อุตสาหกรรมขนส่งจีนฟื้นตัวอย่างมั่นคง โดยมูลค่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น 6%

อุตสาหกรรมขนส่งจีนฟื้นตัวอย่างมั่นคง โดยมูลค่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น 6%

กระทรวงคมนาคมของจีน ออกรายงานล่าสุดเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการขนส่ง ระบุว่า จีนมีการฟื้นตัวอย่างมั่นคงในอุตสาหกรรมขนส่ง เนื่องจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 6% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน โดยครึ่งแรกของปีนี้มูลค่าการลงทุนสู่ระดับสูงสุด 1.45 ล้านล้านหยวน (207,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) การลงทุนในการก่อสร้างถนนและทางน้ำของจีนเพิ่มขึ้น 7.8% แตะระดับ 1.08 ล้านล้านหยวน ในช่วงเดือน ม.ค.- มิ.ย. หรือคิดเป็นกว่า 60% ของเป้าหมายประจำปีที่กำหนดไว้สำหรับปีนี้ สำหรับ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟมีมูลค่าสูงถึง 325,000 ล้านหยวนในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ โครงสร้างพื้นฐานด้านการบินพลเรือนมีมูลค่าสูงถึง 40,100 ล้านหยวน หรือคิดเป็น 40% ของเป้าหมายประจำปี เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา การก่อสร้างได้เริ่มดำเนินการในโครงการขนส่งสำคัญทั้งหมด 625 โครงการและมีการเปิดตัวถนนและทางน้ำใหม่ 430 โครงการ ทั้งนี้ จีนจะยังคงขยายการลงทุนในภาคการขนส่งและส่งเสริมการก่อสร้างโครงการขนส่งที่สำคัญรวมถึงทางรถไฟสายเสฉวน-ทิเบต และทางด่วนปักกิ่ง-เซียงอัน ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมของจีน ยังส่งเสริมภาคเอกชนให้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานภาคการขนส่ง เพื่อขจัดอุปสรรคต่างๆ ในการเข้าถึงตลาด […]

กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ เอ็กซ์ตร้า (B-SENIOR-X)

กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ เอ็กซ์ตร้า (B-SENIOR-X)

สรุปประเด็นเด่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตร จะมีความผันผวนมากขึ้น ตราสารหนี้ภาคเอกชนมีความเสี่ยงด้านเครดิตและสภาพคล่องเพิ่มขึ้น กองทุนเน้นลงทุนโดยคัดเลือกผู้ออกหุ้นกู้ที่ได้รับผลกระทบด้านกระแสเงินสดในระดับต่ำ และมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับภาระหนี้ที่จะครบกำหนดในระยะสั้น เพื่อลดความเสี่ยงด้านการระดมทุนเพื่อต่ออายุหุ้นกู้ แนวโน้มการลงทุนในตราสารทุนอยู่ที่การฟื้นตัวทางปัจจัยพื้นฐานว่าจะฟื้นขึ้นเร็วมากน้อยกว่าที่ตลาดคาดหวังไว้กองทุนลงทุนแบบ Selective เน้นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่เห็นสัญญาณของรายได้กลับมาในเวลาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ การลงทุนในกลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF)และ หน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ยังน่าสนใจเพราะมีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ มุมมองบวกต่อกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนในหมวดนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงหมวดอาคารสำนักงาน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวช้ากว่าอุตสาหกรรมอื่น และหลีกเลี่ยงการลงทุนในหมวดโรงแรม 

ส่งออกไทยหดตัวต่ำสุดตั้งแต่ปี 2009 กระทรวงพาณิชย์มองว่า Bottom Out

ส่งออกไทยหดตัวต่ำสุดตั้งแต่ปี 2009 กระทรวงพาณิชย์มองว่า Bottom Out

BF Economic Research ส่งออกไทยในเดือน มิ.ย. 2020 อยู่ที่ 16,444.0 ล้านดอลลาร์ฯ prev 16,278.4 ล้านดอลลาร์ฯ หรือ -23.20% YoY (vs. prev.-22.50% YoY) ขณะที่การส่งออกหากไม่นับรวมทองจะอยู่ที่ -17.26% YoY (vs. prev.-27.86%YoY)  YTD Export Growth เท่ากับ – 7.10% vs.prev.-3.72% สำหรับมูลค่านำเข้าไทยในเดือน มิ.ย.2020 อยู่ที่ 14,834.0 ล้านดอลลาร์ฯ prev 13,583.8 ล้านดอลลาร์ฯ หรือ -18.10%YoY (vs. prev.-34.40%YoY) YTD Import Growth เท่ากับ -12.6% vs.prev.-11.6% ดุลการค้าในเดือน มิ.ย.2020  […]

กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ (B-SENIOR)

กองทุนผสมบีซีเนียร์สำหรับวัยเกษียณ (B-SENIOR)

