Asia B-ASIA B-ASIARMF Product Update
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชีย (B-ASIA) กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชียเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-ASIARMF)
Highlight ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองเชิงบวกกับอินโดนีเซีย เพราะส่งสัญญาณการฟื้นตัวแข็งแกร่ง และราคาหุ้นยังปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก จึงมีแนวโน้มที่ดีในปีนี้ ผู้จัดการกองทุนหลักมีมุมมองต่อเงินเฟ้อของประเทศในเอเชียว่าไม่น่ากังวล เนื่องจากเศรษฐกิจส่วนใหญ่อยู่ในระหว่างการฟื้นตัวจากโควิด-19 อัตราการฉีดวัคซีนมีความคืบหน้า ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละประเทศ ดัชนี MSCI Asia ex Japan มี P/E (ปี 2022) อยู่ที่ 13.6 เท่า และ P/B 1.6 เท่า แม้ว่าตลาดจะยังคงมีความผันผวน แต่ผู้จัดการกองทุนยังเห็นโอกาสในการลงทุนในหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น และมีโอกาสเติบโตในระยะยาวต่อไป ในด้านตลาดหุ้นของแต่ละประเทศในเอเชีย ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองเชิงบวกกับอินโดนีเซีย เพราะส่งสัญญาณการฟื้นตัวแข็งแกร่ง และราคาหุ้นยังปรับเพิ่มขึ้นไม่มากนัก จึงมีแนวโน้มที่ดีในปีนี้ ในขณะที่ไต้หวันซึ่งตลาดปรับเพิ่มขึ้นมามากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เมื่อมองไปข้างหน้าอัตราการเติบโตอาจจะชะลอตัวลง แม้ว่าจะมีมุมมองบวกต่อบริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC แต่จากอัตราการเติบโตที่อาจจะชะลอตัว ผู้จัดการกองทุนจึงขายทำกำไรและลดน้ำหนักในตลาดหุ้นไต้หวัน ตลาดหุ้นอินเดีย ยังคงมีแรงกดดันจากโควิด และเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆในเอเชียแล้ว ถือว่า Valuation สูงกว่าประเทศอื่น ผู้จัดการกองทุนจึงลดน้ำหนักและมีความระมัดระวังในการลงทุน และจากสถานการณ์ยูเครนกับรัสเชียทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ราคาสูงขึ้น […]
พร้อมแล้วหรือยัง ? กับการเติบโตของ “หุ้นกลุ่มเอเชีย”
เมื่อ “ความกังวลใจ” ของนักลงทุน เป็นผลมาจาก “สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง” อยู่ตลอดเวลา ทำให้นักลงทุนไม่กล้าตัดสินใจเข้าไปในโลกของการลงทุน เหตุผลส่วนหนึ่งมาจาก “ความกลัว” จากการที่เฟดได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ย แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางเฟดประกาศขึ้นดอกเบี้ย ฉะนั้น เรื่องนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลใจมากนัก หากจะมองหาโอกาสการลงทุนในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ “ตลาดเอเชีย” เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ BBLAM ได้ทำการ Check สุขภาพประจำปี ในแถบ “เอเชีย” โดยวิเคราะห์ 3 ปัจจัย ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อ สำหรับครั้งนี้ปัญหาเรื่องเงินเฟ้อ นับเป็นที่น่ากังวลใจของฝั่งตะวันตกมากกว่าฝั่งเอเชีย อย่างไทยเราในสิ้นปีนี้ คาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 2.2% เวียดนาม 2.6% อินโดนีเซีย 3.1% และอินเดียที่มีเงินเฟ้อสูง 5.5% แต่หากเทียบกับปี 2013 ที่สูงถึง 9.9% นั้น ครั้งนี้ก็ถือว่าต่ำอยู่มาก ดุลการค้า หากมองดูที่ตัวเลขการส่งออก และอัตราการเติบโตของดุลการค้า จะพบว่า ประเทศเวียดนาม […]
เอเชียมีต้นทุนกว่า 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อไปสู่การขนส่งปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์
