กองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี (B-TNTV)
ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ ไตรมาสแรกเริ่มต้นด้วยความคาดหวังว่าปี 2563 น่าจะเป็นปีที่ดีสำหรับนักลงทุน เพราะปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน มีแนวโน้มการเจรจาที่ดีขึ้น นโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายประเทศผ่อนคลายมีการปรับลดดอกเบี้ยหลายครั้งในปี 2562 แต่แล้วสิ่งต่างๆ ก็เปลี่ยนไปเมื่อวิกฤติโรคระบาด COVID-19 ทวีความรุนแรง จนลุกลามเป็นวิกฤติเศรษฐกิจที่มีหนทางรับมือทางเดียวคือ หยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ด้วยความที่ COVID-19 เป็นสิ่งที่ยังไม่มีใครรู้จัก ความไม่รู้ ก่อให้เกิดความเสี่ยง (ความไม่แน่นอน) มากมาย ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ต่างๆ ปรับตัวลง แม้จะเดาได้ยาก ว่าสถานการณ์ของโรคระบาดจะเลวร้ายกว่านี้หรือไม่ แต่เราเชื่อว่าจุดเลวร้ายที่สุดของความตื่นกลัว (panic) ในตลาดเงินตลาดทุนน่าจะได้ผ่านไปแล้ว สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นต่อไปคือความพยายามหาสมดุลใหม่ เช่น การทยอยเปิดเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างในไทย จีน และเกาหลี เพราะไม่ว่าอย่างไร คงไม่สามารถหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจไปได้ตลอด แต่เราก็ไม่อาจยอมให้เกิดการระบาดรุนแรงกลับมาอีกครั้ง ทางออกจึงน่าจะเป็นจุดสมดุลระหว่างด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ สำหรับปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ในปี 2563 นี้ มีปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ ความกังวลต่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะเป็นปัจจัยให้เงินลงทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย […]
BFIXED Product Update Uncategorized
กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ (BFIXED)
ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ ไตรมาสแรกเริ่มต้นด้วยความคาดหวังว่าปี 2563 น่าจะเป็นปีที่ดีสำหรับนักลงทุน เพราะปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน มีแนวโน้มการเจรจาที่ดีขึ้น นโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายประเทศผ่อนคลายมีการปรับลดดอกเบี้ยหลายครั้งในปี 2562 แต่แล้วสิ่งต่างๆ ก็เปลี่ยนไปเมื่อวิกฤติโรคระบาด COVID-19 ทวีความรุนแรง จนลุกลามเป็นวิกฤติเศรษฐกิจที่มีหนทางรับมือทางเดียวคือ หยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ด้วยความที่ COVID-19 เป็นสิ่งที่ยังไม่มีใครรู้จัก ความไม่รู้ ก่อให้เกิดความเสี่ยง (ความไม่แน่นอน) มากมาย ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ต่างๆ ปรับตัวลง แม้จะเดาได้ยาก ว่าสถานการณ์ของโรคระบาดจะเลวร้ายกว่านี้หรือไม่ แต่เราเชื่อว่าจุดเลวร้ายที่สุดของความตื่นกลัว (panic) ในตลาดเงินตลาดทุนน่าจะได้ผ่านไปแล้ว สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นต่อไปคือความพยายามหาสมดุลใหม่ เช่น การทยอยเปิดเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างในไทย จีน และเกาหลี เพราะไม่ว่าอย่างไร คงไม่สามารถหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจไปได้ตลอด แต่เราก็ไม่อาจยอมให้เกิดการระบาดรุนแรงกลับมาอีกครั้ง ทางออกจึงน่าจะเป็นจุดสมดุลระหว่างด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ สำหรับปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ในปี 2563 นี้ มีปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ ความกังวลต่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะเป็นปัจจัยให้เงินลงทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย […]
