กองทุนเปิดบัวหลวงมันนี่มาร์เก็ตเพื่อการเลี้ยงชีพ (MM-RMF)

กองทุนเปิดบัวหลวงมันนี่มาร์เก็ตเพื่อการเลี้ยงชีพ (MM-RMF)

ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ การเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและพันธบัตรรัฐบาลไทยในช่วงที่ผ่านมา ยังคงเคลื่อนไหวตามปัจจัยหลักที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ได้แก่ ความกังวลถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ท่าทีผ่อนคลายของธนาคารกลางหลักทั่วโลก ความกังวลถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และรัฐบาลไทย หลังจากในช่วงเดือน เม.ย. IMF ได้ออกมาปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้ลงสู่ระดับ 3.3% จากเดิมที่ 3.5% โดยได้ระบุผลกระทบหลักมาจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า รวมทั้งการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทั้งนี้ประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนนั้นมีท่าทีผ่อนคลายลงในช่วงเดือน เม.ย. โดยมีทิศทางว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุ ข้อตกลงทางการค้าได้ แต่ประเด็นดังกล่าวกลับมาตึงเครียดขึ้นอีกครั้งในเดือน พ.ค. หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ว่าอาจขึ้นภาษีสินค้า นำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 10% เป็น 25% ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงก็จะส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และภาคการส่งออกของไทยได้ ทางด้านนโยบายการเงินของประเทศหลัก พบว่า ไปในทิศทางผ่อนคลายมากขึ้น อาทิ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติเป็นเอกฉันท์ (10-0) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25-2.50% ตามที่คาด โดยระบุว่าพัฒนาการของเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินที่ยังไม่แน่นอน ประกอบกับ แรงกดดันเงินเฟ้อที่อ่อนแอ ทำให้ Fed […]

กองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี (B-TNTV)

กองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี (B-TNTV)

ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ การเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและพันธบัตรรัฐบาลไทยในช่วงที่ผ่านมา ยังคงเคลื่อนไหวตามปัจจัยหลักที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ได้แก่ ความกังวลถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ท่าทีผ่อนคลายของธนาคารกลางหลักทั่วโลก ความกังวลถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และรัฐบาลไทย หลังจากในช่วงเดือน เม.ย. IMF ได้ออกมาปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้ลงสู่ระดับ 3.3% จากเดิมที่ 3.5% โดยได้ระบุผลกระทบหลักมาจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า รวมทั้งการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทั้งนี้ประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนนั้นมีท่าทีผ่อนคลายลงในช่วงเดือน เม.ย. โดยมีทิศทางว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุ ข้อตกลงทางการค้าได้ แต่ประเด็นดังกล่าวกลับมาตึงเครียดขึ้นอีกครั้งในเดือน พ.ค. หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ว่าอาจขึ้นภาษีสินค้า นำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 10% เป็น 25% ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงก็จะส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และภาคการส่งออกของไทยได้ ทางด้านนโยบายการเงินของประเทศหลัก พบว่า ไปในทิศทางผ่อนคลายมากขึ้น อาทิ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติเป็นเอกฉันท์ (10-0) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25-2.50% ตามที่คาด โดยระบุว่าพัฒนาการของเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินที่ยังไม่แน่นอน ประกอบกับ แรงกดดันเงินเฟ้อที่อ่อนแอ ทำให้ Fed […]

กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ภาครัฐ (B-TREASURY)

กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ภาครัฐ (B-TREASURY)

ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ การเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและพันธบัตรรัฐบาลไทยในช่วงที่ผ่านมา ยังคงเคลื่อนไหวตามปัจจัยหลักที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ได้แก่ ความกังวลถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ท่าทีผ่อนคลายของธนาคารกลางหลักทั่วโลก ความกังวลถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และรัฐบาลไทย หลังจากในช่วงเดือน เม.ย. IMF ได้ออกมาปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปีนี้ลงสู่ระดับ 3.3% จากเดิมที่ 3.5% โดยได้ระบุผลกระทบหลักมาจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้า รวมทั้งการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทั้งนี้ประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนนั้นมีท่าทีผ่อนคลายลงในช่วงเดือน เม.ย. โดยมีทิศทางว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุ ข้อตกลงทางการค้าได้ แต่ประเด็นดังกล่าวกลับมาตึงเครียดขึ้นอีกครั้งในเดือน พ.ค. หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ว่าอาจขึ้นภาษีสินค้า นำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐจาก 10% เป็น 25% ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงก็จะส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และภาคการส่งออกของไทยได้ ทางด้านนโยบายการเงินของประเทศหลัก พบว่า ไปในทิศทางผ่อนคลายมากขึ้น อาทิ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติเป็นเอกฉันท์ (10-0) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25-2.50% ตามที่คาด โดยระบุว่าพัฒนาการของเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินที่ยังไม่แน่นอน ประกอบกับ แรงกดดันเงินเฟ้อที่อ่อนแอ ทำให้ Fed […]

อินโดนีเซียเปิดตัวคิวอาร์โค้ดมาตรฐานดันประเทศสู่สังคมไร้เงินสด

อินโดนีเซียเปิดตัวคิวอาร์โค้ดมาตรฐานดันประเทศสู่สังคมไร้เงินสด

เดอะ จาการ์ตา โพสต์ รายงานว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซีย ได้เปิดตัวคิวอาร์โค้ดมาตรฐานของอินโดนีเซีย (QRIS) ซึ่งเป็นระบบการใช้รหัสที่มีเป้าหมายเพื่อนำพาประเทศไปสู่สังคมไร้เงินสด สำหรับ QRIS เป็นรูปแบบรหัสที่มีความซับซ้อนมากขึ้น อนุญาตให้ผู้ใช้งานจากระบบชำระเงินหนึ่งโอนเงินไปยังผู้ให้บริการรายอื่นที่อยู่ภายใต้ระบบนิเวศของธนาคารกลางอินโดนีเซีย เช่น ผู้ใช้งานที่ใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของ LinkAja จะสามารถโอนเงินไปให้เจ้าของร้านค้าที่ใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของ OVO ได้ ผ่านการใช้คิวอาร์โค้ดมาตรฐาน QRIS นี้ Perry Warjiyo ผู้ว่าการ ธนาคารกลางอินโดนีเซีย กล่าวว่า QRIS จะอนุญาตให้ชำระเงินได้ผ่านการใช้รหัสคิวอาร์เพื่อเชื่อมต่อและทำงานบนมาตรฐานเดียวกันในระบบ โดยที่ผ่านมาธนาคารกลางเริ่มพัฒนา QRIS มาตั้งแต่ต้นปีก่อน เป็นการทำงานร่วมกันกับสถาบันการเงินต่างๆ รวมถึงผู้ให้บริการเครือข่ายระหว่างธนาคาร และผู้ให้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ T-cash ที่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น LinkAja โดยมาตรฐานของ QRIS มีพื้นฐานมาจากยูโรเพย์ มาสเตอร์การ์ด และวีซ่า ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล Sugeng ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซีย กล่าวว่า ธนาคารเลือกใช้เทคโนโลยีคิวอาร์โค้ด เพราะต้นทุนต่ำกว่าการใช้บัตรที่ฝังชิป หรือการติดตามด้วย RFID […]

หุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,619.36 จุด ลดลง 12.68 จุด

หุ้นไทยปิดตลาดที่ 1,619.36 จุด ลดลง 12.68 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 29 พ.ค. 2019 ปิดตลาดที่ 1,619.36 จุด ลดลง 12.68 จุด หรือ -0.78% โดยระหว่างวันดัชนีแตะระดับสูงสุดที่ 1,632.06 จุด และต่ำสุดที่ 1,618.71 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,991.65 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.SCC ปิดที่ 448.00 บาท ลดลง -12.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 4,255.01 ลบ. 2.BDMS ปิดที่ 26.00 บาท ลดลง -0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,375.03 ลบ. 3.CPALL ปิดที่ 79.00 บาท ลดลง -1.50 […]

