ลงทุนเพื่อรายรับสม่ำเสมอดีจริงหรือ ?

ลงทุนเพื่อรายรับสม่ำเสมอดีจริงหรือ ?

โดย     พริ้มพัชร จิรบวรพงศา AFPTTM ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center ปัจจุบันทางเลือกในการลงทุนมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์การลงทุน นโยบายลงทุนที่มี ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงสไตล์การลงทุนของแต่ละแห่งซึ่งมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ข้อดีของความหลากหลายคือ สามารถเลือกให้เหมาะสมกับเป้าหมายและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละบุคคลได้อย่างลงตัวมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม มีคำถามหนึ่งที่นักลงทุนมักจะสงสัยกันนั่นคือ เราจะเลือกลงทุนอย่างไรดี? ระหว่าง ลงทุนไปเรื่อยๆ พอใจผลตอบแทนเมื่อไรก็ทำการขายคืนด้วยตัวเอง หรือ ลงทุนแบบที่มีการจ่ายเงินคืนระหว่างทางเพื่อสร้างรายรับสม่ำเสมอ สำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่คงคุ้นเคยกับแบบแรกคือ ลงทุนไปเรื่อยๆ พอใจผลตอบแทนเมื่อไรก็ทำการขายคืนด้วยตัวเอง รูปแบบนี้อาจเหมาะกับนักลงทุนที่ขยันซื้อ ขยันขาย พอมีเวลาติดตามตลาดลงทุนอยู่บ้างและยอมรับความผันผวนของราคาได้ค่อนข้างมาก ข้อดี คือ ผลกำไรที่ได้รับมาระหว่างทางจะไม่ได้ถูกนำออกไปใช้  แต่จะถูกนำไปลงทุนต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ข้อด้อย คือ ความผันผวนของราคาระหว่างทาง ทำให้มีโอกาสขาดทุนเนื่องจากไม่ได้นำเงินกำไรบางส่วนออกมา ด้วยเหตุนี้ ในช่วงที่การลงทุนมีความผันผวน  นักลงทุนจึงเริ่มสนใจลงทุนแบบที่มีการจ่ายเงินคืนระหว่างทางเพื่อสร้างรายรับสม่ำเสมอกันมากขึ้น สังเกตได้จากการที่นักลงทุนจำนวนหนึ่งเริ่มสนใจลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อรับค่าเช่า รวมถึงเริ่มสนใจลงทุนในหุ้นปันผล กองทุนรวมที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล กองทุนรวมมีการทยอยจ่ายคืนเงินต้นพร้อมผลตอบแทน (Auto Redemption) หรือกองทุนรวมที่สามารถกำหนดวันขายคืนล่วงหน้ารายเดือนได้  เป็นต้น ข้อดี คือ การจ่ายเงินคืนระหว่างทางเป็นเครื่องมือในการสร้างกระแสเงินสดปัจจุบัน และลดความเสี่ยงที่จะขาดทุนกำไรจากความไม่แน่นอนมีอาจเกิดขึ้นในอนาคต  […]

อัตราเงินเฟ้อไทยขยายตัวต่ำในเดือน ก.พ.

อัตราเงินเฟ้อไทยขยายตัวต่ำในเดือน ก.พ.

BF Economic Research อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือน ก.พ. 2020 อยู่ที่ 102.7 vs. prev 102.8 หรือ 0.74% YoY (vs. prev.1.05% YoY) ,เมื่อเทียบรายเดือน -0.08%MoM (vs. prev.0.16%MoM) YTD: 0.89% (vs. prev.1.05%) อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมอาหารและน้ำมัน) อยู่ที่ 0.58%YoY (vs. prev.0.47%YoY) เมื่อเทียบรายเดือน 0.09%MoM (vs. prev.0.02%MoM) ในรายสินค้า ราคาอาหาร (36% of basket) อยู่ที่ 2.04%YoY (vs. prev.1.82%YoY) ,เมื่อเทียบรายเดือน 0.36%MoM (vs. prev.0.41%MoM) ราคาสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 4 มี.ค. ปิดตลาด 1,378.61 จุด เพิ่มขึ้น 3.59 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 4 มี.ค. ปิดตลาด 1,378.61 จุด เพิ่มขึ้น 3.59 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 4 มี.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,378.61 จุด เพิ่มขึ้น 3.59 จุด หรือ 0.26% ระหว่างวันสูงสุดที่ 1,380.82 จุด ต่ำสุดที่ 1,358.24 จุด มูลค่าการซื้อขาย 58,586.96 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.BAM ปิดที่ 25.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท (+4.17%) มูลค่าการซื้อขาย 4,521.12 ลบ. 2.CPALL ปิดที่ 69.00 บาท ลดลง 1.00 บาท (-1.43%) มูลค่าการซื้อขาย 2,495.53 ลบ. 3.PTT <XD> ปิดที่ 39.50 […]

บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จีนผนึกกำลังส่งคลาวด์ คอมพิวติ้ง และเอไอสนับสนุนการต่อสู้กับโควิด-19

บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จีนผนึกกำลังส่งคลาวด์ คอมพิวติ้ง และเอไอสนับสนุนการต่อสู้กับโควิด-19

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จีน ทั้งอาลีบาบา ไป่ตู้ เทนเซนต์ หัวเว่ย และตี้ตี้ ต่างเข้าไปสนับสนุนเทคโนโลยีสุขภาพต่อสู้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) โดยใช้คลาวด์ คอมพิวติ้ง และปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) เริ่มที่ อาลีบาบา เปิดตัวบริการคลินิกออนไลน์บนแอปอาลีเพย์ และเถาเป่า โดยให้ผู้อยู่ในมณฑลหูเป่ยใช้งานก่อน บริการนี้จะให้ผู้คนเข้าไปรับคำปรึกษาจากแพทย์ผ่านออนไลน์ ซึ่งภายหลังก็ขยายบริการไปยังปักกิ่ง นอกจากนี้ยัง เปิดตัวบริการขนส่งยาให้ประชาชนที่ต้องการยารักษาโรคเรื้อรัง ช่วงที่โรงพยาบาลรับคนไข้โควิด-19 มากจนดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังไม่ทัน หน่วยงานวิจัยของอาลีบาบา ยังพัฒนาอัลกอริธึ่มเอไอตัวใหม่เพื่อวิเคราะห์การสแกนเอ็กซเรย์ทางคอมพิวเตอร์ (ซีที สแกน) โดยเอไอนี้ระบุความแตกต่างของภาพระหว่างผู้ที่มีความเป็นไปได้สูงมากว่าจะเป็นปอดอักเสบจากโควิด-19 ผู้ที่ต้องสงสัยเล็กน้อย และผู้ที่ไม่ติดเชื้อเลย ในเวลา 20 วินาทีเท่านั้น โดยที่ผลมีความแม่นยำ 96% ซึ่งปัจจุบันอัลกอริธึ่มนี้ในโรงพยาบาล 26 แห่งใน 16 พื้นที่ และคาดว่าจะกระจายใช้ในโรงพยาบาลมากกว่า 100 แห่งในจีน ไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ไม่เพียงเท่านี้ อาลีบาบายังให้สถาบันวิจัยระดับโลกใช้แพลตฟอร์มฟรีเพื่อเรียงลำดับยีนโควิด-19 ช่วยนักวิทยาศาสตร์คิดค้นวัคซีน […]

กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ (BRRGIF) จ่ายเงินปันผลและคืนเงินทุน รวม 0.24721 บาทต่อหน่วย วันที่ 24 มี.ค. นี้

กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ (BRRGIF) จ่ายเงินปันผลและคืนเงินทุน รวม 0.24721 บาทต่อหน่วย วันที่ 24 มี.ค. นี้

นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ กองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาลบุรีรัมย์ (BRRGIF) ประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 8 ในอัตราหน่วยละ 0.11721 บาท  จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2562 – 31 ธันวาคม 2562 และจ่ายคืนเงินทุนครั้งที่ 3 ในอัตราหน่วยละ 0.13 บาท โดยการลดมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) จากหน่วยละ 9.48 บาท เหลือหน่วยละ 9.35 บาท หรือรวมแล้วจ่ายเงินปันผลพร้อมจ่ายคืนเงินทุนเป็นเงินทั้งสิ้น 0.24721 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้ บริษัทจัดการกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน ในวันที่ […]

เฟด เซทโทนดอกเบี้ยต่ำ รัฐบาลทั่วโลกอัดเม็ดเงินกระตุ้นทางการคลัง

เฟด เซทโทนดอกเบี้ยต่ำ รัฐบาลทั่วโลกอัดเม็ดเงินกระตุ้นทางการคลัง

BF Economic Research คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของ เฟด ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% จากระดับ 1.50-1.75% สู่ระดับ 1.00-1.25% (พร้อมกับปรับลดอัตราดอกเบี้ย IOER ลงมาสู่ ระดับ 1.1% ด้วย เป็นการเร่งด่วน ในวันที่ 4 มี.ค. ก่อนกำหนดการประชุมจริงในวันที่ 17-18 มี.ค. โดย FOMC ให้เหตุผลว่า เพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยปกติแล้ว FOMC จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% แต่ครั้งนี้ปรับลด 0.5% ในครั้งเดียว (ล่าสุดที่ FOMC ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.5%คือในเดือน ต.ค. 2008) และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนอกรอบการประชุม เฟด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2008 ซึ่งขณะนั้นเกิดวิกฤตการเงิน ในแถลงการณ์ เฟด […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 มี.ค. ปิดตลาด 1,375.02 จุด เพิ่มขึ้น 39.30 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 มี.ค. ปิดตลาด 1,375.02 จุด เพิ่มขึ้น 39.30 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 มี.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,375.02 จุด เพิ่มขึ้น 39.30 จุด หรือ 2.94% ระหว่างวันสูงสุดที่ 1,380.39 จุด ต่ำสุดที่ 1,352.22 จุด มูลค่าการซื้อขาย 70,048.53 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.BAM ปิดที่ 24.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท (+6.19%) มูลค่าการซื้อขาย 5,448.26 ลบ. 2.CPALL ปิดที่ 70.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท (+5.26%) มูลค่าการซื้อขาย 3,443.81 ลบ. 3.PTT ปิดที่ 40.75 บาท […]

ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกสิงคโปร์ ชี้ยอดออนไลน์ทะลัก หลังคนตื่นตระหนกโควิด-19 ระบาด

ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกสิงคโปร์ ชี้ยอดออนไลน์ทะลัก หลังคนตื่นตระหนกโควิด-19 ระบาด

ในระยะเวลาเพียงสั้นๆ การระบาดของ โควิด-19 ในสิงคโปร์สร้างความตื่นตระหนกต่อผู้คนจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้การค้าออนไลน์ ทั้งของใช้ สินค้าอุปโภคบริโภค และรายการอื่น ๆ มีผู้ซื้อมากขึ้น RedMart บริษัท ผู้ให้บริการอี-คอมเมิร์ซของลาซาด้า บอกกับซีเอ็นบีซีว่า พบความต้องการใช้บริการออนไลน์อย่างไม่เคยมีมาก่อนในสิงคโปร์หลังจากผู้ซื้อตื่นตระหนกการระบาดของไวรัสดังกล่าว ขณะที่ NTUC FairPrice ซุปเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ที่มีหลายสาขาในท้องถิ่น ให้ข้อมูลว่า รัฐบาลได้ยกระดับการป้องกันและตอบสนองต่อโรคเมื่อเดือนที่แล้วทำให้ความต้องการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้น โฆษก FairPrice เปิดเผยว่า คำสั่งซื้อของบริษัทเมื่อเดือน ก.พ. แตะระดับสูงสุดแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งถือว่าเยอะกว่าเดือนที่ยุ่งที่สุดของปีที่แล้ว นั่นก็คือเดือน ธ.ค. 2019 จึงทำให้บริษัทต้องบริหารจัดการเคลียร์จำนวนสินค้าที่ค้างส่ง ทั้งยังลงทุนทรัพยากร และเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความสามารถในการจัดส่งอีกด้วย

หุ้นไทยวันที่ 2 มี.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,335.72 จุด ลดลง 4.80 จุด

หุ้นไทยวันที่ 2 มี.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,335.72 จุด ลดลง 4.80 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 มี.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,335.72 จุด ลดลง 4.80 จุด หรือ -0.36% ระหว่างวันสูงสุดที่ 1,358.52 จุด ต่ำสุดที่ 1,317.45 จุด มูลค่าการซื้อขาย 74,368.85 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.BAM ปิดที่ 22.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,855.35 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 39.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,216.70 ลบ. 3.AOT ปิดที่ 61.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 […]

โกลด์แมน แซคส์ คาดเฟดลดดอกเบี้ยรวม 1% ในปีนี้

โกลด์แมน แซคส์ คาดเฟดลดดอกเบี้ยรวม 1% ในปีนี้

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมกับธนาคารกลางอื่น ๆ ทั่วโลกในการลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อตอบสนองต่อผลกระทบของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) โกลด์แมน แซคส์ เปิดเผยข้อมูลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ความหวาดกลัวต่อการชะลอตัวของทั่วโลกยิ่งที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น นักวิเคราะห์ กล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดดอกเบี้ยถึง 0.50% ในการประชุมเดือน มี.ค. หรือหากยังไม่ได้ปรับลดในเดือนดังกล่าว ในอนาคตอันใกล้ก็ต้องตัดสินใจลดลงในไม่ช้า โกลด์แมน แซคส์ มองว่า เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยโดยรวมได้ถึง 1.00% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ประเมินไว้ การวิเคราะห์ดังกล่าวสะท้อนว่าเศรษฐกิจกำลังหดตัว ยอดขายและคำสั่งซื้อลดลง ในขณะที่ราคาผลผลิตและวัตถุดิบรวมถึงค่าแรงและการส่งออกทั้งหมดกลับลดลง แม้ว่าสินค้าคงเหลือจะเพิ่มขึ้น ผู้ตอบแบบสอบถาม อ้างว่า ไวรัสเป็นลมมรสุมที่สำคัญ และนักวิเคราะห์บางคนระบุว่า การระบาดเป็นเวลานานอาจนำไปสู่การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมของพวกเขา Jan Hatzius หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวในหมายเหตุว่า แม้ว่าการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายใหม่ของเราจะเป็นไปในทิศทางปรับลดลง แต่เราคิดว่า ความเสี่ยงเริ่มอยู่ในช่วงขาลง อย่างน้อยก็ก็ในแง่ของเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราเห็นความเสี่ยงสูงนั้นคาดว่าจะเริ่มผ่อนคลายลงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า จากการประสานงานทำงานร่วมกันของหลายฝ่าย