กองทุนเปิดบัวหลวงมันนี่มาร์เก็ตเพื่อการเลี้ยงชีพ (MM-RMF)
ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ ไตรมาสแรกเริ่มต้นด้วยความคาดหวังว่าปี 2563 น่าจะเป็นปีที่ดีสำหรับนักลงทุน เพราะปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน มีแนวโน้มการเจรจาที่ดีขึ้น นโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายประเทศผ่อนคลายมีการปรับลดดอกเบี้ยหลายครั้งในปี 2562 แต่แล้วสิ่งต่างๆ ก็เปลี่ยนไปเมื่อวิกฤติโรคระบาด COVID-19 ทวีความรุนแรง จนลุกลามเป็นวิกฤติเศรษฐกิจที่มีหนทางรับมือทางเดียวคือ หยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ด้วยความที่ COVID-19 เป็นสิ่งที่ยังไม่มีใครรู้จัก ความไม่รู้ ก่อให้เกิดความเสี่ยง (ความไม่แน่นอน) มากมาย ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ต่างๆ ปรับตัวลง แม้จะเดาได้ยาก ว่าสถานการณ์ของโรคระบาดจะเลวร้ายกว่านี้หรือไม่ แต่เราเชื่อว่าจุดเลวร้ายที่สุดของความตื่นกลัว (panic) ในตลาดเงินตลาดทุนน่าจะได้ผ่านไปแล้ว สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นต่อไปคือความพยายามหาสมดุลใหม่ เช่น การทยอยเปิดเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างในไทย จีน และเกาหลี เพราะไม่ว่าอย่างไร คงไม่สามารถหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจไปได้ตลอด แต่เราก็ไม่อาจยอมให้เกิดการระบาดรุนแรงกลับมาอีกครั้ง ทางออกจึงน่าจะเป็นจุดสมดุลระหว่างด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ สำหรับปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ในปี 2563 นี้ มีปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ ความกังวลต่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะเป็นปัจจัยให้เงินลงทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย […]
BTSGIF News Update Press Release
BTSGIF เตรียมนำกระแสเงินสดจากการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2562/2563 จ่ายคืนเงินทุนผู้ถือหน่วย 0.130 บาทต่อหน่วย วันที่ 29 มิ.ย. นี้
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) เผยไตรมาส 4 ปี 2562/2563 มีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 962.5 ล้านบาท มีอัตรากำไรจากรายได้จากการลงทุนสุทธิ 98.0% จึงเร่งนำกระแสเงินสดจากการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2562/2563 จ่ายคืนเงินทุนผู้ถือหน่วย 0.130 บาทต่อหน่วย วันที่ 29 มิถุนายนนี้ ขณะที่ผลการดำเนินงาน ทั้งปี 2562/2563 มีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 4,730 ล้านบาท มีอัตรากำไรจากรายได้จากการลงทุนสุทธิ 98.2% จ่ายเงินให้ผู้ถือหน่วยได้ 0.775 บาทต่อหน่วย นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท […]
กองทุนเปิดบัวหลวงเพิ่มพูน (B-ENHANCED)
ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ ไตรมาสแรกเริ่มต้นด้วยความคาดหวังว่าปี 2563 น่าจะเป็นปีที่ดีสำหรับนักลงทุน เพราะปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน มีแนวโน้มการเจรจาที่ดีขึ้น นโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายประเทศผ่อนคลายมีการปรับลดดอกเบี้ยหลายครั้งในปี 2562 แต่แล้วสิ่งต่างๆ ก็เปลี่ยนไปเมื่อวิกฤติโรคระบาด COVID-19 ทวีความรุนแรง จนลุกลามเป็นวิกฤติเศรษฐกิจที่มีหนทางรับมือทางเดียวคือ หยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ด้วยความที่ COVID-19 เป็นสิ่งที่ยังไม่มีใครรู้จัก ความไม่รู้ ก่อให้เกิดความเสี่ยง (ความไม่แน่นอน) มากมาย ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ต่างๆ ปรับตัวลง แม้จะเดาได้ยาก ว่าสถานการณ์ของโรคระบาดจะเลวร้ายกว่านี้หรือไม่ แต่เราเชื่อว่าจุดเลวร้ายที่สุดของความตื่นกลัว (panic) ในตลาดเงินตลาดทุนน่าจะได้ผ่านไปแล้ว สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นต่อไปคือความพยายามหาสมดุลใหม่ เช่น การทยอยเปิดเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างในไทย จีน และเกาหลี เพราะไม่ว่าอย่างไร คงไม่สามารถหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจไปได้ตลอด แต่เราก็ไม่อาจยอมให้เกิดการระบาดรุนแรงกลับมาอีกครั้ง ทางออกจึงน่าจะเป็นจุดสมดุลระหว่างด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ สำหรับปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ในปี 2563 นี้ มีปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ ความกังวลต่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะเป็นปัจจัยให้เงินลงทุนไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย […]
หุ้นไทยวันที่ 1 มิ.ย. 2563 ปิดตลาดที่ 1,352.37 จุด เพิ่มขึ้น 9.52 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 1 มิ.ย. 2563 ปิดตลาดที่ 1,352.37 จุด เพิ่มขึ้น 9.52 จุด หรือ 0.71% โดยระหว่างวันสูงสุดที่ 1,362.46 จุด ต่ำสุดที่ 1,348.99 จุด มูลค่าการซื้อขาย 65,154.66 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.CPALL ปิดที่ 70.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,453.01 ลบ. 2.SUPER ปิดที่ 0.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.09 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,293.65 ลบ. 3.PTTGC ปิดที่ 45.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 […]
ไอเอ็มเอฟชี้การระบาดของโควิด-19 อาจทำให้ตัวชี้วัดเศรษฐกิจสำคัญบิดเบือน-แม่นยำน้อยลง
รายงานข่าวจากซีเอ็นบีซี ระบุว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ มองมาตรการล็อคดาวน์ในหลายๆ ประเทศ ที่ดำเนินการเพื่อป้องกันการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้การประเมินสถานการณ์ การลงพื้นที่เพื่อสำรวจราคาขายปลีกทำได้ยาก ในขณะที่ธุรกิจที่ต้องปิดตัวชั่วคราวอาจไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนจะตอบสนองต่อแบบสอบถามเกี่ยวกับแผนการผลิตและการลงทุน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญอาจบิดเบือนและอาจมีความแม่นยำน้อยลง อันเป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ แผนกสถิติของไอเอ็มเอฟ ได้เขียนบล็อกโพสต์ ระบุว่า หากไม่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้ ผู้กำหนดนโยบายไม่สามารถประเมินได้ว่า โรคระบาดกำลังทำร้ายผู้คนและเศรษฐกิจอย่างไร และไม่สามารถตรวจสอบการฟื้นตัวอย่างเหมาะสมได้เช่นกัน ข้อความบนบล็อก ถูกเผยแพร่ในช่วงเวลาที่หลายประเทศกำลังจะปล่อยข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) สำหรับ 3 เดือนแรกของปี หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งจีดีพีเป็นตัววัดขนาดของเศรษฐกิจอย่างกว้างขวางและมีการจับตามองอย่างกว้างขวางจากรัฐบาล ธนาคารกลางและนักลงทุน ขณะที่ สัปดาห์นี้หลายประเทศมีกำหนดจะเปิดเผยข้อมูลจีดีพี ในจำนวนนี้รวมถึงอินเดีย ฝรั่งเศส อิตาลี แคนาดาและบราซิล
สรุปรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ค.
BF Economic Research ธปท. เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินรายเดือน ประจำเดือน พ.ค. 2020 (เป็นตัวเลข ณ เดือน เม.ย.) มีรายละเอียดสำคัญดังนี้ การบริโภคภาคเอกชนหดตัวแรงที่ -15.1% YoY (vs. -2.7% เดือนก่อน): รายจ่ายครัวเรือนหดตัวในทุกกลุ่ม นำโดยการใช้จ่ายในสินค้าคงทน (-37.5%) และบริการ (-31.9%) ขณะที่การใช้จ่ายในสินค้าไม่คงทนพลิกกลับมาหดตัว (-11.7%) ส่วนสินค้ากึ่งคงทนหดตัวเพิ่มขึ้น (-6.9%) ด้านตัวชี้วัดกำลังซื้อบ่งชี้ถึงความอ่อนแอในกว้างขวาง อาทิ รายได้เกษตรกร (-10.1% ตามผลผลิตที่ลดลง) ธุรกิจที่ปิดตัวลงชั่วคราวเพิ่มขึ้นซึ่งกระทบต่อการหยุดจ้างงาน รวมทั้งจำนวนลูกจ้างที่ตกงานและมาขอรับสิทธิประโยชน์จากสำนักงานประกันสังคม การลงทุนภาคเอกชนหดตัวต่อเนื่องที่ -6.1% YoY (vs. -8.7% เดือนก่อน): เป็นผลมาจากการหดตัวทั้งในยอดการจดทะเบียนรถยนต์ (-25.4%) การนำเข้าสินค้าทุน (-17.5%) และการจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศ (-4.5%) จำนวนนักท่องเที่ยวหดตัวที่ 100% YoY […]
