STOCK CONNECT
By… ศรศักดิ สร้อยแสงจันทร์ BF Knowledge Center ช่องทางการลงทุนที่เปิดให้นักลงทุนต่างประเทศเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นจีน และนักลงทุนจีนออกไปลงทุนต่างประเทศ ในอดีตตลาดหุ้นจีนถึงแม้จะไม่ใช่ตลาดที่ปิดสำหรับนักลงทุนต่างประเทศ แต่มีข้อจำกัดการลงทุนค่อนข้างมาก โดยเปิดให้เข้าไปลงทุนได้เฉพาะนักลงทุนสถาบันที่ได้รับอนุญาตจากทางการ มีการจำกัดโควต้าเงินลงทุนและมีกฎระเบียบควบคุมการถอนเงินกลับ นักลงทุนส่วนใหญ่จึงเลือกลงทุนในหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง (H Share) ซึ่งมีจำนวนหุ้นเพียง 737 บริษัท (แต่มีข้อจำกัดน้อยกว่าและมีความคล่องตัว) ในขณะที่ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นมีหุ้น 3557 บริษัท ส่วนนักลงทุนชาวจีนที่ไม่ใช่สถาบันการเงินก็ไม่สามารถลงทุนในต่างประเทศได้ เมื่อจีนต้องการเปิดเสรีทางการเงินเพื่อพัฒนาและยกระดับตลาดทุน จึงเริ่มเปิดช่องทางการลงทุนเพิ่มขึ้นภายใต้โครงการ Stock Connect ในปี 2557 โดยเริ่มต้นที่ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้กับตลาดหุ้นฮ่องกง ต่อมาในปี 2559 ก็ขยายไปสู่ตลาดหุ้นเสิ่นเจิ้นกับตลาดหุ้นฮ่องกง ทำให้นักลงทุนต่างประเทศสามารถเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้น A-Share (ทั้งเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้น) โดยไม่ต้องขอรับอนุญาตและโควต้าจากทางการ ทั้งนี้ต้องลงทุนผ่านโบรกเกอร์ที่ฮ่องกง แต่ยังคงมีโควต้าการลงทุนเป็นโควต้ารวม 2000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน (ระบบเดิมเป็นโควต้าที่อนุมัติให้รายนักลงทุน) โดยไม่มีข้อจำกัดในการถอนเงินกลับ ส่วนนักลงทุนชาวจีนสามารถไปลงทุนในตลาดหุ้นฮ่องกง(เฉพาะหุ้นที่ได้รับการคัดเลือก) การเปิดช่องทาง Stock connect จะส่งผลดีต่อนักลงทุนทั้งจีนและต่างประเทศ ทำให้มีโอกาสในการลงทุนที่กว้างขึ้น โดยประเทศจีนซึ่งมีระดับการเติบโตทางเศรษบกิจที่สูง ขนาดประชากรกว่า […]
BF Knowledge Center Personal Finance
RMF ลงทุนง่าย เงื่อนไขไม่ยากอย่างที่คิด (ตอนจบ)
By…พริ้มพัชร จิรบวรพงศา BF Knowledge Center เมื่อตอนที่แล้วเราได้พูดถึงการลงทุนเพื่อวัยเกษียณที่สามารถรับสิทธิลดหย่อนภาษีได้มีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันชีวิตแบบบำนาญ และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ แต่ก็มักจะพบว่ากองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF มักถูกมองข้ามจากผู้ลงทุน เพราะส่วนใหญ่หวั่นใจกับเงื่อนไขการลงทุนระยะยาว ผู้ลงทุนมักคิดว่าอีกตั้งนานกว่าจะเกษียณ (ลงทุนล่วงหน้า 10-20 ปี กว่าจะขายคืนได้ก็นานเกิน) แต่อยากให้ฉุกคิดว่า “เป้าหมายหลักที่ทุกคนต้องการ” คืออะไร ลืมไปรึเปล่าว่า ที่ต้องการคือมีคุณภาพชีวิตที่ดี และแน่นอนว่าคงไม่มีใครอยากไม่มีเงินใช้ในวัยเกษียณ ซึ่งรู้หรือไม่ว่า การเริ่มต้นลงมือทำตั้งแต่เนิ่นๆ ทุกคนสามารถมีเงินลงทุนสะสมหลักล้านได้ง่ายกว่าเพียงเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ และย่อมดีกว่าไปเริ่มต้นลงมือทำตอนที่อายุมากแล้ว โดยกองทุนรวม RMF เป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้ทุกคนสามารถบรรลุเป้าหมายการลงทุนเพื่อวัยเกษียณได้ไม่ยาก แม้จะมีเงื่อนไขหลายประการ แต่ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร จึงจะยกตัวอย่างให้เห็นเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้ง่ายและเข้าใจตรงกัน 1.) การลงทุนในกองทุนรวม RMF นอกจากจะต้องคำนวณสิทธิในการซื้อต่อปี คือ ขั้นต่ำ 3% ของเงินได้พึงประเมินหรือ 5,000 บาท และ […]
BF Knowledge Center Personal Finance
RMF ลงทุนง่าย เงื่อนไขไม่ยากอย่างที่คิด (ตอนที่1)
