B-HY B-HY (H75) AI B-HY (UH) AI Product Update
กองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (อันเฮดจ์) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย B-HY (UH) AI กองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (เฮดจ์ 75) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย B-HY (H75) AI
Highlight พอร์ต ณ สิ้นมกราคม มี yield to worst ที่ 5.51% (ไม่รวมเงินสด) ซึ่งสูงกว่า Benchmark ที่ 5.31% กองทุนมีกลยุทธ์ที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุคงเหลือระยะสั้น โดยมีอายุตราสารเฉลี่ยของพอร์ต (Duration) 3.7 ปี ต่ำกว่า Benchmark ที่ 4.4 ปี BBLAM มองว่า yield to worst ที่ระดับประมาณ 5% นับว่าน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการได้รับกระแสเงินสดจากการลงทุน และ ระดับมูลค่าปัจจุบัน เริ่มกลับเข้ามาสู่ค่าเฉลี่ยในอดีต ภาพรวมตลาด US High Yield เผชิญกับแรงขายค่อนข้างมากเมื่อเปรียบเทียบกับตราสารหนี้อื่นๆ ทว่าการปรับลดลงของราคา US High Yield ถือว่าลดลงน้อยเทียบกับตราสารหนี้อื่น ๆ ในตลาดพัฒนาแล้ว US High […]
B-HY B-HY (H75) AI B-HY (UH) AI BF Knowledge Center
กองทุน High Yield มีดียังไง
สรุปความสัมภาษณ์ เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP® ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน เราเริ่มจะได้ยินกันหนาหูขึ้นเรื่องแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2022 เพื่อรับมือเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกกำลังฟื้นตัว ซึ่งนักลงทุนก็มีคำถามตามมาว่า ถ้าสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว การลงทุนจะต้องปรับกลยุทธ์อย่างไร โดยเฉพาะคนที่ลงทุนในตราสารหนี้ประเภท High Yield Bond ยังลงทุนได้หรือไม่ ก่อนอื่น ต้องอธิบายว่า High Yield Bond คือ หุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนสูง เนื่องจากตราสารประเภทนี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าระดับที่ลงทุนได้ (Investment grade) หรือไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ หลายคนได้ยินแบบนี้อาจจะกังวลกับความเสี่ยง แต่จริงๆ แล้ว High Yield Bond มีมานานแล้ว ซึ่งในประเทศไทยอาจจะมีจำนวนไม่มาก แต่ในต่างประเทศมี High Yield Bond ออกมาจำนวนมาก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่มาก โดยหลายบริษัทที่ออก High Yield […]
B-HY B-HY (H75) AI B-HY (UH) AI Product Update
กองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (อันเฮดจ์) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย B-HY (UH) AI และกองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (เฮดจ์ 75) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย B-HY (H75) AI
Highlight กองทุนมีกลยุทธ์ที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุคงเหลือระยะสั้น โดยมีอายุตราสารเฉลี่ย 2.4 ปี (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ 3.7 ปี) ด้วยมีความผันผวนไม่สูงมากนักและมีระดับมูลค่าที่น่าลงทุน กองทุนหลักมีมุมมองว่า แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการปรับทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของ FED และการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ตราสารหนี้ US High Yield ยังคงมีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุน ทั้งในเรื่องของรายได้ที่ได้รับอย่างสม่ำเสมอและระดับอัตราดอกเบี้ยจ่ายของตราสารที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูงประมาณ 3.5 – 4% ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของผู้ออกตราสารมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ภาพรวมตลาด ช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ปัจจัยเรื่องการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะจากการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์ไวรัส ได้เข้ามากดดันทำให้เกิดความกังวลเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอีกครั้งทั้งภายในและภายนอกสหรัฐฯ และทำให้ผลตอบแทนของตราสารหนี้กลุ่ม High Yield สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงเดือน ส.ค. อย่างไรก็ตาม ตราสารหนี้ กลุ่ม High Yield สหรัฐฯ ยังคงให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ประเภทอื่นๆ โดยให้ผลตอบแทนประมาณ 4.6% นับตั้งแต่ช่วงต้นปี ขณะที่ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้กลุ่ม High Yield […]
B-HY B-HY (H75) AI B-HY (UH) AI Product Update
กองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (อันเฮดจ์) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย B-HY (UH) AI และกองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (เฮดจ์ 75) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย B-HY (H75) AI
