ธนาคารกลางอินโดนีเซียเริ่มกลับทิศทางดอกเบี้ย พร้อมส่งสัญญาณว่าจะปรับลดลงอีกในปีนี้

ธนาคารกลางอินโดนีเซียเริ่มกลับทิศทางดอกเบี้ย พร้อมส่งสัญญาณว่าจะปรับลดลงอีกในปีนี้

BF Economic Research ในการประชุมเดือน ก.ค. ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (Bank Indonesia: BI) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps จาก 6.0% เป็น 5.75% ตามที่เราคาด โดยเป็นการกลับทิศทางนโยบายการเงินจากตึงตัวเป็นผ่อนคลายเป็นครั้งแรกในรอบ 22 เดือน เพื่อหนุนโมเมนตัมการเติบโตของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และความตึงเครียดจากนโยบายกีดกันทางการค้า หลังจากที่ก่อนหน้านี้เป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นมาตั้งแต่เดือน พ.ค. 2018 ทั้งนี้ ในการประชุมเดือนก่อนหน้า BI ได้เริ่มส่งสัญญาณ Dovish ด้วยการปรับลดอัตรากันสำรองหรือ Reserve Requirement Rate (RRR) ของธนาคารพาณิช ย์ลงไป 50bps เหลือ 6.0% เพื่อกระตุ้นยอดสินเชื่อในประเทศ ในการประชุมครั้งนี้ ผู้ว่า BI ได้ส่งสัญญาณ Dovish ต่อเนื่องว่าในระยะข้างหน้ามีโอกาสที่ BI จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้อีก ซึ่งเราคาดว่า BI […]

สิ้นสุดดอกเบี้ยขาขึ้น เฟดส่งซิกผ่อนคลายนโยบายการเงิน คาดอาเซียนดำเนินรอยตาม

สิ้นสุดดอกเบี้ยขาขึ้น เฟดส่งซิกผ่อนคลายนโยบายการเงิน คาดอาเซียนดำเนินรอยตาม

BF Economic Research ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้มีท่าทีผ่อนคลายในการดำเนินนโยบายทางการเงินมากขึ้น ทำให้ตลาดคาดการณ์กันว่าอาจสิ้นสุดรอบอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นแล้ว ขณะที่แนวโน้มของธนาคารกลางแต่ละประเทศในภูมิภาคอาเซียนน่าจะดำเนินรอยตาม ด้วยการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเช่นเดียวกับเฟด ส่วนรายละเอียดของแต่ละประเทศอาเซียนจะเป็นอย่างไร สามารถรับฟังความคิดเห็นของ Macro Analyst ของกองทุนบัวหลวงได้ในคลิปวิดีโอนี้

พลังงานแสงอาทิตย์…เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนลงไปอีก

พลังงานแสงอาทิตย์…เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนลงไปอีก

By…จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์  ปัจจุบันพลังงานทางเลือกที่มีต้นทุนถูกที่สุด คือ พลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยเหตุนี้ จึงมีนักลงทุนจำนวนมากสนใจลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และในอนาคตมีแนวโน้มว่า ต้นทุนของพลังงานแสงอาทิตย์จะถูกลงยิ่งกว่านี้ไปอีก เมื่อไม่นานมานี้ สมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ (SEIA) และมูลนิธิพลังงานแสงอาทิตย์ ร่วมกับ ศูนย์ปฏิบัติการพลังงานทดแทนแห่งชาติ (NREL) บริษัทพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับที่อยู่อาศัยหลายๆ แห่ง รวมถึงองค์กรไม่แสวงหากำไรอื่น พัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่สำหรับการกระจายและจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์และประหยัดทรัพยากรสำหรับรัฐบาลท้องถิ่นและผู้จ่ายภาษี NREL ได้รับเงินทุน 685,000 ดอลลาร์สหรัฐ จากสำนักงานเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี กระทรวงพลังงาน รวมทั้งกองทุนเทคโนโลยีเพื่อการค้า เพื่อพัฒนาและปรับปรุงซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มในการประมวลผลพลังงานแสงอาทิตย์อัตโนมัติ (SolarAPP) จุดประสงค์ของการพัฒนาครั้งนี้ คือ ลดระยะเวลาและต้นทุนของกระบวนการทำงานสำหรับพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งจะช่วยลดจำนวนลูกค้าที่ยกเลิกการใช้งาน รวมทั้งขยายการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ และการเติบโตของงานที่เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ได้ (ที่มา : https://www.seia.org/news/new-solar-permit-software-reduce-costs-and-expand-residential-markets) นี่คือ หนึ่งในความเคลื่อนไหวล่าสุด ที่สะท้อนว่า การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ยังจะสามารถก้าวหน้าได้อีกไกล อันจะเป็นผลดีที่ทำให้เกิดการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในวงกว้างยิ่งขึ้นในอนาคต  

