ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 พ.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,604.49 จุด ลดลง 25.09 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 พ.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,604.49 จุด ลดลง 25.09 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 9 พ.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,604.49 จุด ลดลง 25.09 จุด (-1.54%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,604.06 จุด และสูงสุดที่ 1,624.26 จุด มูลค่าการซื้อขาย 81,607.55 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.SCB ปิดที่ 110.50 บาท ลดลง 3.00 บาท (-2.64%) มูลค่าการซื้อขาย 2,225.09 ลบ. 2.TOP ปิดที่ 58.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+0.86%) มูลค่าการซื้อขาย 1,864.70 ลบ. 3.PTTEP ปิดที่ 154.50 […]

Meta เปิดร้านค้าของตัวเองแห่งแรกขายอุปกรณ์ VR

Meta เปิดร้านค้าของตัวเองแห่งแรกขายอุปกรณ์ VR

ในวันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2022 ที่ผ่านมา Meta ได้เปิดร้านค้าแห่งแรกของตัวเอง และเป็นศูนย์จัดแสดงอุปกรณ์สวมใส่ศีรษะ ที่ใช้เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง หรือ VR ด้วย เพื่อให้ลูกค้าเข้ามาซื้ออุปกรณ์สวมศีรษะรุ่น Quest 2 ได้ นอกจากนี้ยังเตรียมพร้อมไว้สำหรับขายอุปกรณ์สวมศีรษะระดับไฮเอนด์ที่จะออกมาปลายปีนี้ด้วย ขณะที่ผลรายงานวิจัยที่ Piper Sandler เผยแพร่ออกมา ระบุว่า แม้จะมีจำนวนวัยรุ่นไม่น้อยที่มีอุปกรณ์สวมศีรษะสำหรับเข้าสู่โลกความจริงเสมือน (VR) แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้เริ่มใช้มันเป็นประจำเหมือนกับการใช้สมาร์ทโฟน ทั้งนี้ พบว่า 26% ของวัยรุ่น มีอุปกรณ์สวมศีรษะ VR เป็นของตัวเองแล้ว โดยระดับการเป็นเจ้าของนี้มากกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ แต่มีเพียง 5% ของวัยรุ่นที่ระบุว่า พวกเขาใช้เทคโนโลยีนี้เป็นประจำ ระดับการมีส่วนร่วมยังคงอยู่ในระดับ “ไม่น่าสนใจ” สำหรับการใช้งานอุปกรณ์ VR ยังต่ำอยู่ มาจากหลายปัจจัย ตั้งแต่ต้นทุนที่ยังไม่ปรับลดลงมาอยู่ในระดับที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้งานได้ ไปจนถึงขาดแอปพลิเคชันใช้งานที่เพียงพอ อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการนำเสนอปัญหาที่เกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของเมตาเวิร์สที่ต้องเข้าใช้งานด้วย VR โดยนับตั้งแต่มีเมตาเวิร์ส ก็อาจจะเป็นวิธีแก้ปัญหาการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนแอปพลิเคชันที่ยังมีไม่มากในตอนนี้ ก็แน่นอนว่าอาจจะทำให้ไม่มีสิ่งดึงดูดความสนใจการใช้งานมากนัก […]

BBLAM Weekly Investment Insights 9-13 พฤษภาคม 2022

BBLAM Weekly Investment Insights 9-13 พฤษภาคม 2022

INVESTMENT INSIGHT โลกกำลังเปลี่ยนไป และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ เรื่องทำให้ตระหนักได้ว่า “เงินเฟ้อจะเป็นปัญหาของโลกนี้ไปอีกระยะเวลาหนึ่ง” การจัดพอร์ตเพื่อให้สอดคล้องกับเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจึงเป็นเรื่องจำเป็น คุณศิวกร มิตรสันติสุข, CFA® Investment Strategist จาก BBLAM กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 ที่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเยอะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จากแรงกดดันด้านการผลิตสินค้าที่ไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดในช่วงโควิด-19 ระบาด สวนทางกับความต้องการซื้อที่อัดอั้นมานาน ก็เพิ่มขึ้นแรงกว่าเดิมอีก หลายประเทศเผชิญภาวะเงินเฟ้อทำสถิติสุงสุดในรอบหลายปีในเดือนมีนาคม 2022  เช่น สหรัฐฯ ที่เงินเฟ้อสูงถึง 8.5% ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 40 ปี แม้หลายสำนักจะคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อคงจะค่อยๆ ลดลงได้ช่วงครึ่งปีหลัง แต่เราจะไม่เห็นเงินเฟ้อกลับไปต่ำเหมือนในอดีตอีกพักใหญ่ เพราะโลกเราเกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง (Structural change) จากเดิมทั่วโลกได้ประโยชน์จากการพึ่งพากำลังการผลิตจีนที่มีราคาถูก มาวันนี้จีนก้าวเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่น่าจับตา จนสหรัฐฯ กังวล ว่า จีนจะแซงหน้า จึงตัดจีนออกจากห่วงโซ่เทคโนโลยี รวมถึงการผลิต ลดการพึ่งพาจีน จากเดิมที่ผลิตด้วยต้นทุนต่ำ จึงอาจมีต้นทุนการผลิตสูงขึ้น […]

