ตัวเลขเศรษฐกิจจีนดีขึ้นในเดือน ธ.ค.
BF Economic Research GDP GDP ไตรมาส 4 ขยายตัว 6.0% YoY เท่ากับไตรมาสก่อน ซึ่งนับเป็นการขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1992 โดย GDP ทั้งปี 2019 ชะลอตัวลงเป็น 6.1% YoY จาก 6.6% YoY ในปีก่อน ในรายอุตสาหกรรม พบว่า กลุ่มเกษตร และกลุ่มการผลิต ขยายตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ซึ่งหากพิจารณาร่วมกันการขยายตัวเมื่อเทียบไตรมาสก่อน เราเริ่มเห็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนอาจจะ Bottom Out ในปีนี้ เราได้ประมาณการว่า GDP ปี 2019-2020 ของจีนจะคงที่ที่ 6.0% แต่จากข้อมูลรายเดือนที่ออกมาดี ทำให้เราคาดว่า GDP จีนในปี 2020 น่าจะมี Upside ตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือน กิจกรรมทางเศรษฐกิจเดือน ธ.ค. […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 17 ม.ค. 63 ปิดตลาดที่ 1,600.48 จุด เพิ่มขึ้น 4.61 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 17 ม.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,600.48 จุด เพิ่มขึ้น 4.61 จุด หรือ 0.29% มูลค่าการซื้อขาย 61,049.65 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.GPSC ปิดที่ 92.25 บาท ลดลง -3.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,312.73 ลบ. 2.GULF ปิดที่ 195.00 บาท ลดลง -2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,084.72 ลบ. 3.BAM ปิดที่ 24.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,062.29 ลบ. 4.KBANK ปิดที่ […]
7 ใน 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนสนับสนุนจีนมากกว่าสหรัฐฯ
นิกเกอิ อาเซียน รีวิว รายงานว่า ISEAS-Yusof Ishak Institute ได้จัดทำแบบสำรวจประเทศสมาชิกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประจำปี 2020 โดยระบุว่า ท่ามกลางสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงร้อนแรง 73% ของผู้เชี่ยวชาญ 1,308 คน จากประเทศในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ระบุว่า ภูมิภาคกำลังกลายเป็นเวทีสำคัญสำหรับการต่อสู้แย่งชิงอำนาจที่สำคัญและสมาชิกอาเซียนอาจ กลายเป็นตัวแทนสนับสนุนสำหรับด้านใดด้านหนึ่ง โดยตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจาก 62% ในการสำรวจของปีที่ผ่านมา และผลสำรวจยังระบุอีกว่า หากถูกบังคับให้เลือกข้างระหว่างสหรัฐและจีน 54% เลือกสหรัฐฯ ส่วนอีก 46% เลือกจีน อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากจำนวนประเทศอาเซียนทั้งหมด พบว่า 7 ใน 10 ของประเทศยอมรับจีน โดย 69% ของคนจากบรูไน ให้ความสำคัญกับจีน 58% จากกัมพูชา 52% จากอินโดนีเซีย 74% จากลาว 61% จากมาเลเซีย 62% […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 16 ม.ค. 63 ปิดตลาดที่ 1,595.87 จุด เพิ่มขึ้น 14.82 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 16 ม.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,595.87 จุด เพิ่มขึ้น 14.82 จุด หรือ 0.94% ระหว่างวันสูงสุดที่ 1,598.38 จุด ต่ำสุดที่ 1,581.75 จุด มูลค่าการซื้อขาย 62,143.54 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.KBANK ปิดที่ 138.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,602.51 ลบ. 2.BAM ปิดที่ 24.10 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 3,344.55 ลบ. 3.CPALL ปิดที่ 74.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย […]