By…พริ้มพัชร จิรบวรพงศา BF Knowledge Center เมื่อกล่าวถึงการลงทุนในกองทุนรวมสำหรับคนทำงานทุกคน คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักกองทุนรวมลดหย่อนภาษี LTF และ RMF เพราะกองทุนรวมทั้ง 2 ประเภท เปรียบเหมือนแหล่งความหวังของคนทำงานที่ต้องการลงทุนควบคู่ไปกับการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี โดยกองทุนรวมที่เป็นที่นิยมคงหนีไม่พ้นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long term Equity Fund: LTF) เพราะเงื่อนไขในการถือครองหน่วยลงทุนเข้าใจง่าย สะดวกสบายตรงที่ไม่มีภาระผูกพัน และไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี แต่ข่าวร้ายคือการลงทุนในกองทุนรวม LTF อาจจะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีจนถึงปี พ.ศ.2562 เท่านั้น ในขณะที่ความต้องการลงทุนเพื่อแบ่งเบาภาระทางภาษียังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (Retirement Mutual Fund: RMF) จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ กองทุนรวม RMF เป็นกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการออมระยะยาวเพื่อวัยเกษียณ โดยเป็นการลงทุนภาคสมัครใจที่ได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีเช่นเดียวกันกับกองทุนรวม LTF แต่แตกต่างกันที่การคำนวณสิทธิในการลงทุน วิธีการลงทุน และการขายคืนหน่วยลงทุนอย่างถูกเงื่อนไข สาเหตุเป็นเพราะวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนทั้งสองแตกต่างกัน โดยกองทุนรวม RMF นั้นเพื่อการเกษียณ แตกต่างกับกองทุนรวม LTF ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อต้องการส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในตลาดทุน […]
โกลด์แมน แซคส์เตือนสถานะการคลังสหรัฐ อาจเสี่ยงต่อศก.ประเทศ
นายแจน แฮตซิอุซ หัวหน้านักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า สถานะการคลังของสหรัฐอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจประเทศ รายงานระบุว่า ตัวเลขขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.25 ล้านล้านดอลลาร์ (5.5% ของ GDP) ภายในปี 2564 จากระดับ 8.25 แสนล้านดอลลาร์ (4.1% ของ GDP) อีกทั้งยังคาดการณ์ว่า สหรัฐจะขาดดุลงบประมาณสูงถึง 2.05 ล้านล้านดอลลาร์ (7% ของ GDP) ภายในปี 2571 รายงานเตือนว่า “ตัวเลขการขาดดุล และระดับหนี้ที่เพิ่มขึ้นจะกดดันให้อัตราดอกเบี้ยดีดตัวขึ้น กระทบตัวเลขขาดดุลให้เพิ่มสูงขึ้นต่อไป เรายังไม่เชื่อว่าสหรัฐจะเผชิญถึงขั้นต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการกู้ยืมเงิน หรือจ่ายคืนเงินกู้ แต่ระดับหนี้ที่เพิ่มขึ้นก็จะมีผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ในอนาคต” ขณะเดียวกัน สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) คาดการณ์ว่า ระดับหนี้ของสหรัฐจะเทียบเท่ากับ GDP ภายในเวลา 1 ทศวรรษ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 หากสภาคองเกรสขยายเวลาการปรับลดภาษีออกไป
หุ้นไทยบวกกว่า 14 จุด ปิดตลาดที่ 1,768.31 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ (21 พ.ค. 61) อยู่ที่ระดับ 1,768.31 จุด เพิ่มขึ้น 14.14 จุด หรือ 0.81% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,770.13 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,758.47 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,171.15 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 57.00 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 3,222.71 ลบ. 2.PTTEP ปิดที่ 149.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,145.00 ลบ. 3.CPALL ปิดที่ 82.00 บาท เพิ่มขึ้น […]
แบงก์ชาติอินโดฯ เล็งแทรกแซงค่าเงิน หลังรูเปียห์ดิ่งต่ำสุดในรอบ 31 เดือน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียให้คำมั่นว่า จะยังคงแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยนและตลาดตราสารหนี้ต่อไป พร้อมกับกล่าวว่า จะเพิ่มสภาพคล่องสกุลเงินตราต่างประเทศในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน หลังอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินรูเปียห์ (rupiah) ลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 31 เดือน โดยในวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินรูเปียห์อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดนับแต่เดือน ต.ค. ปี 2015 ผลจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงตลาดเกิดใหม่ลดลง ขณะที่ธนาคารกลางอินโดนีเซียจะเพิ่มสภาพคล่องสกุลเงินต่างประเทศในตลาดสินเชื่อระหว่างธนาคารมากขึ้นเพื่อจะรักษาเสถียรภาพของค่าเงินรูเปียห์
GDP ไทยไตรมาส 1/2018 โต 4.8% YoY เร็วสุดในรอบ 20 ไตรมาส
