นักวิชาการชี้สหรัฐฯ ต้องตรวจโควิด-19 ให้เร็วขึ้นก่อนที่จะเริ่มเดินเครื่องเศรษฐกิจ
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ดร.โรเบิร์ต โบลิงเกอร์ จากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า สหรัฐฯ จะต้องเพิ่มความสามารถในการตรวจหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ก่อนที่เศรษฐกิจจะสามารถเริ่มเดินเครื่องได้อีกครั้ง เขา กล่าวว่า สหรัฐฯ จำเป็นต้องมีระบบการตรวจที่ทำได้รวดเร็วและดียิ่งขึ้น ในการติดตามผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว รวมถึงผู้ที่ยังไม่ติดเชื้อ หากปรับปรุงเรื่องนี้ได้ รวมถึงยังคงความพยายามเรื่องการมีระยะห่างทางสังคม ก็จะทำให้สหรัฐฯ สามารถเดินเครื่องเศรษฐกิจไปข้างหน้า และกลับมาทำงานได้ โบลิงเกอร์ ยังกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯ เริ่มที่จะมีกระบวนการติดตามผู้ติดต่อต่างๆ แล้ว เช่นที่รัฐแมรี่แลนด์ ซึ่งประกาศออกมาเมื่อวันอังคารว่า จะใช้กลยุทธ์นี้เพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสถานพยาบาล ขณะที่รัฐแมสซาชูเซตส์ก็จับมือกับองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรซึ่งตั้งอยู่ในบอสตัน ในด้านความร่วมมือเกี่ยวกับสุขภาพเพื่อหาคน 1,000 คน เข้าร่วมโปรแกรมการติดตามตัว เขา กล่าวว่า กลยุทธ์การติดตามตัวผู้ที่ตรวจหาแล้วพบว่าติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้า เป็นกลยุทธ์ที่จีนใช้ในการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 “ไวรัสนี้จะไม่ไปไหนจนกว่าเราจะมีวัคซีน ดังนั้นระหว่างทางที่จะไปนี้ เราจะต้องหากลยุทธ์เพื่อรับมือกับมัน เพื่อป้องกันคลื่นลูกต่อไปที่จะเข้ามา” โบลิงเกอร์ กล่าว
ดัชนีหุ้นไทย 7 เม.ย. 63 ปิดตลาด 1,214.95 จุด เพิ่มขึ้น 76.11 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 7 เม.ย. 2563 ปิดตลาดที่ 1,214.95 จุด เพิ่มขึ้น 76.11 จุด หรือ +6.68% โดยระหว่างวันสูงสุดที่ 1,220.67 จุด ต่ำสุดที่ 1,173.14 จุด มูลค่าการซื้อขาย 98,954.92 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.BAM ปิดที่ 23.80 บาท เพิ่มขึ้น 2.70 บาท (+12.80%) มูลค่าการซื้อขาย 9,381.19 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 38.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท (+7.75%) มูลค่าการซื้อขาย 8,124.00 ลบ. 3.AOT ปิดที่ 57.50 บาท […]
จีนเพิ่มโทษพร้อมขึ้นบัญชีดำผู้เดินทางมาจากต่างประเทศแล้วปกปิดข้อมูลสุขภาพ
ไชน่าเดลี รายงานว่า หน่วยงานศุลกากรของจีน ออกมาระบุว่า จีนจะเพิ่มการลงโทษที่รุนแรงขึ้นกับผู้โดยสารที่เดินทางมาจากต่างประเทศแล้วให้ข้อมูลสุขภาพ ประวัติการเดินทางที่บิดเบือนหรือไม่เป็นจริง ถือเป็นส่วนหนึ่งของการยับยั้งการนำเข้าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ที่มาจากผู้เดินทางจากต่างประเทศ Song Yueqian รองผู้อำนวยการ กรมควบคุมโรคของจีน ระบุว่า คนส่วนใหญ่ที่เดินทางเข้าจีนรายงานอาการสุขภาพของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา แต่ก็ยังมีบางกรณีที่ปกปิดประวัติการเดินทางไปยังประเทศที่กำลังถูกไวรัสโจมตีอย่างหนัก การรับประทานยาก่อนที่จะเข้าประเทศ รวมทั้งการปกปิดอาการไข้และไอ ทั้งนี้ หน่วยงานศุลากร จะปรับไม่ต่ำกว่า 30,000 หยวน หรือ 4,230 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับผู้ที่ละเมิด และบุคคลที่ละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรง รวมถึงข้อบังคับจะถูกส่งตัวให้เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายจัดการต่อไป นอกจากนี้ ผู้ที่ละเมิดจะถูกขึ้นบัญชีดำโดยกรมศุลกากร ส่วนทรัพย์สินของพวกเขาและผู้เดินทางที่ติดตามไปด้วยจะถูกแยกออกมาเพื่อตรวจสอบ ส่วนจดหมายและสิ่งของที่ส่งมาด้วยก็จะถูกแยกออกมาเพื่อตรวจสอบเช่นกัน ในกรณีที่ผู้ละเมิดเป็นตัวแทนกฎหมายหรือเจ้าหน้าที่บริหารขององค์กรที่บริหารจัดการโดยหน่วยงานศุลกากร ผู้ละเมิดเหล่านี้จะถูกพิจารณาประเมินความน่าเชื่อถือของบริษัท เขา กล่าวว่า หน่วยงานศุลกากรจะรายงานเกี่ยวกับผู้ละเมิดไปยังหัวหน้างานหรือนายจ้าง หากพวกเขาเหล่านั้นเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือทำงานให้กับองค์กรที่รัฐเป็นผู้ถือหุ้น ไม่เพียงเท่านี้ หน่วยงานจะนำพฤติกรรมผิดกฎหมายเผยแพร่บนเว็บไซต์ศุลกากร และสื่อ นอกจากนี้ข้อมูลจะถูกส่งต่อให้หน่วยงานท้องถิ่นเพื่อลงโทษเพิ่มเติมด้วย
