ลงทุนตามเทรนด์คนรุ่นใหม่ไปกับ B-FUTURE
ลงทุนตามเทรนด์คนรุ่นใหม่ไปกับ B-FUTURE โดย…ศรศักดิ์ สร้อยแสงจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ (B-FUTURE) เป็นกองทุนที่ต้องการตอบสนองการลงทุนสำหรับคนรุ่นใหม่ โดยลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสเติบโตไปกับแนวโน้มที่โดดเด่น ในอนาคต 2 ประการ การบริโภคของกลุ่ม Millennial คนรุ่น Millennial หรือ Generation Y คือคนที่เกิดในช่วงปี คศ 1980-2000 เป็นคนรุ่นหนุ่มสาวในวัยทำงานที่เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันต่อเนื่องไปอีก 20-30 ปีข้างหน้า โดยมีสัดส่วน 25% ของประชากรโลก ซึ่งมีทั้งอำนาจซื้อและความต้องการบริโภคสินค้าบริการที่สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ Gen Y จะมีพฤติกรรมและมุมมองการใช้ชีวิต ทั้งด้านการทำงาน การกินอยู่ บริโภค ท่องเที่ยว การดูแลสุขภาพ ที่แตกต่างไปจากคนรุ่นก่อนค่อนข้างมาก ซึ่งก่อให้เกิดกระแสความต้องการสินค้าและบริการที่สามารถตอบสนอง Life style ของพวกเขา เช่น การใช้ชีวิตผ่านระบบ digital/On-line ในเกือบทุกด้าน ที่ต้องสะดวก รวดเร็ว หรือ […]
B-FUTURE Product Update Uncategorized
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ (B-FUTURE)
ภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกตั้งแต่ช่วงต้นปี ตลาดสินทรัพยเสี่ยงทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นปรับขึ้นถ้วนหน้า นับตั้งแต่ต้นปี 2019 จนกระทั่งถึงเดือน เม.ย. โดยดัชนี MSCI All Country World Index ปรับขึ้นถึง 16.8% โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดัชนี Dow Jones Industrial Average ปรับตัวขึ้นมาสู่ระดับสูงสุดในประวัติการณ์ ขับเคลื่อนด้วยความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ปรับตัวดีขึ้นจากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ดี ประกอบกับจากการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งนักลงทุนคาดว่า ทั้งสองประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากันได้ ในขณะที่ปัจจัยด้านการดำเนินนโยบายรัดกุมของธนาคารกลางขนาดใหญ่ เช่น FED, ECB ที่เป็นหนึ่งความเสี่ยงหลักในช่วงปีที่แล้วผ่อนคลายลงเช่นเดียวกัน ส่งผลให้นักลงทุนมีความหวังว่าสภาพคล่องจากทางธนาคารกลางจะยังคงสนับสนุนตลาดการเงินต่อไป สำหรับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่กองทุน B-FUTURE ลงทุน ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2019 จนถึง เม.ย. หุ้นกลุ่ม Technology สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า (Outperform) ตลาดหุ้นทั่วโลก และปรับตัวขึ้นได้สูงสุดเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ นำโดยหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ที่ดัชนี Philadelphia Semiconductor ซึ่งเป็นดัชนีที่แสดงความเคลื่อนไหวของหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน […]
เอไอขับเคลื่อนอนาคต
กองทุนบัวหลวงมีกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ (B-FUTURE) ที่ลงทุนในตราสารทุนต่างประเทศของบริษัทที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง หรือได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการบริโภคในอนาคต หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ รวมทั้งปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ เอไอ) วันนี้เรามาทบทวนทำความรู้จักกับเอไอว่าคืออะไร และจะเป็นพลังขับเคลื่อนอนาคตอย่างไร เอไอ คือ ความสามารถของโปรแกรม หรือเครื่องกลที่จะคิด หรือเรียนรู้เหมือนมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์และนักพัฒนาด้านเอไอกำลังฝึกเครื่องกลให้เห็น ได้ยิน นำทาง หรือมีปฏิสัมพันธ์ในรูปแบบเรียลไทม์ เอไอ มีความเกี่ยวโยงกับสาขาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้อย่างลึกซึ้ง เครื่องกลเรียนรู้ บิ๊กดาต้า การมองเห็นสามมิติ ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ บริษัทที่มีความสามารถที่จะพัฒนา หรือนำเอานวัตกรรมใหม่ๆ เหล่านี้มาใช้ จะได้ส่วนแบ่งของกำไรส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมต่างๆ ในอนาคต กล่าวโดยรวมแล้ว เอไอมีความสามารถดังต่อไปนี้ 1.