BF Economic Research Team เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2018 เติบโต 4.8% YoY หรือ 2.0% QoQ sa สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 20 ไตรมาสเมื่อเทียบเป็นรายปี (YoY) การบริโภคภาคเอกชน การใช้จ่ายรัฐบาล การลงทุนรวม ต่างเร่งตัวขึ้น ส่วนการส่งออกสินค้าและบริการยังขยายตัวได้ดี สศช. ปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2018 ขึ้นเป็น 4.2-4.7% เศรษฐกิจประเทศไทยไตรมาส 1/2018 ขยายตัวถึง 4.8% YoY เร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งเติบโต 4.0% YoY และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 4.0% YoY นับว่าเป็นการเร่งตัวของเศรษฐกิจที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 20 ไตรมาส ขณะที่หากเทียบเป็นรายไตรมาสแล้ว GDP ขยายตัว 2.0% QoQ sa เร่งขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวได้ 0.5% […]
‘มูน แจ อิน’ ต่อสายตรง ‘ทรัมป์’ หลังเกาหลีเหนือขู่ถอนตัวร่วมประชุมสุดยอดกับสหรัฐ
นายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ต่อสายตรงสนทนาทางโทรศัพท์กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับกระบวนการทำให้การเจรจาสุดยอดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ ซึ่งจะจัดขึ้นที่สิงคโปร์ในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ ประสบความสำเร็จ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ทั้งสองผู้นำหารือกันประมาณ 30 นาที และเห็นพ้องต้องกันว่าจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นท่าทีความเคลื่อนไหวของรัฐบาลเกาหลีเหนือในช่วงไม่นานมานี้ด้วย ทั้งนี้ ประธานาธิบดีมูน มีกำหนดจะเดินทางเยือนสหรัฐเพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีทรัมป์ ที่กรุงวอชิงตันในวันอังคารที่ 22 พฤษภาคมนี้ สำหรับการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างทั้งสองผู้นำครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความพยายามของเกาหลีเหนือที่ขู่คว่ำการประชุมสุดยอดสหรัฐ-เกาหลีเหนือ โดยออกถ้อยแถลงวิพากษ์วิจารณ์การซ้อมรบร่วมระหว่างกองทัพสหรัฐและเกาหลีใต้ว่าเป็นการกระทำที่ยั่วยุและเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อบุกรุกเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า สหรัฐและเกาหลีใต้ได้ตัดสินใจยกเลิกการซ้อมรบทางอากาศที่เกี่ยวข้องกับการนำเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ขึ้นบินพร้อมกับเครื่องบินรบของเกาหลีใต้ หลังจากเกาหลีเหนือขู่ที่จะถอนตัวจากการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์
หุ้นไทยบวกเล็กน้อย ปิดตลาดที่ 1,754.17 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ (18 พ.ค. 61) อยู่ที่ระดับ 1,754.17 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด หรือ 0.17% มีมูลค่าการซื้อขาย 60,169.03 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.EA ปิดที่ 38.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,205.05 ลบ. 2.CPALL ปิดที่ 81.50 บาท ลดลง -0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,435.71 ลบ. 3.PTT ปิดที่ 57.00 บาท ลดลง -0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,297.55 […]
ธนาคารกลางอินโดนีเซียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 bps สู่ระดับ 4.50%
BF Economic Research Team ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืนระยะเวลา 7 วัน (7- Day Reverse Repo) ในการประชุมวานนี้ (17 พ.ค. 2018) โดยปรับเพิ่มขึ้น 25 bps สู่ระดับ 4.50% การขาดดุลการค้าในเดือนเม.ย. มากที่สุดในรอบ 4 ปี สอดคล้องกับที่ค่าเงินรูเปียห์ที่อ่อนลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ตลาดบางส่วนผิดหวังกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 25 bps เนื่องจากคิดว่าไม่มากพอที่จะช่วยบรรเทาการอ่อนค่าของเงินรูเปียห์ได้ โดยในระยะข้างหน้าตลาด เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารกลางอินโดนีเซียจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกอย่างน้อย 1 ครั้ง ภายในปีนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืนระยะเวลา 7 วัน (7- Day Reverse Repo) ในการประชุมวานนี้ (17 พ.ค. 2018) โดยปรับเพิ่มขึ้น 25 bps สู่ระดับ […]