อินโดนีเซียขึ้นแท่นผู้นำตลาดทุนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รายงานข่าวจากบลูมเบิร์ก ระบุว่า อินโดนีเซียขึ้นแท่นเป็นประเทศที่มีตลาดทุนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว หลังมีมูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ต แคป) เพิ่มขึ้นสูงถึง 5.29 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้มาร์เก็ต แคป ของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นนั้น มาจากการที่ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด ของอินโดนีเซีย ได้เริ่มต้นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ที่หันมาใช้ทรัพยากรภายในประเทศมากขึ้น แทนที่การนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งทำให้มูลค่าทางการตลาดของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบัน มาร์เก็ต แคป ของอินโดนีเซียนำหน้าไทยที่ทรุดตัวลงจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย SET Index กลายเป็นดัชนีอ้างอิงเดียวในภูมิภาคที่ปรับลดลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ Composite Index ปรับเพิ่มขึ้น 5.5% ในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐ Vincent Mortier รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Amundi Asset Management เผยว่า นี่นับเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของอินโดนีเซียในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสาเหตุที่เขาให้คะแนนอินโดนีเซียสูงขึ้น เนื่องจากอินโดนีเซียมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้น
เจาะภารกิจตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิด ‘SET Investment Center’ ในภูมิภาค ให้เรียนรู้เรื่องลงทุนได้เอง
“ความรู้” คือ หัวใจสำคัญที่จะทำให้คนไทยเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา เรามักจะได้ยินบ่อยครั้งว่า สาเหตุหนึ่งที่คนไม่ลงทุน ก็เพราะไม่มีความรู้ ความเข้าใจ จึงไม่กล้าเริ่มต้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในฐานะหน่วยงานที่มีความสำคัญในตลาดทุน ก็ให้ความสำคัญกับการให้ความรู้อย่างมาก ทั้งยังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงผลักดันให้บริษัทหลักทรัพย์ รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ร่วมให้ความรู้กับประชาชนด้วย สำหรับ กองทุนบัวหลวง นับเป็นองค์กรหนึ่งของภาคตลาดทุน ที่เดินหน้าให้ความรู้ด้านวางแผนการเงิน และการลงทุนกับประชาชนอย่างเต็มที่ สอดคล้องกับแนวทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกทั้งให้ความสำคัญที่จะให้ทีมงานกองทุนบัวหลวงเดินสายไปจัดกิจกรรม “เปิดโลกลงทุนกับกองทุนบัวหลวง” และในการจัดกิจกรรม ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทีมงานมีโอกาสพบกับ ดร.กฤษฎา เสกตระกูล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานพัฒนาความรู้ตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เดินทางไปเปิด ‘Set Investment Center (SET IC)’ หรือ ศูนย์เรียนรู้การลงทุนขึ้นอีกแห่งที่นั่น จึงใช้โอกาสนี้ สัมภาษณ์ถึงแนวทางในการให้ความรู้ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ดร.กฤษฎา กล่าวว่า การเปิดศูนย์เรียนรู้การลงทุน หรือ SET IC เป็นความตั้งใจของตลาดหลักทรัพย์ […]
Update สถานการณ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน (16 ม.ค.)
BF Economic Research ภายหลังจากเมื่อวานนี้ที่ทางการสหรัฐฯ ได้ออกมาเผยว่าจะไม่มีการเจรจาทางการค้ารอบ 2 (Phase-2 Deal) จนกว่าจะเลือกตั้ง ในวันนี้ (เวลาท้องถิ่น 11:30 น.ของวันที่ 15 ม.ค.) สหรัฐฯ และจีน ก็ได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกแล้ว โดยประธานาธิบดี ทรัมป์ ได้จัดพิธีลงนามดังกล่าวที่ทำเนียบขาว และได้เชิญกลุ่มนักธุรกิจของสหรัฐฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของจีนและสหรัฐฯเข้าร่วมในพิธีด้วย จากข้อตกลงการค้าเฟสแรกซึ่งมีจำนวน 86 หน้า โดยสรุปแล้ว สหรัฐฯ จะปรับลดภาษีลงครึ่งหนึ่งจากอัตรา 15% ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ และชะลอการเก็บภาษีเพิ่มเติม สหรัฐฯ จะยังคงตรึงอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนราว 2 ใน 3 คิดเป็นมูลค่าราว 3.6 แสนล้านดอลลาร์ฯ จนกว่าจะผ่านพ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. และจะพิจารณาปรับลดอัตราภาษีก็ต่อเมื่อสหรัฐฯและจีนมีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสสอง จีนจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็นจำนวนมูลค่าประมาณ 200,000 ล้านดอลลาร์ฯ ภายในระยะเวลา […]
