาดที่ 1,594.97 จุด ลดลง 0.85 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 ม.ค. 63 ปิดตลาดที่ 1,594.97 จุด ลดลง 0.85 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ม.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,594.97 จุด ลดลง 0.85 จุด หรือ -0.05% โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดที่ 1,604.43 จุด ต่ำสุดที่ 1,592.90 จุด มูลค่าการซื้อขาย 61,278.34 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 46.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 6,853.95 ลบ. 2.PTTEP ปิดที่ 130.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,191.46 ลบ. 3.BAM ปิดที่ 19.50 บาท ลดลง -0.20 […]

อาจารย์ ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี เดินหน้าภารกิจสนับสนุนนักศึกษาใส่ใจการออมก่อนเรียนจบ

อาจารย์ ม.ราชภัฏสุราษฎร์ธานี เดินหน้าภารกิจสนับสนุนนักศึกษาใส่ใจการออมก่อนเรียนจบ

By…จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทีมงานกองทุนบัวหลวง นำโดย BF Knowledge Center ซึ่งเป็น ศูนย์ความรู้กองทุนบัวหลวง ที่ทำหน้าที่สื่อสารแนวคิด ปรัชญาและกระบวนการลงทุน ถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการวางแผนการลงทุน มีโอกาสเดินทางไปจัดกิจกรรม “เปิดโลกลงทุน กับกองทุนบัวหลวง” ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี มาแล้วทั้งหมด 2 ครั้ง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการให้ความรู้ ส่งเสริมให้นักศึกษาเห็นความสำคัญของการวางแผนทางการเงิน พร้อมเริ่มต้นการเก็บออมและลงทุนกันเนิ่นๆ ตามพันธกิจของกองทุนบัวหลวง คือ “ทำให้ครอบครัวไทยมีความมั่นคงทางการเงิน”  การไปจัดกิจกรรมครั้งที่ผ่านมา ทีมงานกองทุนบัวหลวง มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณชรินทร์ ฉวาง อาจารย์ประจำสาขาวิชาการเงินและการธนาคาร มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี เกี่ยวกับการสอนเรื่องการออมและลงทุนให้เด็กๆ ด้วย ลองมาติดตามกันว่า อาจารย์ชรินทร์ จะมีแนวคิดเกี่ยวกับการสอนเรื่องการออมและลงทุนอย่างไรบ้าง อาจารย์ชรินทร์ เล่าว่า เป็นอาจารย์สอนนักศึกษามากว่า 20 ปีแล้ว โดยสอนเกี่ยวกับหลักการลงทุน แต่ยอมรับว่าก่อนหน้าที่จะเป็นอาจารย์ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมาเป็นอาจารย์ จนกระทั่งมีอาจารย์ท่านหนึ่งผลักดันให้ลองไปเป็นอาจารย์สอนหนังสือเด็กๆ ดู ซึ่งเมื่อได้ทดลอง […]

จีนกระตุ้นธุรกิจประกันคลอดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุเพิ่ม

จีนกระตุ้นธุรกิจประกันคลอดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุเพิ่ม

ไชน่าเดลี รายงานว่า จีนกำลังเตรียมปรับปรุงผลิตภัณฑ์ประกันเชิงพาณิชย์ที่มีในท้องตลาดเพื่อรองรับประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการทำวิจัยและผลิตนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้ Liu Hongjian รองผู้อำนวยการฝ่ายกำกับดูแลประกันชีวิต คณะกรรมการกำกับดูแลการธนาคารและการประกันภัยของจีน (CBRIC) กล่าวว่า ฝ่ายกำกับจะสนับสนุนให้กลุ่มธุรกิจประกันเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดหาผลิตภัณฑ์ กระตุ้นการออกผลิตภัณฑ์ประกันที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึงจัดหาผลิตภัณฑ์ประกันสำหรับผู้สูงอายุที่คุ้มครองครอบคลุมมากขึ้นในราคาเบี้ยประกันที่ต่ำลง “CBRIC จะปรับปรุงกฎเกณฑ์ ปฏิรูปโครงสร้างฝั่งผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการเงิน และจัดทำแนวทางสำหรับการเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีเป้าหมายเป็นผู้สูงอายุ และส่งเสริมนวัตกรรมที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ โดยเราจะกระตุ้นบริษัทประกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ บนพื้นฐานของความเสี่ยงและความต้องการใช้บริการประกันภัย พร้อมเพิ่มผลิตภัณฑ์หลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับประกันสุขภาพ ประกันการดูแลระยะยาว และประกันอุบัติเหตุ” Liu กล่าว ทั้งนี้ ปัจจุบันที่บริษัทประกันมีอยู่ในท้องตลาดอยู่แล้ว มีมากกว่า 1,000 รายการที่พร้อมให้ประชากรจีนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปซื้อได้ อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ประกันที่มีอยู่ก็ยังไม่ตรงกับความต้องการของผู้สูงอายุเสียทีเดียว เพราะผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่มีในปัจจุบัน ไม่ได้ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ หากเป็นไปได้ ก็อาจจะต้องผ่อนปรนเกณฑ์ข้อบังคับเกี่ยวกับอายุและนโยบายการจ่ายประกัน ที่ทำมาเพื่อลูกค้าวัยหนุ่มสาว ซึ่งทำให้ผู้สูงอายุจะต้องจ่ายค่าส่วนต่างในราคาที่สูงขึ้น 10 เท่า เมื่อเทียบค่าใช้จ่ายที่คนวัยหนุ่มสาว หรือวัยกลางคนต้องเสีย สำหรับประกันอุบัติเหตุและประกันสุขภาพ

