กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ภาครัฐ (B-TREASURY)

กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ภาครัฐ (B-TREASURY)

ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ ประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่มีท่าทีที่ผ่อนคลายขึ้น โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงในเบื้องต้น (First Phase of Trade Deal) อันจะส่งผลให้สหรัฐฯ มีการยกเลิกแผนการจัดเก็บภาษีนำเข้า 30% บนสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่ารวม 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่จีนจะนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มูลค่ารวม 40,000-50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงจะทบทวนนโยบายการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และการบริหารจัดการด้านอัตราแลกเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ด้านสหรัฐฯ ผลการประชุมเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2562 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติ 8-2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps เป็น 1.50%-1.75% ตามที่ตลาดคาด นับเป็นการปรับดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 3 รวม 75bps ท่ามกลางความเสี่ยงจากพัฒนาการเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันเงินเฟ้อที่อ่อนแอ ในแถลงการณ์การประชุมรอบนี้ FED ได้นำประโยคที่ว่า “จะปรับเปลี่ยนนโยบายให้มีความเหมาะสมเพื่อหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อ” ออกจากแถลงการณ์หลังการประชุม ซึ่งอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า […]

กองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี (B-TNTV)

กองทุนเปิดบัวหลวงธนทวี (B-TNTV)

ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ ประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่มีท่าทีที่ผ่อนคลายขึ้น โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงในเบื้องต้น (First Phase of Trade Deal) อันจะส่งผลให้สหรัฐฯ มีการยกเลิกแผนการจัดเก็บภาษีนำเข้า 30% บนสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่ารวม 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่จีนจะนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มูลค่ารวม 40,000-50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงจะทบทวนนโยบายการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และการบริหารจัดการด้านอัตราแลกเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ด้านสหรัฐฯ ผลการประชุมเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2562 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติ 8-2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps เป็น 1.50%-1.75% ตามที่ตลาดคาด นับเป็นการปรับดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 3 รวม 75bps ท่ามกลางความเสี่ยงจากพัฒนาการเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันเงินเฟ้อที่อ่อนแอ ในแถลงการณ์การประชุมรอบนี้ FED ได้นำประโยคที่ว่า “จะปรับเปลี่ยนนโยบายให้มีความเหมาะสมเพื่อหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อ” ออกจากแถลงการณ์หลังการประชุม ซึ่งอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า […]

กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (BFRMF)

กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (BFRMF)

ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ ประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่มีท่าทีที่ผ่อนคลายขึ้น โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงในเบื้องต้น (First Phase of Trade Deal) อันจะส่งผลให้สหรัฐฯ มีการยกเลิกแผนการจัดเก็บภาษีนำเข้า 30% บนสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่ารวม 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่จีนจะนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มูลค่ารวม 40,000-50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงจะทบทวนนโยบายการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และการบริหารจัดการด้านอัตราแลกเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ด้านสหรัฐฯ ผลการประชุมเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2562 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติ 8-2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps เป็น 1.50%-1.75% ตามที่ตลาดคาด นับเป็นการปรับดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 3 รวม 75bps ท่ามกลางความเสี่ยงจากพัฒนาการเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันเงินเฟ้อที่อ่อนแอ ในแถลงการณ์การประชุมรอบนี้ FED ได้นำประโยคที่ว่า “จะปรับเปลี่ยนนโยบายให้มีความเหมาะสมเพื่อหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อ” ออกจากแถลงการณ์หลังการประชุม ซึ่งอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า […]

กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ (BFIXED)

กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ (BFIXED)

ประเด็นเด่นในตลาดตราสารหนี้ ประเด็นเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ที่มีท่าทีที่ผ่อนคลายขึ้น โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงในเบื้องต้น (First Phase of Trade Deal) อันจะส่งผลให้สหรัฐฯ มีการยกเลิกแผนการจัดเก็บภาษีนำเข้า 30% บนสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่ารวม 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่จีนจะนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มูลค่ารวม 40,000-50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงจะทบทวนนโยบายการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา และการบริหารจัดการด้านอัตราแลกเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมมากขึ้น ด้านสหรัฐฯ ผลการประชุมเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2562 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติ 8-2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps เป็น 1.50%-1.75% ตามที่ตลาดคาด นับเป็นการปรับดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 3 รวม 75bps ท่ามกลางความเสี่ยงจากพัฒนาการเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันเงินเฟ้อที่อ่อนแอ ในแถลงการณ์การประชุมรอบนี้ FED ได้นำประโยคที่ว่า “จะปรับเปลี่ยนนโยบายให้มีความเหมาะสมเพื่อหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อ” ออกจากแถลงการณ์หลังการประชุม […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 พ.ย. 62 ปิดตลาดที่ 1,609.38 จุด ลดลง 5.42 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 พ.ย. 62 ปิดตลาดที่ 1,609.38 จุด ลดลง 5.42 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 26 พ.ย. 2562 ปิดตลาดที่ 1,609.38 จุด ลดลง 5.42 จุด หรือ -0.34% โดยระหว่างวันดัชนีสูงสุดที่ 1,620.60จุด ต่ำสุดที่ 1,608.64 จุด มูลค่าการซื้อขาย 87,951.52 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.GPSC ปิดที่ 86.50 บาท ลดลง -2.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 7,052.28 ลบ. 2.BGRIM ปิดที่ 54.00 บาท ลดลง -2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,066.47 ลบ. 3.OSP ปิดที่ 41.25 บาท ลดลง -1.25 บาท […]