เข้าใจ – เอไอมีความสามารถที่จะเข้าใจภาพ ภาษาและข้อมูลอื่นๆ ที่ไม่มีโครงสร้าง เหมือนกับมนุษย์ 2.ให้เหตุผล – เอไอให้เหตุผลได้ สามารถเข้าใจความคิด ตั้งสมมติฐาน นิรนัย หรือดึงความคิดออกมา […]
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ (B-FUTURE)
ภาวะตลาดหุ้นทั่วโลก ไตรมาสสุดท้ายของปี 2018 เป็นไตรมาสที่ไม่สดใสสำหรับตลาดหุ้นทั่วโลก ด้วยปัจจัยที่รุมเร้าไม่ว่าจะเป็นความกังวลในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการดำเนินนโยบายที่รัดกุม (Tightening Monetary Policy) ของ FED การเกิดภาวะ Inverted Yield Curve ของเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ตัวเลขทางเศรษฐกิจของยูโรโซนที่ปรับลดลงค่อนข้างแรง สัญญาณการชะลอตัวลงในการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน รวมถึงปัญหาทางด้านการเมือง ไม่ว่าจะเป็น สถานการณ์การกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน การปิดหน่วยงานรัฐบาลชั่วคราวของสหรัฐ (Government Shutdown) Brexit ปัญหาเรื่องการเมืองภายในประเทศของอิตาลี ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนำไปสู่ความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจโลกอาจประสบกับภาวะวิกฤต (Recession) ในอนาคตอันใกล้ได้ สำหรับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่กองทุน B-FUTURE ลงทุน ในช่วงครึ่งหลังของปี 2018 ต้องเผชิญกับความผันผวนด้วยแรงกดดันต่อเนื่องมาจากการกีดกันทางค้าระหว่างสหรัฐและจีน ผนวกกับยอดขายของ iPhone ที่ลดลงก่อให้เกิดความกังวลว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังก้าวเข้าสู่วัฎจักรชะลอตัว รวมถึงราคาของบรรดาหุ้นเทคโนโลยีที่ปรับขึ้นไปสูงมากในช่วงก่อนหน้าทำให้เกิดแรงขายทำกำไรออกมา อย่างไรก็ตาม เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2019 บรรดาสินทรัพยเสี่ยงต่างๆ เริ่มกลับมามีผลตอบแทนเป็นบวกอีกครั้ง โดยที่ตลาดหุ้นทั้งส่วนของประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Market) และตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ล้วนปรับขึ้นมาแล้วประมาณ […]
Artificial Intelligence B-FUTURE Morning Brief
จีนเดินหน้าใช้ใบแจ้งหนี้บนบล็อคเชนในร้านอาหาร
ไชน่าเดลี รายงานว่า สำนักงานภาษีในเซินเจิ้นและเทนเซ็นต์ ประกาศออกมาเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนว่า ได้นำใบแจ้งหนี้บนบล็อคเชนมาใช้เป็นครั้งแรกในจีนกับร้านอาหาร ทั้งนี้ สำนักงานภาษีระบุว่า บริษัทสามารถลงทะเบียนเพื่อใช้ใบแจ้งหนี้และยื่นภาษีบนแพลตฟอร์มบล็อคเชนที่สนับสนุนโดยเทนเซ็นต์ได้ โดยบล็อคเชนจะผลิตใบแจ้งหนี้ออกมาให้อัตโนมัติหลังจากที่การทำธุรกรรมสำเร็จ Cai Yige ผู้จัดการ ธุรกิจบล็อคเชน ของเทนเซ็นต์ กล่าวว่า เทคโนโลยีบล็อคเชนทำให้เกิดความปลอดภัยในการแบ่งปันข้อมูลและจัดเก็บข้อมูลธุรกรรมในทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการใบแจ้งหนี้ ทำให้ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลใบแจ้งหนี้ได้ สำนักงานภาษีและเทนเซ็นต์ ได้เปิดตัวห้องทดลองนวัตกรรมเมื่อเดือน พ.ค. เพื่อมองหาทางเลือกที่จะเพิ่มประสิทธิภาพบริการด้านภาษีและป้องกันความเสี่ยงโดยการใช้คลาวด์ คอมพิวติ้ง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) บล็อคเชน และบิ๊ก ดาต้า