ตลาดหุ้นไทยวันที่ 19 ก.ค. ปิดตลาดที่ 1,735.10 จุด เพิ่มขึ้น 11.66 จุด

ตลาดหุ้นไทยวันที่ 19 ก.ค. ปิดตลาดที่ 1,735.10 จุด เพิ่มขึ้น 11.66 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันที่ 19 ก.ค. 2562 ปิดที่ 1,735.10 จุด เพิ่มขึ้น 11.66 จุด หรือ 0.68% ระหว่างวันดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,738.70 จุด และต่ำสุดที่ 1,732.16 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 61,925.48 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.KTC ปิดที่ 42.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท (+0.60%) มูลค่าการซื้อขาย 2,394.94 ลบ. 2.CPALL ปิดที่ 87.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+0.57%) มูลค่าการซื้อขาย 2,141.17 ลบ. 3.KBANK ปิดที่ 180.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง […]

ตลาดโดรนทั่วโลกจะมีมูลค่าเพิ่ม 3 เท่าตัวในอีก 10 ปีข้างหน้า

ตลาดโดรนทั่วโลกจะมีมูลค่าเพิ่ม 3 เท่าตัวในอีก 10 ปีข้างหน้า

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ตลาดโดรนที่ไม่ได้ใช้ในการทหารทั่วโลกเวลานี้ มีการผลิตในจีนเป็นหลัก โดยคาดว่า ขนาดของตลาดโดรนที่ไม่ได้ใช้เพื่อการทหารจะมียอดขายสูงถึง 3 เท่าตัวเป็น 14,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ผลศึกษาของนักวิเคราะห์ด้านการบินและอวกาศ บริษัท Teal Group คาดการณ์ว่า ปีนี้ตลาดโดรนที่ไม่ใช่เพื่อการทหาร จะมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 4,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะได้รับประโยชน์จากการที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ หรือ เอฟเอเอ เปิดน่านฟ้าให้ รวมทั้งการใช้งานเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ รายงานนี้ออกมาท่ามกลาง ความกังวลเรื่องความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งบริษัทเอกชนสหรัฐ จากกรณีที่จีนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีความอ่อนไหว รวมถึงจัดเก็บภาพที่ถ่ายด้วยโดรนของจีนได้ Phil Finnegan นักวิเคราะห์ของ Teal Group กล่าวว่า ปัจจุบันโรงงานผลิตในจีน ผลิตโดรนคิดเป็น 3 ใน 4 ของโดรนทั้งหมดที่อยู่ในตลาดโดรนเพื่อการพาณิชย์และการบริโภคของโลก เมื่อนับตามจำนวนชิ้นของโดรน เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา หน่วยงานด้านความปลอดภัยของสหรัฐออกมาเตือนบริษัทสหรัฐถึงความเสี่ยงเกี่ยวกับข้อมูลบริษัทที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้โดรนที่ผลิตในจีน […]

ญี่ปุ่นเดินหน้าพัฒนาระบบคล้าย SWIFT สำหรับคริปโตเคอเรนซี

ญี่ปุ่นเดินหน้าพัฒนาระบบคล้าย SWIFT สำหรับคริปโตเคอเรนซี

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเป็นผู้นำของโลกผลักดันให้มีการจัดตั้งเครือข่ายระหว่างประเทศสำหรับระบบชำระเงินคริปโตเคอเรนซีซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเครือข่าย SWIFT ที่ธนาคารใช้กันอยู่ โดยมีความมุ่งหวังเพื่อต่อสู้กับการฟอกเงิน แหล่งข่าว กล่าวว่า ญี่ปุ่นตั้งเป้าหมายจะทำเครือข่ายนี้ใช้งานให้ได้ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ปฏิเสธที่จะระบุข้อมูลมากกว่านี้ เพราะข้อมูลต่างๆ ยังไม่เปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบ อย่างไรก็ตาม ทีมงานที่ทำนี้จะอยู่ในส่วนของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการเงินระหว่างรัฐบาล (FATF) โดยจะจับตาพัฒนาของคริปโต และญี่ปุ่นจะทำงานร่วมกับประเทศอื่นๆ แม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เครือข่ายคริปโตเคอเรนซีจะเป็นสิ่งที่ทำงานได้ดี ขณะที่ SWIFT เป็นระบบชำระเงินระหว่างประเทศ ที่ใช้สื่อสารกันระหว่างธนาคารเพื่อส่งเงินทั่วโลก แต่ญี่ปุ่นก็เดินหน้าแล้ว โดยคณะทำงาน FATF ได้อนุมัติแผนเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อสร้างเครือข่ายใหม่  เป็นไปตามความมุ่งหมายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และหน่วยงานกำกับบริการทางการเงินของญี่ปุ่น ทั้งนี้ ญี่ปุ่นต้องการผลักดันเพื่อให้แน่ใจในความปลอดภัยของสกุลเงินเสมือนจริงนี้ โดยหวังว่าจะทำให้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) มีส่วนขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจเติบโต โดยที่ผ่านมาญี่ปุ่นก็เป็นประเทศแรกในโลกที่กำกับตลาดซื้อขายคริปโตเคอเรนซี ด้วยมาตรการระดับชาติ เมื่อปี 2017  