สรุปประเด็นเด่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตร จะมีความผันผวนมากขึ้น ตราสารหนี้ภาคเอกชนมีความเสี่ยงด้านเครดิตและสภาพคล่องเพิ่มขึ้น กองทุนเน้นลงทุนโดยคัดเลือกผู้ออกหุ้นกู้ที่ได้รับผลกระทบด้านกระแสเงินสดในระดับต่ำ และมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับภาระหนี้ที่จะครบกำหนดในระยะสั้น เพื่อลดความเสี่ยงด้านการระดมทุนเพื่อต่ออายุหุ้นกู้ แนวโน้มการลงทุนในตราสารทุนอยู่ที่การฟื้นตัวทางปัจจัยพื้นฐานว่าจะฟื้นขึ้นเร็วมากน้อยกว่าที่ตลาดคาดหวังไว้กองทุนลงทุนแบบ Selective เน้นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่เห็นสัญญาณของรายได้กลับมาในเวลาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ การลงทุนในกลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF)และ หน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ยังน่าสนใจเพราะมีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ มุมมองบวกต่อกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนในหมวดนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงหมวดอาคารสำนักงาน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวช้ากว่าอุตสาหกรรมอื่น และหลีกเลี่ยงการลงทุนในหมวดโรงแรม

กองทุนเปิดบัวหลวงอินคัม (B-INCOME)

กองทุนเปิดบัวหลวงอินคัม (B-INCOME)

สรุปประเด็นเด่น กองทุน B-INCOME มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติครั้งที่ 12 เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2563 อัตรา 0.105936 บาทต่อหน่วย  ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติรวม 1.106719 บาทต่อหน่วย (จัดตั้งกองทุนเมื่อ 18 พ.ค. 2560) อัตราผลตอบแทนพันธบัตร จะมีความผันผวนมากขึ้น ตราสารหนี้ภาคเอกชนมีความเสี่ยงด้านเครดิตและสภาพคล่องเพิ่มขึ้น กองทุนเน้นลงทุนโดยคัดเลือกผู้ออกหุ้นกู้ที่ได้รับผลกระทบด้านกระแสเงินสดในระดับต่ำ และมีสภาพคล่องเพียงพอสำหรับภาระหนี้ที่จะครบกำหนดในระยะสั้น เพื่อลดความเสี่ยงด้านการระดมทุนเพื่อต่ออายุหุ้นกู้ แนวโน้มการลงทุนในตราสารทุนอยู่ที่การฟื้นตัวทางปัจจัยพื้นฐานว่าจะฟื้นขึ้นเร็วมากน้อยกว่าที่ตลาดคาดหวังไว้กองทุนลงทุนแบบ Selective เน้นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง ให้ความสำคัญกับธุรกิจที่เห็นสัญญาณของรายได้กลับมาในเวลาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และมีเงินปันผลที่สม่ำเสมอ การลงทุนในกลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF)และ หน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ยังน่าสนใจเพราะมีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ มุมมองบวกต่อกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนในหมวดนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงหมวดอาคารสำนักงาน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวช้ากว่าอุตสาหกรรมอื่น และหลีกเลี่ยงการลงทุนในหมวดโรงแรม 

ยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ ติดลบเป็นแรงดันราคาทอง

ยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ ติดลบเป็นแรงดันราคาทอง

โดย…ทนง ขันทอง สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ได้วิเคราะห์ผ่านบทความเรื่อง “US Bond Markets Are Behind the New Gold Rush” ว่า หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่เป็นแรงดันราคาทองคำให้สูงขึ้นในรอบ 9 ปี คือผลตอบแทน ติดลบที่มากยิ่งขึ้นในตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ พันธบัตรสหรัฐฯ ที่มีอายุ 5 ปีตอนนี้ให้ผลตอบแทน -1.16% เมื่อมีการหักเงินเฟ้อออกไป ทำให้แนวโน้มของแรงซื้อของทองคำยังคงมีอยู่อย่างไม่ลดละ ตั้งแต่ต้นปี ราคาทองได้เพิ่มขึ้นประมาณ 24% ดีกว่าทรัพย์สินต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการล็อคดาวน์ทางเศรษฐกิจอันเกิดจากการระบาดของไวรัสโคโรนา ล่าสุด (23 กรกฎาคม) ราคาทองคำในตลาดโลกได้พุ่งไปแตะระดับ 1,885 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เหลืออีกประมาณกว่า 40 ดอลลาร์สหรัฐ ราคาทองจะไปทุบสถิติสูงสุดที่ทำเอาไว้ในช่วงปี 2011 ส่วนในตลาดทองคำในเมืองไทยมีการเสนอราคาซื้อที่ 28,100 บาท และราคาขายที่ 28,200บาท ต่อทองคำน้ำหนัก 1 บาท […]

หุ้นไทยวันที่ 23 ก.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,359.65 จุด เพิ่มขึ้น 2.61 จุด

หุ้นไทยวันที่ 23 ก.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,359.65 จุด เพิ่มขึ้น 2.61 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 23 ก.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,359.65 จุด เพิ่มขึ้น 2.61 จุด หรือ 0.19% โดยระหว่างวันสูงสุดที่ 1,363.90 จุด ต่ำสุดที่ 1,348.92 จุด มูลค่าการซื้อขาย 70,233.10 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.GULF ปิดที่ 34.25 บาท ลดลง -2.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 9,037.08 ลบ. 2.STA ปิดที่ 24.50 บาท ลดลง -0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,010.50 ลบ. 3.CPALL ปิดที่ 67.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 […]