เซี่ยงไฮ้ขึ้นแท่นปลายทางการลงทุนอสังหาริมทรัพย์สำคัญที่สุดของจีน

เซี่ยงไฮ้ขึ้นแท่นปลายทางการลงทุนอสังหาริมทรัพย์สำคัญที่สุดของจีน

รายงานข่าวจากไชน่าเดลี ระบุว่า เซี่ยงไฮ้ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของจีนและเป็นประตูสำหรับนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุน รายงานการคาดการณ์อสังหาริมทรัพย์ล่าสุดที่ชื่อว่า  Emerging Trends in Real Estate Asia-Pacific 2020 จัดทำโดย Urban Land Institute (ULI) ร่วมกับ PwC  ระบุว่า เซี่ยงไฮ้ยังคงสถานะเป็นจุดหมายปลายทางที่นักลงทุนชื่นชอบ สมกับฐานะที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของจีน โดยสรุปเป็นเมืองที่มีข้อตกลงข้ามพรมแดนมากที่สุดในประเทศ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับไปลงทุนที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน แม้จะมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐก็ตาม โดยสถาบันระดับโลกเลือกที่จะกระจายพอร์ตไปยังเซี่ยงไฮ้ และยกให้เป็นปลายทางที่น่าสนใจของพวกเขา รายงานยังระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ปริมาณธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ของจีนสูงเป็นประวัติการณ์แตะ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเซี่ยงไฮ้สร้างรายได้รวมทั้งสิ้น 1.09 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จนทำให้เซียงไฮ้กลายเป็นเมืองที่มีสภาพคล่องมากเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากนิวยอร์ก โตเกียว และปารีส ขณะที่ จำนวนและขนาดของธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตรงกันข้ามกับเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากก่อนนี้นักลงทุนต่างชาติมักจะประสบปัญหาในการลงนามทำสัญญาในเมืองใหญ่ๆ ของจีน

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 พ.ย. ปิดตลาดที่ 1,614.80 จุด เพิ่มขึ้น 17.08 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 พ.ย. ปิดตลาดที่ 1,614.80 จุด เพิ่มขึ้น 17.08 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 25 พ.ย. 2562 ปิดตลาดที่ 1,614.80 จุด เพิ่มขึ้น 17.08 จุด หรือ +1.07%  ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,614.80 จุด ต่ำสุดที่ 1,601.76 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,419.83 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.KBANK ปิดที่ 156.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท (+1.96%) มูลค่าการซื้อขาย 2,671.87 ลบ. 2.TRUE ปิดที่ 4.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท (+3.30%) มูลค่าการซื้อขาย 2,377.13 ลบ. 3.PTT ปิดที่ 43.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท (0.58%) มูลค่าการซื้อขาย 1,682.96 ลบ. 4.SCC ปิดที่ 393.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท (+1.55%) มูลค่าการซื้อขาย 1,578.12 ลบ. 5.BGRIM ปิดที่ 56.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท (+3.23%) มูลค่าการซื้อขาย 1,410.44 ลบ.