B-FUTURE BF Editorial series Shoppingonline Smartphone Uncategorized
ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 15
ผู้บริโภคสมัยใหม่มีความเชื่อมโยงมากกว่าเดิม เพียงแค่สมาร์ทโฟนแค่เครื่องเดียว ผู้บริโภคยุคปัจจุบันสามารถค้นหา เลือกดูสินค้าได้ ตรวจสอบราคา เปรียบเทียบราคา ซื้อขายหุ้น หรือแม้กระทั่งสั่งซื้อของจากช่องทางออนไลน์อื่น แม้ว่าจะอยู่ในห้างรีเทลอื่นก็ตาม เทคโนโลยี่สมัยใหม่ทำให้ผู้บริโภคมีพลังสูง หรือมีความหลายหลากในการเลือก แต่ในขณะเดียวกัน ห้างรีเทลที่เข้าใจประเด็นนี้ด้วยการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคผ่านเทคโนโลยี่จะประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจ การปฏิสัมพันธ์จะมีลักษณะที่เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น (personalized) ผู้บริโภคสมัยใหม่ในยุคเทคโนโลยี่มีลักษณะเด่น หรือพฤฒิกรรมร่วมกันอย่างน้อย 7 ประการด้วยกัน: 1. ช้อปปิ้งได้ทั้งวันทั้งคืน เทคโนโลยี่สมัยใหม่ไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไปสำหรับผู้บริโภคที่จะเลือกซื้อสินค้า หรือทำธุรกรรมต่างๆได้ตลอดเวลา หรือ24ชั่วโมงต่อหนึ่งวัน หรือ7วันต่อสัปดาห์ การซื้อของโดยผู้บริโภคสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในช่วงเวลาในแต่ละวัน ด้วยเหตุนี้เจ้าของสินค้า หรือห้างรีเทลจะพยายามหาแพลตฟอร์มต่างๆเพื่ออำนวยความนสะดวกให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าออนไลน์ได้ทุกเมื่อเชื่อยาม เมื่อมีความต้องการ 2. ผู้บริโภคเป็นผู้ควบคุมเอง เทคโนโลยี่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถควบคุมประสพการณ์การช้อปปิ้งของตัวเอง โดยที่ใช้เทคโนโลยี่เพื่อค้นหาข้อมูลสินค้า ทำการบ้านว่าสินค้าหรือบริการอะไรเหมาะกับตัวเอง และหลังจากตกลงใจซื้อสินค้าหรือบริการแล้ว ยังแชร์ข้อมูลให้เพื่อนๆได้รับทราบผ่านโซเซี่ยลมีเดีย ที่สำคัญขบวนการเหล่านี้สามารถทำได้อย่างรวดเร็วผ่านสมาร์ทโฟน หรืออินเทอร์เน็ต 3. ช่องทางในการช้อปปิ้งมีความหลายหลากมากยิ่งขึ้น ในอดีตเวลาจะซื้อของผู้บริโภคต้องไปที่ร้านหรือห้าง แต่ทุกวันนี้ระบบออนไลน์ แอปพลิเกชั่นต่างๆ หรือสมาร์ทโฟนเปิดช่องทางให้ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าหรือบริการได้หลายหลากยิ่งขึ้น 4. ผู้บริโภคให้ความสนใจกับเนื้อหา (content)ของสินค้า ผู้บริโภคสมัยใหม่มีความรู้มากขึ้น รู้จักหาข้อมูลของสินค้า รู้จักเปรียบเทียบคุณภาพของสินค้า […]
B-FUTURE BF Editorial series Uncategorized
ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 14
เนื่องจากคนในยุคมิลเลนเนียลเติบโตขึ้นมาพร้อมกับอินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย และสมาร์ทโฟน พวกเขามีอิทธิพลสูงต่อนักการตลาดที่จำต้องปรับกลยุทธ์เพื่อที่จะเข้าถึงผู้บริโภคสมัยใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริโภคในตลาดอาเซียน ในเศรษฐกิจอาเซียนที่ใหญ่ที่สุด6ประเทศ คือสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ประชาชนที่มีอายุระหว่าง 20-39 ปีมีจำนวน32% หรือ180ล้านคนในปี2015 เทียบกับ26%ในปี1975 คนวัยหนุ่มเป็นลักษณะเด่นของเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างอินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ รวมทั้งเศรษฐกิจที่กำลังตั้งลำไม่ว่าจะเป็นบังคลาเทศ กัมพูชา ลาว เมียนมา ปากีสถาน ด้วยประชากร2,100ล้านคนรวมกัน กลุ่มประเทศเหล่านี้สามารถที่จะใช้ประชากรส่วนที่อยู่ในวัยหนุ่มสาวในการขับเคลื่อนความต้องการภายในประเทศ และผลักดันให้เศรษฐกิจมีการเจริญเติบโต