HIGHLIGHT ผลตอบแทนของตราสารหนี้ทั่วโลกปรับตัวติดลบ ยกเว้นส่วนของตราสารหนี้กลุ่ม High Yield ที่ยังสามารถให้ผลตอบแทนเป็นบวก ปัจจัยพื้นฐานของตราสารหนี้กลุ่ม High Yield โดยรวมมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ส่งผลให้อัตราผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทผู้ออกตราสารหนี้ US High Yield ปรับตัวไปในทิศทางที่มีพัฒนาการเชิงบวกมากขึ้น ด้วยผลจากการที่สหรัฐฯ กลับมาเปิดเมืองและภาคธุรกิจเริ่มกลับมาดำเนินการเฉกเช่นปกติ รวมถึงสภาวะทางการเงิน (Financial Condition) ที่ผ่อนคลายและต้นทุนทางการเงินที่ต่ำทำให้ผู้ออกตราสารสามารถระดมเงินกู้ได้โดยง่าย กองทุนฯ มีกลยุทธ์ที่จะเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุคงเหลือระยะสั้น โดยมีอายุตราสารเฉลี่ย 2.3 ปี (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ 3.5 ปี) ด้วยมีความผันผวนไม่สูงมากนักและมีระดับมูลค่าที่น่าลงทุน ประเด็นสำคัญของตลาดตราสารหนี้นับตั้งแต่ช่วงต้นปี ได้แก่ การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลก โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะยาวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง โดยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีเปลี่ยนแปลงจากปลายปี 2563 ที่ประมาณ 0.9% มาสู่ระดับสูงกว่า 1.5% ซึ่งเป็นผลมาจากการคาดการณ์เงินเฟ้อ (Inflation Expectation) ทั้งจากเหตุผลเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การดำเนินมาตรการกระตุ้นด้านการคลังขนาดใหญ่ และการเร่งตัวขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ […]
B-HY B-HY (H75) AI B-HY (UH) AI Product Update Uncategorized
กองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (เฮดจ์ 75) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (B-HY (H75) AI) และกองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (อันเฮดจ์) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (B-HY (UH) AI)
Highlight ประจำไตรมาส 4Q2020 ผลตอบแทนตลาดตราสารหนี้ยูเอสไฮยิลด์จะสร้างผลตอบแทนได้ประมาณ 5.0-7.0% ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับระยะเวลาการลงทุนในอีก 12 เดือนข้างหน้า ตราสารหนี้ยูเอสไฮยิลด์จะเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นสหรัฐฯ และพันธบัตรรัฐบาลในกรอบระยะเวลา 3-5 ปีถัดจากนี้ เพราะหุ้นสหรัฐฯมีระดับมูลค่าสูง ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลก็ให้ดอกเบี้ยต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ สรุปภาวะตลาดและมุมมองตราสารหนี้ยูเอสไฮยิลด์ในอนาคตอีก 12 เดือนข้างหน้า ถ้าดูปีนี้ทั้งปี เฉพาะเดือน ส.ค. 2020 จะเป็นเดือนที่มีปริมาณตราสารหนี้ออกใหม่ออกมามากอย่างที่ผู้จัดการกองทุนหลักไม่เคยพบเจอมาก่อน ทั้งที่โดยปกติจะเป็นเดือนที่ตรงกับ summer holiday ของทางฝั่งประเทศสหรัฐฯ ผนวกกับแรงซื้ออย่างล้นหลามจากผู้ซื้อตราสารหนี้ในตลาดแรก ทำให้เป็นโอกาสที่ดีกับธุรกิจที่ต้องการออกตราสารหนี้มารีไฟแนนซ์หนี้เดิม เพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับกิจการของตนเอง เป็นเรื่องแปลกของตลาดตราสารหนี้ไฮยิลด์สหรัฐฯ ภายใต้ภาวะที่เรียกว่า Technical negative ที่เห็น ตราสารหนี้บริษัทยักษ์ใหญ่ถูกปรับลดอัตราความน่าเชื่อถือลงสู่ระดับต่ำกว่าระดับน่าลงทุน (Fallen angel) มูลค่ากว่า 150 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นักลงทุนนำดอกเบี้ยที่ได้รับจากการลงทุนกลับไปซื้อตราสารหนี้ยูเอสไฮยิดล์อีกครั้งหนึ่ง ธนาคารกลางสหรัฐฯ เข้ามาแทรงแทรงตลาดด้วยการซื้อตราสารหนี้ ทั้งกลุ่มที่เพิ่งได้รับการปรับอันดับความน่าเชื่อถือเข้าสู่กลุ่มต่ำกว่าระดับลงทุน (Fallen angels) และอีทีเอฟ (HY ETFs) […]
B-HY B-HY (H75) AI B-HY (UH) AI Product Update
กองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (เฮดจ์ 75) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (B-HY (H75) AI) และกองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (อันเฮดจ์) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (B-HY (UH) AI)
Highlight: กองทุนหลักมีมุมมองต่อผลตอบแทนในเชิงเปรียบเทียบสำหรับระยะเวลา 12 เดือนถัดจากนี้ว่า ยูเอสไฮยิดล์มีความน่าสนใจกว่าเนื่องจากหุ้นสหรัฐฯ ที่มีระดับมูลค่าที่สูง ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มีผลตอบแทนต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ Search for yield ยังดำเนินต่อไป เห็นได้จากปริมาณตราสารหนี้ออกใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 ที่สูงถึง 75% ของปริมาณตราสารหนี้ออกใหม่ในปีที่แล้ว แต่กลับได้รับความนิยม โดยมียอดจองซื้อที่สูงกว่ายอดเสนอขายประมาณ 2-3 เท่า ท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ในสหรัฐฯ ยังไม่คลี่คลาย คาดการณ์ผลตอบแทนรวมสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ยูเอสไฮยิลด์จากนี้ถึงสิ้นปีในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ สำหรับกรณี Base case อยู่ในช่วง 6.00%-9.00% กองทุนหลักคาดการณ์อัตราการผิดนัดชำระหนี้ (Default rate) ในอีก 12 เดือนข้างหน้า จะอยู่ในช่วง 5.00%-8.00% จากระดับที่ตลาดมองไว้ที่ 5.00% ณ ปัจจุบัน หากสหรัฐฯต้องกับการล็อคดาวน์อีกครั้ง (เผชิญกับ Second wave) กองทุนหลักได้ทำการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress test) […]