อินโดนีเซียคาดสินเชื่อปีนี้โต 3-4% ลดลงจากเป้าหมายเดิม เหตุโควิด-19 ทำเศรษฐกิจชะงัก

อินโดนีเซียคาดสินเชื่อปีนี้โต 3-4% ลดลงจากเป้าหมายเดิม เหตุโควิด-19 ทำเศรษฐกิจชะงัก

รายงานข่าวจากรอยเตอร์ส ระบุว่า Wimboh Santoso ประธานของผู้กำกับดูแลสถาบันการเงินในอินโดนีเซีย (OJK) เปิดเผยว่า การขยายตัวของสินเชื่ออินโดนีเซียคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 3-4% ในปีนี้ ตัวเลขดังกล่าวถือว่าปรับลดลงจากเป้าหมายเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าสินเชื่อจะเติบโตประมาณ 10-12% ทั้งนี้ปัจจัยที่ส่งผลกระทบมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หยุดชะงักเพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 Wimboh Santoso ได้เปิดเผยผ่านการสนทนาแบบออนไลน์ว่า การเติบโตของสินเชื่อลดลงในเดือน มิ.ย. เพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจแทบไม่ได้เคลื่อนไหว ก่อนที่จะเริ่มกลับมาเคลื่อนไหวในเดือนก.ค. นี้

เกาะติดเศรษฐกิจโลกครึ่งปีหลัง 2020 ส่งผลอย่างไรต่อการลงทุน

เกาะติดเศรษฐกิจโลกครึ่งปีหลัง 2020 ส่งผลอย่างไรต่อการลงทุน

เศรษฐกิจโลกครึ่งปีหลัง ปี 2020 ส่งผลอย่างไรบ้างต่อการลงทุน แล้วถ้าจะต้องเลือกลงทุนในกองทุนต่างประเทศ ประเทศไหนน่าสนใจบ้าง ติดตามได้จากคลิปวิดีโอนี้ หมายเหตุ: เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2020 ผู้นำสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ได้บรรลุข้อตกลง กองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจ หรือ EU Recovery Fund เป็นวงเงินทั้งสิ้น 7.5 แสนล้านยูโร ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีหลังได้ที่ BF Economic Review – ครึ่งปีหลัง 2563 BF Economic Review – ครึ่งปีหลัง 2563  

จูดี้ เชลตัน เตรียมเขย่าเฟด

จูดี้ เชลตัน เตรียมเขย่าเฟด

โดย…ทนง ขันทอง จูดี้ เชลตัน นักวิชาการที่หนุนระบบมาตรฐานทองคำ ได้รับการโหวตจากคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภาในวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ให้ผ่านการตรวจสอบรอบแรก ก่อนที่เชลตันจะถูกเสนอชื่อให้วุฒิสภาโหวตทั้งองค์ประชุมว่า จะสนับสนุนให้เธอเป็นสมาชิกของคณะกรรมการของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หรือไม่ ตลาดการเงินให้ความสนใจกับเชลตันเป็นพิเศษ เพราะว่าเธอเคยโจมตีเฟดในช่วงที่ผ่านมาเป็นหน่วยงานที่ขี้โกง (rogue agency) และจะเป็นการสมควรหรือไม่ที่คนอเมริกันจะให้ความไว้วางใจในการบริหารและดูแลเงินดอลลาร์ เธอเรียกร้องให้เฟดตั้งเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 0% ไม่ใช่ 2% เหมือนอย่างที่ตั้งขึ้นมาอย่างดุ่ยๆ เพื่อเป็นข้ออ้างให้เฟดเพิ่มปริมาณเงินหรือสภาพคล่องเข้าไปในระบบการเงินอย่างมากมาย ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบการเงินภายหลัง รวมทั้งอัตราแลกเปลี่ยนทีหลัง เชลตัน ไม่เห็นด้วยการความเป็นอิสระของเฟด เพราะเชื่อว่าเฟดและทำเนียบขาว หรือรัฐบาลต้องทำงานร่วมกันในการดูแลความมั่นคงของระบบการเงินและเศรษฐกิจ เธอบอกว่า ไม่เห็นมีข้อความใดๆ ในกฎหมาย Federal Reserve Act of 1913 ที่ระบุว่า เฟดมีอิสรภาพในการดำเนินงาน นอกจากนี้เธอตั้งข้อสงสัยกับพันธกิจของเฟดที่จะบริหารนโยบายการเงินให้เงินเฟ้อมีเสถียรภาพ และในขณะเดียวกันให้มีอัตราการจ้างงานอย่างเต็มที่ เพราะว่าทั้ง 2 สิ่งนี้เป็นเรื่องขัดแย้งกัน ที่สำคัญ เชลตัน เป็นผู้ที่มีความเห็นสนับสนุนระบบมาตรฐานทองคำ (gold standard) […]