มาเลเซียตั้งเป้าหมายเอสเอ็มอีเกือบทั้งประเทศจะเปลี่ยนสู่การทำธุรกรรมไร้เงินสดภายในปี 2022

มาเลเซียตั้งเป้าหมายเอสเอ็มอีเกือบทั้งประเทศจะเปลี่ยนสู่การทำธุรกรรมไร้เงินสดภายในปี 2022

นิว สเตรทไทม์ส รายงานว่า องค์กรวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ของมาเลเซีย คาดการณ์ว่า เอสเอ็มอีเกือบทั้งหมดจะใช้ประโยชน์จากการชำระเงินดิจิทัลหรือการทำธุรกรรมไร้เงินสดภายในปี 2022 Noor Azmi Mat ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร องค์กรเอสเอ็มอีของมาเลเซีย กล่าวว่า หน่วยงานพยายามอย่างหนักในการร่วมมือกับธนาคารนำเสนอการทำกิจกรรมด้านการธนาคาร ที่มีลักษณะทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์เพื่อทำให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพและความสามารถในการผลิตที่ดีขึ้น “การชำระเงินแบบไร้เงินสด เป็นขั้นตอนแรกของการนำไปสู่ดิจิทัล โดย ธนาคาร RHB เพิ่งนำเสนอโปรแกรมเชื่อมต่อการทำงานร่วมกันระหว่างแอปพลิเคชัน หรือ แอปพลิเคชัน โปรแกรมมิ่ง อินเตอร์เฟซ (เอพีไอ) เพื่อให้เอสเอ็มอีเข้าถึงระบบการชำระเงินอัตโนมัติ” Azmi กล่าว ทั้งนี้ การเข้าใช้งานดังกล่าวจะทำให้เอสเอ็มอีได้รับบันทึกทางการเงินโดยอัตโนมัติ เพราะแอปพลิเคชันจะเก็บข้อมูลธุรกรรมทั้งหมดเอาไว้ ช่วยแก้ปัญหาของเอสเอ็มอีเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูลกิจกรรมที่ทำได้ นอกจากนี้ยังช่วยธุรกิจในการไปสู่ดิจิทัล เปิดโอกาสใหม่ ให้กับเอสเอ็มอี โดยคาดว่า การไปสู่ดิจิทัลของเอสเอ็มอีจะใช้เวลา 2-3 ปี หรืออาจพูดได้ว่าในช่วงเวลานั้น เอสเอ็มอีเกือบทั้งหมดจะใช้การชำระเงินแบบไร้เงินสดแล้ว  

กองทุนบัวหลวง ชวนลงทุนผ่านกองทุน LTF 4 สไตล์ที่โดนใจ โดยให้คาดหวังผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว มากกว่าแค่ประหยัดภาษี

กองทุนบัวหลวง ชวนลงทุนผ่านกองทุน LTF 4 สไตล์ที่โดนใจ โดยให้คาดหวังผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว มากกว่าแค่ประหยัดภาษี

กองทุนบัวหลวง นำเสนอกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) 4 สไตล์ ได้แก่ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว (B-LTF) กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25 (BLTF75) กองทุนเปิดบัวหลวงทศพลหุ้นระยะยาว (B-TOPTENLTF) และกองทุนเปิดบัวหลวงปัจจัย 4 หุ้นระยะยาวปันผล (BBASICDLTF) ทั้ง 4 กองทุนนี้เป็นทางเลือก เพื่อมอบโอกาสในการสะสมผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นไทยในระยะยาว พร้อมให้คำมั่นบริหารกองต่อไปอย่างดี เพื่อคนไทยที่มอบความไว้ใจให้ดูแลเงินใน LTF กว่าแสนล้านบาท นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ Head of Business Distribution บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) เปิดเผยว่า ช่วงปลายปี 2562 นี้ หากนักลงทุนกำลังมองหากองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เพื่อลงทุน ทั้งคาดหวังผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว มากกว่าแค่การประหยัดภาษี โดยปีนี้เป็นปีสุดท้าย ก็สามารถลงทุนได้กับกองทุนบัวหลวง ซึ่งมี LTF ให้เลือกถึง […]

ดัชนีหุ้นไทย 22 พ.ย. ปิดตลาด 1,597.72 จุด เพิ่มขึ้น 5.86 จุด

ดัชนีหุ้นไทย 22 พ.ย. ปิดตลาด 1,597.72 จุด เพิ่มขึ้น 5.86 จุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 22 พ.ย. 2562 ปิดตลาดที่ 1,597.72 จุด เพิ่มขึ้น 5.86 จุด หรือ +0.37%  ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,599.49 จุด ต่ำสุดที่ 1,591.18 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,224.48 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.ADVANC ปิดที่ 220.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 2,040.07 ลบ. 2.KBANK ปิดที่ 153.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท (+2.34%) มูลค่าการซื้อขาย 1,667.45 ลบ. 3.CPALL ปิดที่ 75.25 บาท ลดลง 0.25 บาท (-0.33%) มูลค่าการซื้อขาย 1,603.19 ลบ. 4.BDMS ปิดที่ 24.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท (+0.83%) มูลค่าการซื้อขาย 1,497.16 ลบ. 5.SCB ปิดที่ 118.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท (+0.85%) มูลค่าการซื้อขาย 1,388.82 ลบ.