ผลพวงโควิด-19 จะทำให้สนามบินเร่งใช้เทคโนโลยีไร้สัมผัสเร็วขึ้น
ซีเอ็นบีซี จัดทำรายงาน โดยชี้ว่า การบินในช่วงหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยคาดว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในสนามบินในอนาคตอันใกล้ ได้แก่ 1.การใช้เทคโนโลยีไร้สัมผัสอย่างมาก สนามบินต่างๆ จะเปลี่ยนไปใช้ระบบเทคโนโลยีไร้สัมผัสเร็วกว่าเดิมมาก จากเดิมอาจเห็นการปรับเปลี่ยนใช้เทคโนโลยีนี้ใน 5 ปี ก็กลายเป็น 5 เดือน โดยจะได้เห็นการเช็คอินที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีทำให้ไม่มีต้องสัมผัสเลย ทั้งด้านความปลอดภัยและการขึ้นเครื่อง ซึ่งการระบุตัวตนผู้โดยสาร การตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่ และหนังสือเดินทาง จะถูกทดแทนด้วยการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าและการสแกนข้อมูลชีวภาพ ขณะที่โทรศัพท์มือถือจะกลายเป็นเครื่องมือควบคุมระยะไกลในมือตลอดการเดินทาง 2.การเปลี่ยนแปลงเส้นทางการรักษาความปลอดภัย ซึ่งอนาคตคาดว่าจะต้องจองคิวก่อนผ่านขั้นตอนความปลอดภัยเพื่อลดการต่อแถวยาวของฝูงชน โดยการใช้เทคโนโลยีลักษณะเดียวกับสวนสนุกที่จะทำให้ระบุช่วงเวลาที่ผู้โดยสารจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยได้ ช่วยให้ผู้โดยสารมีโอกาสติดต่อผู้โดยสารคนอื่นๆ น้อยที่สุด 3.การทำความสะอาดทุกส่วนตั้งแต่กระเป๋าจนถึงบุคคล โดยคาดว่า จะมีการทำความสะอาดกระเป๋าด้วยการพ่นฆ่าเชื้อตั้งแต่วางบนสายพาน แม้แต่กระเป๋าที่นำขึ้นเครื่องก็ต้องพ่นฆ่าเชื้อ หรือการผ่านแสงยูวี หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ในขั้นตอนเอ็กซเรย์สัมภาระ ขณะที่ส่วนต่างๆ ในสนามบินต้องมีการทำความสะอาดบ่อยขึ้น โดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสบ่อยครั้ง 4.อาคารผู้โดยสารจะมีความผ่อนคลายและมีพื้นที่กว้างขวางขึ้น ทั้งนี้ เพราะการเช็คอินและตรวจสอบความปลอดภัยที่ราบรื่นจะทำให้ผู้โดยสารมีความสุข ลดความเครียด และใช้จ่ายเงินในสนามบินมากขึ้น โดยจะมีการแนะนำให้ใช้ระบบการชำระเงินดิจิทัลเป็นหลัก ขณะที่ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ หุ่นยนต์ และปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) จะเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในสนามบิน เพื่อกำจัดการรวมตัวของฝูงชนและจัดการการต่อแถว […]
BF Monthly Economic Review – พ.ค. 2563
BF Economic Research ประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญๆ มีผลสืบเนื่องต่อการลงทุนในช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา มีดังนี้ เหตุการณ์ Sell in May หรือ การเทขายสินทรัพย์ที่ลงทุนอยู่ในช่วงเดือน พ.ค. ซึ่งบ่อยครั้งในอดีตจะเป็นเช่นนั้น แต่รอบเดือน พ.ค. ปีนี้ ไม่เกิดเหตุการณ์ Sell in May เกิดขึ้น หนำซ้ำดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกกลับทะยานขึ้นไป ซึ่งนักลงทุนอาจสงสัยว่าทำไมเกิดเหตุการณ์โควิด-19 แต่ตลาดกลับเคลื่อนไหวไปในทางบวกได้ค่อนข้างดี ณ ตอนนี้ โลก แบ่งเป็น 2 โลก 1.โลกของเรา 2.โลกของเขา 1.โลกของเรา คือ โลกแห่งความเป็นจริง ที่ภาพเศรษฐกิจไม่ดีจริงๆ หดตัวทุกประเทศ ทำให้ GDP ทั้งโลกหดตัวต่ำสุดในรอบหลายปี 2.โลกของเขา คือ โลกของนักลงทุน ซึ่ง ณ เวลานี้ไม่ไปด้วยกันกับโลกแห่งความเป็นจริง เพราะตลาดมองอีกแบบ […]