สี จิ้นผิง ย้ำจุดยืนยึดมั่นนโยบาย zero-Covid ไม่เช่นนั้นจะเกิดผลทางเศรษฐกิจตามมา

สี จิ้นผิง ย้ำจุดยืนยึดมั่นนโยบาย zero-Covid ไม่เช่นนั้นจะเกิดผลทางเศรษฐกิจตามมา

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน เข้าร่วมประชุมผู้นำระดับสูงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม 2022 พร้อมกับย้ำว่าประเทศควรยึดมั่นกับนโยบาย dynamic zero-Covid ทั้งยังเตือนว่าจะเกิดผลทางเศรษฐกิจตามมาหากไม่เป็นเช่นนั้น นี่ถือเป็นการเรียกร้องให้จีนรวมตัวกันสนับสนุนการตัดสินใจของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และต่อสู้อย่างเด็ดขาดกับการตั้งคำถามทุกข้อที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการควบคุมไวรัสนี้ Ting Lu หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีน ของ Nomura บริษัทลงทุนญี่ปุ่น กล่าวว่า ครั้งสุดท้ายที่ Xi เคยออกมาให้คำมั่นเกี่ยวกับไวรัสก็คือเดือนมีนาคม โดยระบุว่ามาตรการควบคุมจะลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจให้มากที่สุดได้อย่างไร ซึ่งการรักษาสมดุลนโยบายกับการเติบโตของเศรษฐกิจนั้น ไม่ได้ถูกพูดถึงอยู่ในการประชุมครั้งล่าสุดนี้ ในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม 2022 มีการถกเถียงกันเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมไวรัส ว่าจะนำไปสู่การติดเชื้อในวงกว้าง ทำให้เกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรง และการเสียชีวิต ขณะที่เศรษฐกิจ รวมถึงความปลอดภัยและสุขภาพของประชาชนจะได้รับผลกระทบอย่างมาก ที่มา : CNBC

ลุ้นรัฐบาลท้องถิ่นจีนรับลูกออกมาตรการสร้างเสถียรภาพตลาดอสังหาฯ

ลุ้นรัฐบาลท้องถิ่นจีนรับลูกออกมาตรการสร้างเสถียรภาพตลาดอสังหาฯ

นักวิเคราะห์กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มองว่า เราจะได้เห็นมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนออกมามากขึ้น จากระดับรัฐบาลท้องถิ่น หากการประชุมหน่วยงานกำกับเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นตัวชี้วัดได้ ก็พบว่า ตัวแทนจากคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ออกแถลงการณ์หลังการประชุมครั้งสำคัญ เพื่อถ่ายทอดความคิดของผู้นำส่วนกลาง ระบุว่า หน่วยงานมีความเป็นห่วงใยในประเด็นการพัฒนาตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้มีคุณภาพ และพัฒนาการด้านความต้องการของผู้ซื้อบ้านจะยังมั่นคงต่อไป หลังจากการประชุมพรรค เมื่อวันที่ 29 เมษยน 2022 ธนาคารกลางจีน รวมทั้งหน่วยงานกำกับธนาคารและประกัน และหน่วยงานกำกับธุรกิจหลักทรัพย์ ต่างก็พร้อมร่วมสนับสนุนให้ความต้องการซื้อในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงมั่นคง ธนาคารกลางจีนเน้นย้ำถึงความระดระวังในการบริหารการเงิน การปรับปรุงนโยบายสินเชื่อ และการจัดหาเงินทุนอย่างรอบคอบในภาคอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ พบว่า มีมากกว่า 85 เมืองในจีนได้ผ่อนคลายกฎระเบียบเกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัย เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2022 โดยมาตรการที่มี รมถึงการผ่อนคลายข้อจำกัดในการซื้อ การเพิ่มเพดานวงเงินสินเชื่อ การผ่อนคลายการควบคุมการขาย การลดจำนวนเงินดาวน์ที่ต้องจ่าย และการลดดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อสนับสนุนสำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและอื่นๆ ตามข้อมูลของ Zhuge Real Estate Data Research Center ที่มา […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 6 พ.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,629.58 จุด ลดลง 13.72 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 6 พ.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,629.58 จุด ลดลง 13.72 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 6 พ.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,629.58 จุด ลดลง 13.72 จุด (-0.83%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,617.94 จุด และสูงสุดที่ 1,634.65 จุด มูลค่าการซื้อขาย 72,642.09 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.SCB ปิดที่ 113.50 บาท ลดลง 2.00 บาท (-1.73%) มูลค่าการซื้อขาย 2,117.02 ลบ. 2.KBANK ปิดที่ 147.00 บาท ลดลง 0.50 บาท (-0.34%) มูลค่าการซื้อขาย 2,075.76 ลบ. 3.BANPU ปิดที่ 12.50 […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 5 พ.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,643.30 จุด ลดลง 8.99 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 5 พ.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,643.30 จุด ลดลง 8.99 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 5 พ.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,643.30 จุด ลดลง 8.99 จุด (-0.54%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,643.17  จุด และสูงสุดที่ 1,667.12 จุด มูลค่าการซื้อขาย 77,457.05 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.PTTEP ปิดที่ 154.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท (+4.04%) มูลค่าการซื้อขาย 4,277.10 ลบ. 2.KBANK ปิดที่ 147.50 บาท ลดลง 3.50 บาท (-2.32%) มูลค่าการซื้อขาย 4,204.15 ลบ. 3.BANPU ปิดที่ 12.40 […]