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 ธ.ค. 2562 ปิดตลาด 1,579.84 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 ธ.ค. 2562 ปิดตลาด 1,579.84 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันที่ 30 ธ.ค. 2562 ปิดตลาดที่ 1,579.84 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด (+0.10%) โดยระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,583.86 จุด และต่ำสุดที่ 1,575.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 29,564.50 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.CPALL ปิดที่ 72.25 บาท ลดลง 2.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,013.37 ล้านบาท 2.BBL ปิดที่ 160.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,635.97 ล้านบาท 3.PTT ปิดที่ 44.00 บาท ลดลง […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ม.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,595.82 จุด เพิ่มขึ้น 15.98 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ม.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,595.82 จุด เพิ่มขึ้น 15.98 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ม.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,595.82 จุด เพิ่มขึ้น 15.98 จุด หรือ 1.01% โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดที่ 1,597.92 จุด ต่ำสุดที่ 1,583.18 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,494.00 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.CPALL ปิดที่ 71.00 บาท ลดลง 1.25 บาท (-1.73%) มูลค่าการซื้อขาย 4,315.75 ลบ. 2.BAM <ST> ปิดที่ 19.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.60 บาท (+8.84%) มูลค่าการซื้อขาย 3,072.66 ลบ. 3.PTT ปิดที่ 45.50 […]

อินโดนีเซียเล็งกำหนดค่าธรรมเนียมคงที่สำหรับการทำธุรกรรมผ่านอี-วอลเล็ท

อินโดนีเซียเล็งกำหนดค่าธรรมเนียมคงที่สำหรับการทำธุรกรรมผ่านอี-วอลเล็ท

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า อินโดนีเซียวางแผนจัดเก็บค่าธรรมเนียมอัตราคงที่กับการทำธุรกรรมบางรายการผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อี-วอลเล็ท) ซึ่งความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นนี้ อาจกระทบรายได้และเพิ่มต้นทุนให้สตาร์ทอัพด้านการชำระเงิน เช่น แอนท์ ไฟแนนเชียล บริษัททางการเงินในกลุ่มอาลีบาบา โดยปัจจุบันผู้ให้บริการอี-วอลเล็ทในอินโดนีเซีย  จัดเก็บค่าธรรมเนียมโดยปรับตามความเหมาะสมกับผู้ขาย มีการเก็บค่าธรรมเนียมพรีเมียมกับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ และยอมรับภาระต้นทุนให้ร้านค้าเล็กๆ เพื่อสนับสนุนให้พวกเขาหันมาใช้แพลตฟอร์ม ก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซีย พูดคุยกับสตาร์ทอัพการชำระเงินดิจิทัลรายใหญ่ที่สุดในประเทเรียบร้อยแล้ว เกี่ยวกับการเก็บค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมผ่านคิวอาร์โค้ด ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้เกิดตั้งแต่เดือน ส.ค. 2019 เพื่อสร้างมาตรฐานการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้บาร์โค้ดแบบเมทริกซ์ อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางอินโดนีเซียยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้ สำหรับผู้นำอี-วอลเล็ทในอินโดนีเซีย ก็คือสตาร์ทอัพด้านการแบ่งปันการขับขี่ที่มีต้นกำเนิดในอินโดนีเซียอย่าง Gojek ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกูเกิล นอกจากนี้ยังมีสตาร์ทอัพที่ชื่อว่า OVO ที่มี Grab คู่แข่งของ Gojek ถือหุ้น ขณะที่อี-วอลเล็ทของแอนท์ ไฟแนนเชียล ชื่อว่า DANA ก็พยายามขยายตลาดนี้ เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มชำระเงินของรัฐที่ชื่อ่า LinkAja ทั้งนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียต้องการเก็บค่าธรรมเนีมการทำธุรกรรมผ่านอี-วอลเล็ท แบบคงที่ในอัตรา 0.7% โดยอาจส่งผลกระทบต่อร้านคารายเล็กที่ปัจจุบันยังไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใดๆ สำหรับการใช้เครือข่ายอี-วอลเล็ท หรืออาจเป็นการบังคับให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต้องเพิ่มแรงจูงใจในการใช้บริการกับร้านค้าเหล่านี้ […]

BF Monthly Economic Review ครึ่งปีแรก 2020

BF Monthly Economic Review ครึ่งปีแรก 2020

BF Monthly Economic Review ครึ่งปีแรก 2020 ท่านสามารถติดตามอ่านข้อมูล Economic Review ครึ่งปีแรกปี 2020 ได้ที่ https://www.bblam.co.th/application/files/6715/7768/0189/1H2020Economic_Review_Final.pdf