CNBC รายงานว่า ING ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ ออกรายงานว่า ประเทศในเอเชียที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุด 3 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จะต้องใช้จ่ายกว่า 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อไปถึงเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ในภาคการขนส่ง จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีสัดส่วน 2 ใน 3 ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดในเอเชียแปซิฟิก และคิดเป็น 1 ใน 3 ของการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วโลก ทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ต่างมีเป้าหมายปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ส่วนจีนตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2060 โดยการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ หมายถึงการจำกัดก๊าซเรือนกระจกที่ออกสู่ชั้นบรรยากาศมากกว่าที่ผลิตออกมา Robert Carnell หัวหน้าฝ่ายวิจัย เอเชียแปซิฟิก และเป็นผู้เขียนรายงานฉบับนี้ของ ING กล่าวว่า ต้นทุน 12.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะเท่ากับ มากกว่า 90% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ […]
แมทช์ กรุ๊ป ธุรกิจหาคู่ยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ ลุยซื้อกิจการในเกาหลีใต้หวังรุกตลาดเอเชีย
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า บริษัท แมทช์ กรุ๊ป ตกลงที่จะซื้อบริษัท ไฮเปอร์คอนเน็ก ซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์เกาหลีใต้ที่ได้รับการสนับสนุนจากซอฟต์แบงก์ ด้วยเงินลงทุน 1,730 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแมทช์ กรุ๊ป เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มทินเดอร์ และฮินจ์ แอปพลิเคชันด้านการหาคู่ จากสหรัฐฯ ที่กำลังมองหาแนวทางที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสานสัมพันธ์กับเพื่อนข้ามภูมิภาคได้ บริษัท แมทช์ กรุ๊ป ประกาศการตกลงนี้วันอังคารที่ผ่านมา เป็นข้อตกลงการซื้อกิจกรครั้งใหญ่ที่สุดของแมทช์ กรุ๊ป ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมีผู้ใช้งานมากขึ้นหลังมีข้อเสนอพิเศษท่ามกลางโควิด-19 แพร่ระบาด ด้วยการเพิ่มคุณสมบัติใหม่มากมาย ขณะที่ ไฮเปอร์คอนเน็ก มีฐานธุรกิจอยู่ในกรุงโซล เกาหลีใต้ เปิดตัวเมื่อปี 2014 และนำเสนอแอปหลัก 2 แอป คือ Azar และ Hakuna Live โดยในส่วนของ Azar มีจำนวนการดาวน์โหลด 540 ล้านครั้ง เป็นแอปที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานเชื่อมต่อกับผู้อื่นที่อยู่ทั่วโลก และยังมีการช่วยแปลเสียงและข้อความให้แบบทันที ส่วน Hakuna […]
จีนย้ำเป้าหมายปีนี้กระตุ้นจ้างงานเน้นพื้นที่ชนบทตั้งเป้ารองรับ 11 ล้านคน
ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ครั้งที่ 13 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พบว่า จีนให้ความสำคัญกับประเด็นการจ้างงานอย่างมาก โดยมองว่าเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่จะผลักดันให้การขยายตัวของเศรษฐกิจจะอยู่ในกรอบที่ 6 – 6.5% นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน โดยระบุว่า การกระตุ้นการจ้างงานถือเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้จีนกำหนดกรอบเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจเอาไว้ที่ 6 – 6.5% และตั้งเป้าหมายในปีนี้ว่า จะมีการสร้างงานในพื้นที่ชนบทสำหรับประชากร 11 ล้านคน นายหลี่ กล่าวว่า รัฐบาลได้ยกระดับความสำคัญของนโยบายการจ้างงาน เนื่องจากเล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดแรงงาน โดยมีหลักฐานบ่งชี้ว่าอัตราว่างงานกำลังปรับตัวสูงขึ้น และข้อมูลของทางการจีนก็ยืนยันในเรื่องนี้ ทั้งนี้ อัตราว่างงานเดือนก.พ.ของจีนพุ่งขึ้นแตะระดับ 5.3% จากระดับ 4.9% ในเดือน ธ.ค. 2018
9 ประเทศเอเชียครองเศรษฐกิจใหญ่ติด 25 อันดับแรกของโลกใน 15 ปีข้างหน้า