ทำงานใหม่ๆ ลงทุนอย่างไรให้ชนะเงินเฟ้อ

ทำงานใหม่ๆ ลงทุนอย่างไรให้ชนะเงินเฟ้อ

โดย…พริ้มพัชร จิรบวรพงศา, AFPTTM คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานในช่วงนี้ บอกได้เลยว่าต้องเจอกับศึกรอบด้าน กว่าจะได้งานทำก็ยาก เรียนรู้งานใหม่ก็ยาก เพราะการทำงานปัจจุบันเน้นการใช้เทคโนโลยี ทำให้ขาดการปฎิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน เรียกได้ว่า ในแง่มุมของการทำงานนั้นไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด แถมด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยจะดี อย่างตอนนี้เราก็เจอกับสภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมาก และสูงขึ้นเร็วชนิดที่ว่าเงินเดือนขึ้นตามไม่ทัน   ทำให้ราคาสินค้าและบริการที่ซื้อกินซื้อใช้แพงขึ้น แล้วอย่างนี้ คนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ อย่างเรา หากคิดจะลงทุนควรจะวางแผนอย่างไรดี? อย่างแรกที่ต้องทำก่อนจะลงทุนคือ การวางแผนสภาพคล่อง ให้มีเงินพอกินพอใช้ในแต่ละเดือน  ยิ่งในยุคเงินเฟ้อ ข้าวยากหมากแพง ก็อาจจะทำให้เรามีค่าใช้จ่ายโดยรวมที่มากขึ้น ทั้งที่เราก็ใช้ชีวิตแบบเดิม ยกตัวอย่างค่าไฟ ที่อยู่ดีๆ ค่า ft  ก็ปรับสูงขึ้น เปิดแอร์ตัวเดิม ระยะเวลาเท่าเดิม แต่ค่าใช้จ่ายมากขึ้นกว่าเดิม เป็นต้น หลังจากที่วางแผนสภาพคล่องเรียบร้อยแล้ว เราจึงค่อยจัดสรรเงินส่วนหนึ่งมาออมและอีกส่วนหนึ่งมาลงทุน แต่สิ่งหนึ่งที่วัยทำงานสงสัยก็คือ เราจะลงทุนอย่างไรให้ได้ผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อ เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่า ถ้าลงทุนแล้วผลตอบแทนได้น้อยกว่าเงินเฟ้อ นั่นก็หมายความว่า มูลค่าเงินลงทุนของเรา นอกจากจะไม่งอกเงยแล้วยังติดลบหรือถูกลดอำนาจในการซื้อไปอีกต่างหาก คำตอบของข้อสงสัยนี้จึงอยู่ที่ว่า เราจะลงทุนในสินทรัพย์อะไร? ที่จะสามารถให้ผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อได้ ซึ่งก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่า เงินเฟ้อปัจจุบันอยู่ที่เท่าไร? […]

ก.ล.ต.สหรัฐฯ เพิ่มอีกกว่า 80 บริษัทที่มีความเสี่ยงถูกถอดจากบริษัทจดทะเบียน รวมถึง JD.com