CPI ไทยเดือน มี.ค. -0.54% YoY (vs prev 0.74%YoY) จากราคาพลังงาน พาณิชย์คาดทั้งปี -0.6%
BF Economic Research อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เดือน มี.ค. -20 อยู่ที่ 101.8 vs. prev 102.7 หรือ -0.54%YoY (vs. prev.0.74%YoY) เมื่อเทียบรายเดือน -0.86%MoM (vs. prev.-0.08%MoM) YTD: 0.41% (vs. prev.0.89%) อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมอาหารและน้ำมัน) อยู่ที่ 0.54%YoY (vs. prev.0.58%YoY) เมื่อเทียบรายเดือน -0.02%MoM (vs. prev.0.09%MoM) ราคาอาหาร (36% ของตะกร้าสินค้า) อยู่ที่ 1.58%YoY (vs. prev.2.04%YoY) ,เมื่อเทียบรายเดือน -0.25%MoM (vs. prev.0.36%MoM) ราคาสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร (64% ของตะกร้าสินค้า) อยู่ที่ -1.74%YoY […]
รัฐบาลทรัมป์เข้าไปครอบงำเฟด ?
สภาคองเกรสของสหรัฐฯ ได้ผ่านกฎหมาย Coronavirus Aid, Relief, and Economic Security (CARES) Act ซึ่งจะมีการใช้เงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการอุ้มเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผู้ที่จะได้รับส่วนแบ่งชิ้นใหญ่ของเงินช่วยเหลือ คือ บริษัทขนาดใหญ่ โดยไม่มีเงื่อนไขผูกพันอะไรมาก นอกเหนือไปจากนั้นธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ได้ตั้งวงเงิน 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยธนาคาร เฮดจ์ฟันด์ และสถาบันการเงินต่างๆ หลังจากที่ได้ลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 0% นอกจากนี้ยังตั้งวงเงิน 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเสริมสภาพคล่องในตลาดซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาล เฟดได้ประกาศว่าจะทำคิวอี โดยไม่มีเพดานจำกัด เพื่อให้ตลาดเดินหน้าต่อไปได้อย่างไม่ติดขัด ผ่านการซื้อพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ที่มีทรัพย์สินอสังหาฯ ค้ำประกัน ในเดือนที่ผ่านมา เฟดซื้อพันธบัตรรัฐบาลไปแล้ว 650,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ งบดุลของเฟดได้ขยายตัวไป 5.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการกอบกู้เศรษฐกิจคร้ังนี้ ได้เห็นความร่วมมือระหว่างเฟด และกระทรวงการคลังเป็นครั้งแรก ที่จำเป็นต้องเข้าไปอุ้มตลาดการเงินที่มูลค่าตกต่ำลงจากวิกฤติโควิด-19 ปัญหาคือเฟดมีข้อบังคับว่า […]
การจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payrolls) สหรัฐฯ เดือน มี.ค. ลดลง -7.01 แสนราย ขณะที่ ธนาคารกลางจีน (PBoC) ประกาศลดอัตราส่วนเงินกันสำรองขั้นต่ำ (RRR) สำหรับธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและเล็ก
BF Economic Research การจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน มี.ค. ลดลง -7.01 แสนราย โดยนับเป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010 จากผลกระทบของ COVID-19 ที่กดดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ โดยเฉพาะในภาคบริการ ตัวเลขการจ้างงานในเดือน ม.ค.-ก.พ. ถูกปรับลดลงรวมกัน 5.7 หมื่นราย (ปรับเพิ่ม 2 พันรายในเดือน ก.พ. และปรับลด 5.9 หมื่นรายในเดือน ม.ค.) การจ้างงานภาคเอกชนลดลง -7.13 แสนราย (vs. เพิ่มขึ้น 2.42 แสนรายในเดือนก่อน) โดยปรับลดลงแรงสุดในกลุ่มโรงแรมและการท่องเที่ยว (ลดลง -4.59 แสนราย) ขณะที่การจ้างงานภาครัฐเพิ่มขึ้น 1.2 หมื่นราย ส่วนหนึ่งเพื่อจัดทำผลสำรวจสำมะโนประชากร (Census survey) ด้านรายอุตสาหกรรม การจ้างงานภาคบริการลดลง -6.59 […]