ไชน่าเดลี รายงานว่า เศรษฐกิจเอเชียจะยังเป็นกำลังสำคัญของการเติบโตในอีก 15 ปีข้างหน้า โดยจีนวางแผนแล้วว่าจะแซงหน้าสหรัฐกลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกให้ได้ภายในปี 2032 ซึ่งข้อมูลนี้อ้างอิงมาจาก World Economic League ที่ตีพิมพ์ประจำทุกปีโดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ หรือ CEBR ในกรุงลอนดอน ทั้งนี้ จากตารางตัวเลขในรายงานฉบับนี้ สะท้อนว่า ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ 3 ใน 5 อันดับแรกของโลกในปี 2033 จะเป็นประเทศในเอเชีย โดยจีนครองอันดับหนึ่ง อินเดีย อันดับ 3 และญี่ปุ่น อยู่ในอันดับ 4 ขณะที่สหรัฐ อยู่ในอันดับที่ 2 และเยอรมนี อยู่ในอันดับที่ 5 สำหรับเศรษฐกิจของประเทศอื่นในเอเชียก็จะเติบโตต่อเนื่องในช่วงเวลา 15 ปีจากนี้ โดยเกาหลีใต้ จะกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับที่ 10 อินโดนีเซีย อันดับที่ 12 ไทยอันดับที่ 21 ฟิลิปปินส์ […]
อินเดียจะครองอันดับ 3 ตลาดการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกปี 2037
สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือ IATA ระบุว่า ภายในปี 2037 อินเดียจะเป็นตลาดการบินที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลกรองจากจีนและสหรัฐ โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารมากกว่า 572 ล้านคนที่เดินทางไปอินเดียหรือเดินทางออกจากอินเดียเลยทีเดียวในปีนั้น การเดินทางทางอากาศที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลนั้น ก็เป็นผลจากเส้นทางที่เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันอินเดียมีเส้นทางบินในประเทศถึง 700 เส้นทาง เพิ่มขึ้น 50% จากเมื่อปี 2015 ขณะที่ค่าเดินทางก็ลดลง หลังจากมีการปรับให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ ค่าโดยสารเฉลี่ยก็ลดลงมากกว่า 70% เมื่อเทียบกับปี 2005 ส่วนเส้นทางบินระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 304 เส้นทาง จาก 203 เส้นทางเมื่อ 10 ปีก่อนหน้า Suresh Prabhu รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการบินพลเรือนของอินเดีย กล่าวกับ IATA ไว้ว่า การเดินทางภายในประเทศของอินเดียกำลังเติบโต เป็นผลจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ส่วนการท่องเที่ยวระหว่างประเทศก็จะเติบโตเช่นกัน เพราะการเพิ่มขึ้นของการเชื่อมโยงทางธุรกิจ ซึ่งรัฐบาลก็จะทำงานร่วมกับทุกสายการบินเพื่อทำความเข้าใจในประเด็นที่ยังเป็นอุปสรรค จะได้ปรับปรุงนโยบายเพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้
เอดีบีมองตลาดพันธบัตรเอเชียตะวันออกเผชิญความเสี่ยงระยะสั้นแต่จะก้าวข้ามไปได้
ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ได้ออกรายงานการติดตามตลาดพันธบัตรเอเชีย หรือ Asia Bond Monitor ฉบับล่าสุด ระบุว่า ตลาดพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นของตลาดเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง แต่คาดว่าภูมิภาคนี้จะก้าวข้ามความท้าทายไปได้ หากดำเนินนโยบายและวางแผนนโยบายอย่างระมัดระวัง สำหรับความเสี่ยงระยะสั้น ได้แก่ การหลีกเลี่ยงความเสี่ยงโดยรวมอันเกิดจากตลาดเกิดใหม่ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่เร็วกว่าคาดการณ์ไว้ ความตึงเครียดทางการค้าที่บานปลาย สถานการณ์สภาพคล่องที่ตึงตัวซึ่งเป็นปัจจัยทำให้ความเสี่ยงจากระดับหนี้ภาคเอกชนเพิ่มขึ้นรวดเร็วของภูมิภาคในช่วงหลายปีมานี้รุนแรงกว่าที่ควรจะเป็น การอ่อนตัวของค่าเงินในภูมิภาคและการไหลออกของเงินทุนเป็นปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินของภูมิภาค “ข้อกังวลเกี่ยวกับตลาดเกิดใหม่เริ่มเห็นชัดเจนขึ้น แต่รากฐานที่แข็งแรงของภูมิภาคเอเชียจะดึงดูดให้นักลงทุนหันกลับมาลงทุนในตลาดพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นของภูมิภาค ทั้งนี้ผู้วางแผนนโยบายของภูมิภาคจะต้องติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือวิกฤติที่อาจเกิดขึ้นเสมอ” นายยาซูยูกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบี กล่าว ทั้งนี้ ตลาดพันธบัตรของตลาดเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออก ไตรมาสที่ 3 ขยายตัว 4.