จีนมั่นใจ ยังครองอันดับประเทศที่น่าลงทุนมากที่สุดในโลก

จีนมั่นใจ ยังครองอันดับประเทศที่น่าลงทุนมากที่สุดในโลก

Wang Zhijun รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า จีนยังคงเป็นประเทศที่น่าลงทุนมากที่สุดในโลก เนื่องจากมีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ระบบอุตสาหกรรมที่เอื้ออำนวย สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และตลาดการบริโภคที่มีกำลังซื้อสูง เขากล่าวว่ามีบางบริษัทที่เลือกย้ายธุรกิจของตนเองออกจากจีน เนื่องจากปัญหาค่าแรงที่ปรับตัวขึ้น หรือมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาพรวมธุรกิจโลก ซึ่งจีนเคารพทางเลือกทางธุรกิจของแต่ละบุคคล และสนับสนุนให้ทุกคนตัดสินใจเลือกด้วยตนเอง แต่หากพิจารณาถึงตัวเลขของบริษัทต่างชาติที่ปรับเพิ่มการลงทุนในจีนก็มีจำนวนมาก โดยตลาดจีนยังมีโอกาสที่ขยายตัวสูง และยังคงเป็นสถานที่ที่น่าลงทุนมากที่สุดในโลก พร้อมกล่าวยกตัวอย่างบริษัทรถยนต์ชื่อดังอย่างเทสลา และบริษัทเคมียักษ์ใหญ่อย่าง BASF ก็ตัดสินใจเพิ่มการลงทุนในจีน สถิติอย่างเป็นทางการระบุว่า ในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. ยอดการลงทุนจากต่างชาติในภาคการผลิตจีนทะยานขึ้น 11.4% เทียบรายปี Wang กล่าวว่า “เรายินดีต้อนรับบริษัทต่างชาติให้มาลงทุนในจีน โดยเราจะสร้างบรรยากาศการลงทุนที่มีความมั่นคงมากขึ้น มีความเป็นธรรมมากขึ้น โปร่งใสมากขึ้น และคาดการณ์ได้มากขึ้น” จีนจะเดินหน้าสนับสนุนการปฏิรูปโครงสร้างอุปทาน ลดภาษีและค่าธรรมเนียม กระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ รวมไปถึงสนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตและบริษัทที่มีคุณภาพ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจอุตสาหกรรมอย่างมีเสถียรภาพ รวมถึงการพัฒนาในอุตสาหกรรมการผลิต

รับเงินคืนสม่ำเสมอไปกับ B-INCOME

รับเงินคืนสม่ำเสมอไปกับ B-INCOME

รับเงินคืนสม่ำเสมอไปกับ B-INCOME โดย…เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP® ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center กองทุนเปิดบัวหลวงอินคัม หรือ B-INCOME เป็นกองทุนหนึ่งที่ประกาศจ่ายเงินคืนผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มีผู้สนใจสอบถามเข้ามาเรื่อยๆ เกี่ยวกับรายละเอียดกองทุนนี้ วันนี้เราจึงขอมาอธิบายรายละเอียดของ B-INCOME ให้ทุกคนรับทราบกัน B-INCOME เป็นกองทุนผสม ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ หุ้น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) รวมทั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โดยสามารถลงทุนได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพียงแต่ลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกิน 79% ของ NAV กองทุนนี้มีนโยบายชัดเจนที่จะจ่ายเงินกระแสเงินสดคืนให้กับผู้ลงทุนเป็นไตรมาส เพราะเราทราบว่ามีกลุ่มผู้ลงทุนที่อยากลงทุนและได้เงินคืนสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ทั้งนี้ กองทุนบัวหลวงมีกองทุนผสมหลายกองทุน หากดูนโยบายอาจคล้ายคลึงกัน แตกต่างกันบ้างในรายละเอียด แต่หลักๆ แล้ว กองทุนบัวหลวงจะออกแบบกองทุนแต่ละกองมาโดยดูที่เจตนารมณ์ของผู้ลงทุนเป็นหลัก เช่น กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ (B-SENIOR) ออกแบบมาให้เป็นที่เก็บเงินของคนเกษียณแล้วอย่างมีประสิทธิภาพ หรือกองทุนเปิดบีเฟล็กซ์ (B-FLEX) ออกแบบสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นลงทุนในหุ้น โดยค่อยๆ ขยับจากการลงทุนตราสารหนี้มา ซึ่งผู้จัดการกองทุนนี้ก็จะลงทุนอย่างระมัดระวัง […]

หุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,632.04 จุด เพิ่มขึ้น 7.20 จุด หรือ 0.44%

หุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,632.04 จุด เพิ่มขึ้น 7.20 จุด หรือ 0.44%

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 28 พ.ค. 2019 ปิดตลาดที่ 1,632.04 จุด เพิ่มขึ้น 7.20 จุด หรือ 0.44% โดยระหว่างวันดัชนีแตะระดับสูงสุดที่ 1,632.47 จุด และต่ำสุดที่ 1,618.33 จุด มูลค่าการซื้อขาย 204,855.67 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.SCC ปิดที่ 460.00 บาท ลดลง -8.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 19,317.67 ลบ. 2.BDMS ปิดที่ 26.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 15,377.79 ลบ. 3.SCB ปิดที่ 127.50 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย […]

กองทุนบัวหลวงมั่นใจ “BCARE” พร้อมเติบโตต่อเนื่อง จากธุรกิจสุขภาพที่ยังคงมาแรง เผยผลดำเนินงาน 10 ปี เติบโตเฉลี่ย 14% ต่อปี

กองทุนบัวหลวงมั่นใจ “BCARE” พร้อมเติบโตต่อเนื่อง จากธุรกิจสุขภาพที่ยังคงมาแรง เผยผลดำเนินงาน 10 ปี เติบโตเฉลี่ย 14% ต่อปี

กองทุนบัวหลวง มั่นใจกองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ (BCARE) เป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่มองหากองทุนรวมเพื่อลงทุนระยะยาว จากการเติบโตของธุรกิจดูแลสุขภาพในอนาคต ด้วยผลการดำเนินงาน 10 ปีย้อนหลังเป็นเครื่องพิสูจน์ เติบโตเฉลี่ย 14.02% ต่อปีเหนือเกณฑ์มาตรฐาน นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ (BCARE) กองทุนรวมที่เน้นลงทุนอุตสาหกรรมสุขภาพกองทุนแรกในไทย เมื่อ 12 ปีก่อน จนถึงล่าสุด ณ วันที่ 30 เม.ย. 2562 กองทุน BCARE มีผลการดำเนินงานเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง ถึง 14.01% ต่อปี สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานดัชนี MSCI World Health Care Index Net […]

ประชุม G20 เตรียมถกคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา แก้ปัญหาการค้าระหว่างประเทศ

ประชุม G20 เตรียมถกคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา แก้ปัญหาการค้าระหว่างประเทศ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายมาซาซึกุ อาซากาว่า รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศของญี่ปุ่น กล่าวว่า การประชุม G20 จะหารือในเรื่องสถานการณ์การค้าโลก ในขณะที่ประเด็นเรื่องวิธีการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และวิธีการรับมือกับการให้เงินอุดหนุนจนทำให้ตลาดบิดเบือน ก็จะเป็นประเด็นสำคัญที่จะมีการหารือด้วยเช่นกัน การประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันที่ฟุกุโอกะ ตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.เป็นต้นไป ซึ่งคาดการหารือเรื่องกฎเกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีระหว่างประเทศสำหรับบริษัทข้ามชาติ เช่น กูเกิ้ล แอปเปิ้ล เฟซบุ๊ก และอเมซอน เพื่อควบคุมการหลีกเลี่ยงการเสียภาษี ขณะที่ประเด็นที่หลายประเทศกังวลก็คือเรื่องการใช้สิทธิด้านทรัพย์สินทางปัญญาในทางมิชอบ และการให้เงินอุดหนุนก็เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการของตลาดทั่วโลก