ตลาดหุ้นไทยวันที่ 18 ก.ค. ปิดตลาด 1,723.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.59 จุด

ตลาดหุ้นไทยวันที่ 18 ก.ค. ปิดตลาด 1,723.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.59 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทย วันที่ 18 ก.ค. 2562 ปิดที่ 1,723.44 จุด เพิ่มขึ้น 4.59 จุด หรือ +0.27% ระหว่างวันดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,725.94 จุด และต่ำสุดที่ 1,714.41 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 54,793.51 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.KBANK ปิดที่ 180.00 บาท ลดลง -3.50 บาท (-1.91%) มูลค่าการซื้อขาย 2,373.16 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 47.75 บาท ลดลง 0.25 บาท (-0.52%) มูลค่าการซื้อขาย 2,049.33 ลบ. 3.CPALL ปิดที่ 87.25 […]

Fund Comment มิถุนายน 2562 : มุมมองตลาดตราสารหนี้

Fund Comment มิถุนายน 2562 : มุมมองตลาดตราสารหนี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับตัวลดลงตลอดช่วงอายุ โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลระยะกลาง-ยาวที่ปรับตัวลงมากถึง 0.20% – 0.35% เป็นการปรับตัวในทิศทางเดียวกับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ จากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุน ซึ่งเป็นผลมาจากการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ และยุโรปที่กลับมาส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอีกครั้ง หลังตัวเลขเศรษฐกิจโลกมีทิศทางชะลอตัวลงและมีความกังวลต่อผลกระทบของความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ด้านตลาดตราสารหนี้ไทยได้รับอานิสงส์จากความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่ำเช่นเดียวกันจากปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศ Emerging Market ด้วยกัน ทำให้ในเดือนมิถุนายนมีเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามาซื้อสุทธิรวม 52,296 ล้านบาท สำหรับผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย (กนง.) ในเดือนมิถุนายนยังคงมีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยคณะกรรมการฯ เห็นว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบันยังอยู่ในระดับผ่อนคลายเพียงพอต่อภาวะเศรษฐกิจไทย พร้อมปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ลงเหลือ 3.3% จากเดิม 3.8% จากการส่งออกสินค้าและบริการที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ยังแสดงความกังวลต่อการแข็งค่าของค่าเงินบาทที่ค่อนข้างเร็วและอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการส่งออกสินค้าและเศรษฐกิจไทยในอนาคต แนวโน้มตราสารหนี้ไทยในอนาคตยังต้องติดตามปัจจัยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน และทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ตลาดได้ให้น้ำหนักต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% – 0.75% ภายใน 12 เดือนข้างหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งความไม่แน่นอนดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศที่สำคัญคือ การพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่คาดว่าจะล่าช้ากว่ากำหนด […]

วันนี้ 17 กรกฎาคม 2562 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,718.85 จุด ลดลง 9.13 จุด

วันนี้ 17 กรกฎาคม 2562 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,718.85 จุด ลดลง 9.13 จุด

วันนี้ 17 กรกฎาคม 2562 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,718.85 จุด ลดลง 9.13 จุด หรือ -0.53% ณ เวลา 16:42 น. มีมูลค่าการซื้อขาย 62,628.42 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 48.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,955.15 ลบ. 2.BEM ปิดที่ 10.30 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,835.67 ลบ. 3.GPSC ปิดที่ 67.75 บาท ลดลง -3.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,801.91 ลบ. […]

ต่างชาติแห่เที่ยวญี่ปุ่น ใช้จ่ายสะพัดแตะระดับ 2.43 ล้านล้านเยน สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ต่างชาติแห่เที่ยวญี่ปุ่น ใช้จ่ายสะพัดแตะระดับ 2.43 ล้านล้านเยน สูงสุดเป็นประวัติการณ์

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตัวเลขล่าสุดจากสำนักงานการท่องเที่ยวญี่ปุ่นระบุ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศญี่ปุ่น ทำสถิติสูงสุดในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ โดยประมาณการว่า ตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 16.63 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.6% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับยอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น เพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 2.43 ล้านล้านเยน (2.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รัฐบาลญี่ปุ่นได้กำหนดเป้าหมายการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ราว 40 ล้านคนต่อปี และได้เพิ่มเป้าหมายยอดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติขึ้นสู่ระดับ 8 ล้านล้านเยนในปีหน้า ซึ่งเป็นปีที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว และพาราลิมปิก เมื่อพิจารณาเป็นรายประเทศและภูมิภาค พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมีมากที่สุดถึง 4,532,500 คน เพิ่มขึ้น 11.7% โดยได้แรงหนุนจากการที่ญี่ปุ่นผ่อนคลายกฎระเบียบในการออกวีซ่าเมื่อเดือนม.ค. อย่างไรก็ตาม จำนวนนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้ลดลง 3.8% แตะที่ระดับ 3,862,700 คน ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจากไต้หวันลดลง 1% สู่ระดับ 2,480,800 คน […]