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 โดยมีมูลค่า 12.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา สูงกว่าอัตราการเติบโตในไตรมาส 2 ซึ่งขยายตัว 3.2% มีปัจจัยเกื้อหนุนสำคัญจากการออกพันธบัตรของการปกครองท้องถิ่นของรัฐบาลจีน สำหรับลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยประเทศจีนมีตลาดพันธบัตรที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ของเอเชียตะวันออก สิ้นเดือน […]
Asia B-ASIA B-ASIARMF BF Knowledge Center Uncategorized
คว้าโอกาสการเติบโตของภูมิภาคเอเชียไปกับ B-ASIA
คว้าโอกาสการเติบโตของภูมิภาคเอเชียไปกับ B-ASIA โดย…ศรศักดิ์ สร้อยแสงจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชีย หรือ B-ASIA เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศประเภท Feeder Fund ซึ่งลงทุนในกองทุนหลักชื่อ Invesco Asian Equity Fund โดยมีนโยบายลงทุนในหุ้นของบริษัทดังนี้ บริษัทที่จดทะเบียนในประเทศที่อยู่ในเอเชีย บริษัทที่จดทะเบียนในประเทศที่อยู่นอกเอเชียแต่ดำเนินธุรกิจหลักในเอเชีย บริษัทโฮลดิ้งที่มีการลงทุนหลักในบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศที่อยู่ในเอชีย ทั้งนี้ไม่รวม ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จุดเด่นของหุ้นเอเชีย เอเชียมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงกว่าภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะจีนและอินเดีย รวมทั้งกลุ่มประเทศอาเซียน โดยมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ นโยบายการปฏิรูปทางเศรษฐกิจของรัฐบาลหลายประเทศมีส่วนสำคัญในการผลักดันการพัฒนาซึ่งนำไปสู่การเติบโตในระยะยาว เช่นการปฏิรูปโครงสร้างการผลิตและการเปิดเสรีทางการเงินของจีน การปฏิรูประบบภาษี ระบบการเงินและกฏหมายเศรษฐกิจของอินเดีย ขนาดของประชากรที่มีจำนวน 4200 ล้านคนและสัดส่วนของคนในวัยทำงานที่สูงเป็นปัจจัยสำคัญทั้งในด้านการผลิต และเป็นตลาดผู้บริโภคที่แข็งแกร่งที่มีอำนาจซื้อสูงขึ้นตามระดับรายได้ที่เพิ่มขึ้น มีบริษัทที่โดดเด่นซึ่งสินค้าและแบรนด์เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก เช่น Sumsung Electronic, Taiwan Semiconductor, Alibaba. Tencent ความเสี่ยง กองทุนนี้กระจายการลงทุนในหลายประเทศทำให้ได้ประโยชน์ในเรื่องกระจายความเสี่ยง แต่ยังมีความเสี่ยงที่สำคัญที่นักลงทุนควรพิจารณา […]
รู้จัก 5 หุ้นที่กองทุนหลัก B-ASIA ถืออยู่ (ตอนจบ)
ในที่สุดเราก็แนะนำ 5 หุ้นที่ Invesco Funds – Invesco Asian Equity Fund กองทุนหลักของกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชีย (B-ASIA) ถืออยู่ เข้าสู่ตอนสุดท้ายกันแล้ว โดยบริษัทนี้มีชื่อว่า Housing Development Finance Corporation Ltd หรือบริษัทเงินทุนเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัย Housing Development Finance Corporation Ltd : บริษัทเงินทุนเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัย เป็นผู้นำในด้านการปล่อยกู้เพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยในอินเดีย จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ของอินเดีย จุดเริ่มต้นของธุรกิจนั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 1977 หากนับจนถึงปัจจุบันก็ทำธุรกิจมากว่า 40 ปีแล้ว ซึ่งจากตัวเลข ณ 31 ม.ค. 2018 บริษัทระบุว่า ตั้งแต่ทำธุรกิจมาได้มีการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยไปแล้วกว่า 6.3 ล้านหลัง รวมเป็นเงินสินเชื่อสุทธิ 4 ล้านล้านรูปี ขณะที่จำนวนผู้มีบัญชีเงินฝากไว้กับบริษัทอยู่ที่ 1.9 […]