Economic Review ครึ่งปีแรกปี 2020 : ภาพรวมเศรษฐกิจโลก

Economic Review ครึ่งปีแรกปี 2020 : ภาพรวมเศรษฐกิจโลก

Core Macro Theme ตลาดผ่อนคลายความกังวลในช่วงสั้นๆ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่สำคัญในปี 2020 1. การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กำลังดำเนินไปช่วยผ่อนคลายความกังวลของตลาดในระยะสั้น  ปัจจุบันสหรัฐฯ และจีนกำลังอยู่ในช่วงการเจรจาข้อตกลงทางการค้าในระยะที่ 1 ซึ่งก่อนหน้านี้คาดว่าจะมีการลงนามข้อตกลงดังกล่าวในการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก ที่มีกำหนดจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากชิลีได้ประกาศยกเลิกการจัดประชุมในครั้งนี้ไป ทำให้กำหนดเวลาสำหรับการลงนามมีความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี ณ ขณะนี้ตลาดปรับมุมมองต่อสงครามการค้าในทิศทางที่ดีขึ้น โดยล่าสุด (ข้อมูล ณ วันที่ 16 ธ.ค.)  สำนักงานคณะผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ได้ประกาศรายละเอียดข้อตกลงการค้าหรือที่เรียกว่า Phase-one Deal เบื้องต้นระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เพิ่มเติม รายละเอียดดังนี้ 1) สหรัฐฯจะลดอัตราภาษีลงเป็น 7.5% จากปัจจุบันที่ 15.0% กับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 1.12 แสนล้านดอลลาร์ฯ ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา 2) สหรัฐฯ ยกเลิกการปรับขึ้นภาษีนำเข้าก้อนสุดท้าย […]

รัสเซียสั่งห้ามซื้ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจากต่างประเทศ หวั่งเสริมสร้างความมั่นคงให้กับระบบอิเล็กทรอนิกส์

รัสเซียสั่งห้ามซื้ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจากต่างประเทศ หวั่งเสริมสร้างความมั่นคงให้กับระบบอิเล็กทรอนิกส์

รายงานข่าวจากสำนักข่าวซินหัวระบุว่าความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัสเซียในการที่จะเสริมสร้างความมั่นคงให้กับระบบอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ โดยรัสเซียได้ลงนามในคำสั่งห้ามซื้ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจากต่างประเทศ อีกทั้งจะช่วยสนับสนุนผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในประเทศ นายกรัฐมนตรี ดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซียได้ลงนามในคำสั่งห้ามซื้ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจากต่างประเทศสำหรับนำมาใช้กับหน่วยงานราชการระดับรัฐและท้องถิ่นเป็นเวลาสองปี คำสั่งที่มีการเผยแพร่บนเว็บไซต์ข้อมูลกฎหมายของทางการรัสเซียระบุว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นเพื่อรับประกันความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลที่มีความสำคัญอย่างยิ่งของรัฐบาลรัสเซีย โดยคำสั่งห้ามดังกล่าวเริ่มมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่ที่มีการเผยแพร่ประกาศ หากย้อนไปดูมาตรการต่างๆที่รัสเซียประกาศใช้ เสริมสร้างความมั่นคง เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งครอบคลุมมาตรการต่างๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตของประเทศยังคงทำงานได้อย่างเสถียร ในกรณีที่รัสเซียเผชิญภัยคุกคามจากภายนอกจนทำให้ต้องขาดการเชื่อมต่อกับเครือข่ายทั่วโลก ต่อมาในวันที่ 16 พ.ย. นายเมดเวเดฟได้เซ็นคำสั่งห้ามซื้อซอฟต์แวร์ต่างชาติสำหรับใช้ในหน่วยงานระดับรัฐและท้องถิ่น จากนั้นในวันที่ 2 ธ.ค. ปธน.ปูตินได้เซ็นกฎหมายอีกฉบับ ที่กำหนดให้สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และสมาร์ททีวีทุกเครื่องที่ขายในรัสเซีย ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ผลิตในรัสเซีย โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนก.ค.ปีหน้า

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 27 ธ.ค. 62 ปิดตลาดที่  1,578.22 จุด ลดลง 0.81 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 27 ธ.ค. 62 ปิดตลาดที่ 1,578.22 จุด ลดลง 0.81 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 27 ธ.ค. 2562 ปิดตลาดที่  1,578.22 จุด ลดลง -0.81 จุด หรือ 0.05% โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดที่ 1,588.02 จุด ต่ำสุดที่ 1,568.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,967.52ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 44.25 บาท ลดลง -0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,443.39 ลบ. 2.AOT ปิดที่ 74.25 บาท ลดลง -0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,682.75 ลบ. 3.BBL ปิดที่ 159.50 บาท ลดลง -0.50 บาท […]