ใครได้ ใครเสีย ในข้อตกลงการค้าจีนและสหรัฐฯ
สหรัฐฯ และจีนลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่ทำเนียบขาว ในวันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา เป็นที่น่าสังเกตว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ไม่ได้เดินทางมาร่วมลงนามด้วยตัวเอง แต่ให้นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนจีนลงนามในข้อตกลงการค้าแทน ส่วนฝ่ายสหรัฐฯ ทรัมป์ เป็นผู้ลงนามเอง ภาพที่ปรากฎทำให้ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่า จีนไม่ได้ให้ความสำคัญกับข้อตกลงการค้าที่ตกลงกันแบบครึ่งๆ กลางๆ กับสหรัฐฯ ในขณะที่ทรัมป์ต้องการได้ข้อตกลงการค้านี้มากกว่าฝ่ายจีน เพื่อเอาไปโชว์ให้คนอเมริกันเห็นในฤดูหาเสียงการเลือกตั้งประธานาธิบดีว่า เขาสามารถบีบจีนให้บรรลุข้อตกลงการค้าได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อตกลงที่ไม่สมบูรณ์ก็ตาม ด้วยเหตุนี้ ทรัมป์จึงยอมลดตัวเองลง เพื่อลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับตัวแทนฝ่ายจีน ที่มีตำแหน่งเพียงระดับรองนายกรัฐมนตรีเท่านั้น และเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจให้กับประธานาธิบดีสี ในข้อตกลงเฟสแรกนี้ จีนตกลงที่จะเพิ่มการซื้อสิ้นค้าและบริการจากสหรัฐฯ และจะเปิดกว้างตลาดการเงิน และตลาดรถยนต์ของจีน แต่ทุกประเทศจะได้ประโยชน์หมดจากนโยบายนี้ ทำให้จีนสามารถอ้างได้ว่า ไม่ได้เปิดตลาดตามแรงกดดันของสหรัฐฯ ส่วนสหรัฐฯ จะไม่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก แต่จะยังคงภาษีที่เรียกเก็บก่อนหน้านี้ส่วนมาก โดยเนื้อหาหลักแล้ว จีนให้คำมั่นว่าจะซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปี 2017 ภายในระยะเวลา 2 […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 ม.ค. 63 ปิดตลาดที่ 1,581.05 จุด ลดลง 5.85 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 ม.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,581.05 จุด ลดลง 5.85 จุด หรือ -0.37% ระหว่างวันสูงสุดที่ 1,587.77 จุด ต่ำสุดที่ 1,575.98 จุด มูลค่าการซื้อขาย 65,404.07 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.GPSC ปิดที่ 92.00 บาท ลดลง -4.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 6,626.12 ลบ. 2.BAM ปิดที่ 24.10 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,988.08 ลบ. 3.GULF ปิดที่ 191.00 บาท ลดลง -4.00 […]
Update สถานการณ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน (15 ม.ค.)
BF Economic Research สหรัฐฯ ประกาศจะไม่ปรับลดภาษีนำเข้าแก่จีน ภายใน 10 เดือนหลังการลงนามในข้อตกลงการค้าระยะที่หนึ่งในวันนี้ ขณะที่การเจรจาในระยะต่อไปจะขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตามข้อตกลงของจีนเป็นหลัก นาย Robert Lighthizer, U.S. Trade Representative และนาย Steven Mnuchin, Treasury Secretary ได้ออกมายืนยันว่า ณ ขณะนี้ยังไม่มีข้อตกลง ไม่ว่าจะเป็นลายลักษณ์อักษรหรือด้วยวาจา เกี่ยวกับการพิจารณาปรับลดภาษีนำเข้ามากกว่าที่ได้เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ ที่ได้ยกเลิกแผนการขึ้นภาษีในสินค้าหมวดอุปโภคบริโภค และลดภาษีนำเข้ากับสินค้ารวม 120 พันล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งประกาศไปในเดือน ธ.ค. 2019 เท่ากับว่า ณ ขณะนี้ การตกลงทางการค้าจะอยู่ที่ Phase-1 Deal กล่าวคือ 1) สหรัฐฯจะลดอัตราภาษีลงเป็น 7.5% จากปัจจุบันที่ 15.0% กับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 1.12 แสนล้านดอลลาร์ฯ ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. […]