ธนาคารกลางมาเลเซียคาดการณ์เศรษฐกิจในประเทศปีนี้ -2% ไปจนถึงโตแค่ 0.5%
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า ธนาคารกลางมาเลเซีย ออกมาระบุว่า เศรษฐกิจมาเลเซียอาจหดตัวลงไป -2% หรือเติบโตอย่างมากแค่ 0.5% ในปีนี้ อันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ซึ่งถือเป็นภาวะเศรษฐกิจที่แย่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ทั้งนี้ มาเลเซียพบจำนวนผู้ติดเชื้อสูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 3,100 คน และเสียชีวิตไปมากกว่า 50 คน และอยู่ในช่วงที่มีข้อจำกัดการเดินทางท่องเที่ยวหรือการติดต่อธุรกิจที่ไม่จำเป็น ซึ่งมีผลกระทบต่อการค้าและการท่องเที่ยว “โดยรวมแล้วมีความเสี่ยงที่การเติบโตของในประเทศจะมีแนวโน้มไปทางขาลง หลักๆ แล้วก็มาจากความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ขยายวงกว้างขึ้น และมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งในประเทศและทั่วโลก” แถลงการณ์ของธนาคารกลางมาเลเซีย เผยแพร่ในรายงานประจำปี สำหรับมาเลเซีย เป็นประเทศที่เศรษฐกิจมีขนาดใหญ่อันดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจากรายงานครั้งล่าสุดการเติบโตของเศรษฐกิจมาเลเซียเคยต่ำกว่า 0% เมื่อปี 2009 ในช่วงที่เกิดวิกฤติการเงินโลก ขณะที่เศรษฐกิจปีที่ผ่านมาเติบโต 4.3% ธนาคารกลางมาเลเซีย เผยว่า ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ว่าจะเฉลี่ยอยู่ระหว่าง -1.5% จนถึง 0.5% ในปีนี้ ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 0.7% […]
BEQSSF News Update Press Release
กองทุนบัวหลวงเผยกองทุน ‘BEQSSF’ กระแสตอบรับดี พร้อมเสนอขายต่อ 7-8 เม.ย. แนะนำลงทุนหุ้น 10 ปี มีโอกาสให้ผลตอบแทนคุ้มค่า
นักลงทุนให้การตอบรับกองทุน ‘BEQSSF’ ของกองทุนบัวหลวงเป็นอย่างดี นับตั้งแต่วันแรกที่เสนอขาย ทั้งสามารถลงทุนในช่วง IPO ต่อเนื่องได้อีก 2 วัน คือ 7-8 เม.ย. นี้ พร้อมให้คำแนะนำการลงทุนในหุ้น 10 ปีมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า หากเงินพร้อม ใจพร้อม มองไกล เชื่อมั่นเมืองไทย วางใจกองทุนบัวหลวง ก็ลงทุนใน SSF พิเศษได้เลย นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า จากการเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) “กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นไทยเพื่อการออม” หรือ ‘BEQSSF’ ไปแล้ว 3 วัน คือ ช่วงวันที่ 1-3 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา […]
ดัชนีหุ้นไทย 3 เม.ย. 63 ปิดตลาด 1,138.84 จุด เพิ่มขึ้น 0.57 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 เม.ย. 2563 ปิดตลาดที่ 1,138.84 จุด เพิ่มขึ้น 0.57 จุด หรือ +0.05% โดยระหว่างวันสูงสุดที่ 1,156.59 จุด ต่ำสุดที่ 1,130.54 จุด มูลค่าการซื้อขาย 59,760.26 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 35.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท (+5.19%) มูลค่าการซื้อขาย 9,502.33 ลบ. 2.PTTEP ปิดที่ 79.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.75 บาท (+4.98%) มูลค่าการซื้อขาย 4,784.96 ลบ. 3.BAM ปิดที่ 21.10 บาท […]
ดัชนีหุ้นไทย 2 เม.ย. 63 ปิดตลาด 1,138.27 จุด เพิ่มขึ้น 32.76 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 เม.ย. 2563 ปิดตลาดที่ 1,138.27 จุด เพิ่มขึ้น 32.76 จุด หรือ +2.96% โดยระหว่างวันสูงสุดที่ 1,142.47 จุด ต่ำสุดที่ 1,105.31 จุด มูลค่าการซื้อขาย 69,237.21 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 33.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท (+11.57%) มูลค่าการซื้อขาย 7,735.46 ลบ. 2.BAM ปิดที่ 21.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท (+4.41%) มูลค่าการซื้อขาย 4,924.45 ลบ. 3.PTTEP ปิดที่ 75.25 บาท […]