ก.ล.ต.สหรัฐฯ เพิ่มอีกกว่า 80 บริษัทที่มีความเสี่ยงถูกถอดจากบริษัทจดทะเบียน รวมถึง JD.com

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของสหรัฐฯ ได้เพิ่มรายชื่อมากกว่า 80 บริษัท เข้าไปในบัญชีรายชื่อของบริษัทที่อาจถูกถอดถอนออกจากตลาดได้ โดยในจำนวนนี้ก็มีชื่อของ JD.com, Pinduoduo, Bililbili และ NetEase ของจีน รวมอยู่ด้วย เมื่อวันพุธที่ 4 พฤษภาคม 2022 ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ ได้เพิ่มรายชื่อบริษัทจีนที่อาจจะถูกถอดออกจากตลาด อันเนื่องจากกฎหมายที่ปรับปรุงในปี 2020 ที่ให้บริษัทต่างชาติที่มีรัฐบาลถือหุ้นอยู่ต้องเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ปราศจากการครอบงำโดยรัฐบาลประเทศนั้นๆ สำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่จีนอื่นๆ ที่ถูกจัดอยู่ในบัญชีรายชื่อกลุ่มที่อาจถูกถอดถอนอยู่แล้ว ได้แก่ JinkoSolar Holding, NIO และ China Petroleum & Chemical ขณะที่แหล่งข่าวกล่าวกับ Reuters ไปว่า เมื่อเดือนก่อนหน่วยงานกำกับของจีนได้ขอให้บริษัทจีนบางแห่งที่จดทะเบียนในสหรัฐฯ รวมถึง Alibaba, Baidu และ JD.com เตรียมพร้อมเรื่องการเปิดเผยการตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย เมื่อต้นเดือนเมษายน 2022 จีน […]

ธนาคารกลางอินเดียประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 40bps เร็วกว่าที่คาด ในการประชุมนอกรอบ 4 พ.ค.

ธนาคารกลางอินเดียประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 40bps เร็วกว่าที่คาด ในการประชุมนอกรอบ 4 พ.ค.

BF Economic Research ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 40bps ในการประชุมนอกรอบวันที่ 2-4 พ.ค. ที่ผ่านมา เร็วกว่าที่ตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นในการประชุมเดือนมิ.ย. โดยหลังผลการประชุมประกาศออกมาเมื่อวานส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอินเดียอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 7.41% ขณะที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง และค่าเงินรูปีอ่อนค่า  Das ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย กล่าวว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางอินเดียได้พิจารณาถึงแนวโน้มเงินเฟ้อ และมองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม นอกจากนี้ RBI ยังเล็งเห็นว่า การใช้นโยบายการเงินเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์ในปัจจุบันจะช่วยสร้างเสถียรภาพด้านการเงิน ท่ามกลางตลาดการเงินที่ผันผวนในขณะนี้ ในเดือนมี.ค. อัตราเงินเฟ้ออินเดียปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 7%YoY ซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 17 เดือน และเกินเพดานกรอบเป้าหมายของ RBI ที่ 6% มาเป็นเดือนที่สามแล้ว และสูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 6.35%  หากย้อนไปในการประชุม RBI เดือนเม.ย. RBI มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย Repo Rate และ Reverse Repo Rate ไว้ที่ 4.0% และ 3.34% ตามลำดับ แต่ได้มีการนำอัตรา Standing Deposit Facility มาใช้แทน Reverse Repo Rate โดยกำหนดไว้ที่ 3.75% และมีการส่งสัญญาณว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น เนื่องจากหันมาให้ความสำคัญกับการควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นมากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ RBI ได้ปรับประมาณการเงินเฟ้อขึ้นจากเดิม 4.5% เป็น 5.7% สำหรับปีงบประมาณ 2022/23 และปรับลด GDP ลงจาก 7.8% เป็น 7.2%  การปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบาย 40bps นี้ส่งผลให้ปัจจุบัน Repo Rate อยู่ที่ 4.4% และอัตรา Standing Deposit Facility อยู่ที่ 4.15%  และในการประชุมเดือนมิ.ย. นี้มีความเป็นไปได้ที่ RBI จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งหนึ่ง โดยก่อนหน้านี้ตลาดคาดว่าปลายปีดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 4.75-5.0% โดยเรามองว่าเริ่มมีความเป็นไปได้ที่จะขึ้นไปสูงกว่านี้ หากเงินเฟ้อยังยืนเหนือ 6% ต่อเนื่อง   […]