SSF แตกต่างอย่างไรจาก LTF และ RMF

SSF แตกต่างอย่างไรจาก LTF และ RMF

  โดย…เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP® ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดตั้งกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF : Super Savings Fund)   กองทุนลดหย่อนภาษีแบบใหม่ออกมา รวมถึงแนวทางเกี่ยวกับกองทุน LTF ที่จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในปีนี้ได้เป็นปีสุดท้าย และมีการปรับเกณฑ์เกี่ยวกับ RMF บางส่วน ในวันนี้เราจะมาคุยกันว่าความคืบหน้าของกองทุนทั้ง  3  เป็นอย่างไร วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อการออม หรือ SSF : Super Savings Fund SSF   จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนให้คนไทยรู้จักออมเงินระยะยาว  โดยเฉพาะประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ต้องรู้จักออมระยะยาวเพื่อประโยชน์ของตนเองในอนาคต   SSF  เน้นให้ลงทุนระยะยาว ซึ่งกำหนดไว้ที่  10  ปี  นับแบบวันชนวัน  ทำให้มีนโยบายลงทุนที่หลากหลายได้มากกว่า  LTF  ที่ต้องการสนับสนุนตลาดหุ้นไทย  จึงทำให้เน้นลงทุนในหุ้นไทยเพียงอย่างเดียว SSF  ส่งเสริมให้เกิดการเก็บออมระยะยาว   โดยไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อเกษียณชัดๆ แบบ RMF   ทำให้ไม่ต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี  […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ธ.ค. 62 ปิดตลาดที่ 1,579.03 จุด เพิ่มขึ้น 6.03 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ธ.ค. 62 ปิดตลาดที่ 1,579.03 จุด เพิ่มขึ้น 6.03 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 26 ธ.ค. 2562 ปิดตลาดที่ 1,579.03 จุด เพิ่มขึ้น 6.03 จุด หรือ 0.38% โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดที่ 1,579.33 จุด ต่ำสุดที่ 1,573.44 จุด มูลค่าการซื้อขาย 28,380.38 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.GPSC ปิดที่ 85.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,219.75 ลบ. 2.AOT ปิดที่ 74.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,131.04 ลบ. 3.GULF ปิดที่ 164.00 บาท ลดลง -0.50 […]

สหรัฐพร้อมทำสงครามข้อมูล หากต่างชาติแทรกแซงการเลือกตั้งปีหน้า

สหรัฐพร้อมทำสงครามข้อมูล หากต่างชาติแทรกแซงการเลือกตั้งปีหน้า

หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายงานว่า หน่วยบัญชาการด้านไซเบอร์ของกองทัพสหรัฐกำลังพัฒนากลยุทธ์สำหรับการทำสงครามสารสนเทศ โดยมุ่งเป้าโจมตีไปยังเจ้าหน้าที่ของรัสเซีย หากพบว่ารัสเซียเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐในปี 2020 รายงานดังกล่าวอ่างแหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สหรัฐทั้งในอดีตและปัจจุบันว่า หน่วยบัญชาการด้านไซเบอร์ของสหรัฐจะโจมตีข้อมูลส่วนบุคคลของผู้นำระดับสูง และชนชั้นนำของรัสเซีย หากไม่หยุดแทรกแซงการเลือกตั้งของสหรัฐ อย่างไรก็ตามการโจมตีเป้าหมายจะไม่รวมประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย เพราะอาจจะเป็นการกระทำที่ยั่วยุมากเกินไป โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมาจากความพยายามของสหรัฐที่จะรับประกันว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้าจะไม่ถูกแทรกแซงโดยต่างชาติ ขณะเดียวกัน สหรัฐได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลและองค์กรหลายแห่งของรัสเซียแล้ว โดยกล่าวหาว่า พวกเขาได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่ผ่านมาในสหรัฐ ซึ่งทางรัสเซียก็ได้ปฏิเสธมาโดยตลอด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 ธ.ค. 62 ปิดตลาดที่ 1,573.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.37 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 ธ.ค. 62 ปิดตลาดที่ 1,573.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.37 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 25 ธ.ค. 2562 ปิดตลาดที่ 1,573.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.37 จุด หรือ 0.28% โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดที่ 1,574.41 จุด ต่ำสุดที่ 1,564.85 จุด มูลค่าการซื้อขาย 21,369.38 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.BAM ปิดที่ 18.20 บาท ปิดไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,088.91 ลบ. 2.KBANK ปิดที่ 151.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 626.41 ลบ. 3.GPSC ปิดที่ 84.50 บาท ลดลง -0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย […]

จีนเดินหน้าขยายขอบเขตการพัฒนาบล็อกเชนในด้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

จีนเดินหน้าขยายขอบเขตการพัฒนาบล็อกเชนในด้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า Lu Lei  รองหัวหน้าสำนักงานบริหารการแลกเปลี่ยนเงินตราของรัฐ (SAFE) ของจีน ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จีนจะขยายขอบเขตโครงการต้นแบบแพลตฟอร์มการเงินข้ามแดนที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน โดยขณะนี้หน่วยงานกำกับจะเพิ่มการบูรณาการในด้านฟินเทค และตลาดการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้เข้มแข็งขึ้น รวมถึงรักษาความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีระดับสูง “เราจะขยายขอบเขตโครงการต้นแบบและการทำบล็อกเชนสำหรับธุรกรรมข้ามแดน รวมถึงบริหารการกำกับดูแลในระดับมหภาค ในเวลาเดียวกันเราจะเร่งศึกษาเรื่องการปฏิรูปการแลกเปลี่ยนเงินตราโดยทำงานร่วมกับคริปโตเคอเรนซื การวางโครงสร้างกำกับดูแลการแลกเปลี่ยนเงิน และระบบเทคโนโลยีภายใต้สถานการณ์ใหม่ๆ” Lu กล่าว Lu กล่าวว่า แพลตฟอร์มบล็อกเชนด้านการเงินข้ามแดนของ SAFE ปัจจุบันเป็นเพียงโครงการเดียวที่ลงทะเบียนไว้กับ หน่วยงานบริหารไซเบอร์สเปซของจีน (CAC) ข้อมูลจากโกลบอล ไทม์ส ระบุว่า แพลตฟอร์มนี้เปิดตัวตั้งแต่เดือน มี.ค. ที่ผ่านมาใน 9 จังหวัดและเมือง จากนั้นในเดือน พ.ย. ก็ขยายเป็น 19 จังหวัดและเมือง จีนนั้นอยู่ระหว่างศึกษาแอปพลิเคชันเกี่ยวกับบล็อกเชน และปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ในด้านการเงินข้ามแดน โดยมุ่งเน้นเรื่องการบริหารความเสี่ยง รวมถึงการเปิดเสรีตลาดทุนต่อไป  

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 24 ธ.ค. ปิดตลาดที่ 1,568.63 จุด ลดลง 4.94 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 24 ธ.ค. ปิดตลาดที่ 1,568.63 จุด ลดลง 4.94 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 24 ธ.ค. 2562 ปิดตลาดที่ 1,568.63 จุด ลดลง 4.94 จุด หรือ -0.31% โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดที่ 1,576.56 จุด ต่ำสุดที่ 1,567.27 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,580.62 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.AOT ปิดที่ 73.25 บาท ลดลง -1.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,593.74 ลบ. 2.BAM ปิดที่ 18.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,016.86 ลบ. 3.GPSC ปิดที่ 84.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 […]

จีน-เกาหลีใต้ เดินหน้าเพิ่มความร่วมมือทางการค้า

จีน-เกาหลีใต้ เดินหน้าเพิ่มความร่วมมือทางการค้า

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน ได้พบกับนายมูน แจอิน ประธานาธิบดี เกาหลีใต้ ที่เมืองเฉิงตู ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยการพบกันครั้งนี้ของผู้นำทั้ง 2 ประเทศ ก็เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นทางการเมือง เศรษฐกิจ และความร่วมมือทางการค้าระหว่างกัน นายหลี่ กล่าวว่า ระหว่างจีนและเกาหลีใต้ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการเป็นเพื่อนบ้านและพันธมิตรทางการค้าระหว่างกัน โดยทั้ง 2 ประเทศต่างก็กำลังเพลิดเพลินไปกับความสัมพันธ์ที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่มีการสานสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ขณะที่มูลค่าการค้าระหว่าง 2 ประเทศ ก็สูงเกิน 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่ผ่านมา ทั้งจีนและเกาหลีใต้ ต่างก็เป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมคล้ายๆ กัน คือมีประวัติศาสตร์การแลกเปลี่ยนกันมายาวนาน โดยในระยาว มองว่า การทำงานร่วมกับเกาหลีใต้จะทำให้เพิ่มความเชื่อมั่นทางการเมืองได้ เก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน ทำให้เกิดการขยายระหว่างคนสู่คน และวัฒนธรรม รวมถึงส่งเสริมความยั่งยืนและสุขภาพด้วย