Hakuhodo Institute of Life and Living Asean (HILL-Asean) ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมของคนยุคมิลเลนเนียลในอาเซียน โดยทำสำรวจ 8,100คนในภูมิภาคนี้ เพื่อเรียนรู้ทัศนคติและพฤติกรรมการบริโภคของพวกเขา โดยแบ่งพวกมิลเลนเนียลออกเป็น2กลุ่ม คือกลุ่มที่เกิดในทศวรรษ1980 และกลุ่มที่เกิดในทศวรรษ1990เพื่อศึกษาว่าพวกเขามีความแตกต่างกันอย่างไร Hill-Aseanพบว่า กลุ่มคนที่เกิดในยุค1980ใช้อินเทอร์เน็ตในการช้อปปิ้ง แต่พวกเขาแคร์เกี่ยวกับประสบการณ์จริงของการช้อปปิ้ง ด้วยการกลับไปเช็คดูของจริงในร้านค้า หรือเปรียบเทียบราคาสินค้าออฟไลน์ ส่วนคนที่เกิดในยุค1990ช้อปผ่านออนไลน์อย่างเป็นธรรมชาติมาก แต่พวกเขาแคร์ต่อประสบการณ์หลังการช้อปไปแล้ว […]
B-FUTURE BF Editorial series Uncategorized
ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 13
แม้ว่าอินเดียจะมีประชากร 1,200 ล้านคน หรือมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองมาจากจีน แต่อินเดียจะเป็นประเทศที่มีประชากรในวัยหนุ่มสาว หรือวัยทำงานมากที่สุดในโลกภายในปี 2020 โดยค่าเฉลี่ยอายุของคนอินเดียจะอยู่ที่ 29 ปี อินเดียมีประชากรที่เกิดยุคมิลเลนเนียล 400 ล้านคน หรือประมาณ 46% ของประชากรทั้งหมด พอๆกับจีนเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้อินเดียยุคมิลเลนเนียล (เกิดระหว่างปี 1982-1997) จะเป็นเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของอินเดีย และของโลกด้วย งานวิจัยของมอร์แกนสแตนเลย์ระบุว่า แม้ว่าคนอินเดียยุคมิลเลนเนียลจะมีอายุน้อย แต่เป็นผู้ที่ทำรายได้หลักให้กับครอบครัว โดยรายได้ของคนอินเดียมิลเลนเนียลเทียบเท่า 70% ของรายได้ครอบครัวของอินเดียทั้งประเทศ พลังของคนหนุ่มสาวอินเดียจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างทางเศรษฐกิจ พฤติกรรมการบริโภคของคนอินเดียมิลเลนเนียลจะมีส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของภาคเศรษฐกิจ 4 ส่วนด้วยกันคือ 1. รถยนต์ มอเตอร์ไซค์และสกู๊ทเตอร์เป็นพาหนะที่จะแพร่หลายที่สุดของคนอินเดีย อย่างไรก็ตาม เมื่อคนอินเดียมีรายได้เพิ่มขึ้น จะซื้อรถยนต์ มอร์แกนสแตนเลย์พบว่า คนอินเดียมิลเลนเนียลมีรถยนต์ส่วนตัวขับเพียง 7% เท่านั้น แต่แนวโน้มการขยายตัวของตลาดรถยนต์มีสูงเมื่อกำลังซื้อของกลุ่มมิลเลเนียลเพิ่ม ในขณะเดียวกันคนอินเดียมิลเลนเนียลมีการใช้แอพในการเรียกแท็กซี่มากยิ่งขึ้น 2. บ้านที่อยู่อาศัย การซื้อรถยนต์เป็นเป้าหมายในอนาคตอันใกล้ของคนอินเดียมิลเลนเนียล […]
ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 12
คนไทย และคนเอเชียยุคมิลเลนเนียลมีความต้องการการเดินทางแบบไหน? Amadeus ได้ทำการวิจัย และพบว่ากลุ่มคนยุคมิลเลนเนียลของไทย และเอเชียต้องการประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบใหม่ ผ่านช่องทางที่น่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นของการขับขี่ร่วมกัน (ride sharing) หรือแพลตฟอร์มสำหรับที่พักระยะสั้นของระบบเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (sharing economy) การวิจัยของอะมาดิอุสพบว่า 42% ของคนยุคมิลเลนเนียลบอกว่า พวกเขามักที่จะใช้แอพพลิเคชั่นขับขี่ร่วมกันสำหรับการเดินทาง และอีก 35% บอกว่าพวกเขาใช้บริการเศรษฐกิจแบบแบ่งปันสำหรับที่พัก แน่นอนเลยที่เดียวที่ คนยุคมิลเลนเนียลใช้เทคโนโลยีเพื่อที่จะเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยว อะมาดิอุส พบว่า77%ของคนไทยที่ตอบแบบสอบถามแสดงความสนใจในแอพพลิเคชั่นที่ขยายความจริง ที่ให้ข้อมูลดิจิทัลแบบอินเทอร์แอคทีฟเกี่ยวกับวัฒนธรรม หรือประวัติศาสตร์ของสถานที่ท่องเที่ยว เปรียบเทียบกับ66%ของคนเอเชียทั้งภูมิภาค งานวิจัยของอะมาดิอุสทำร่วมกับ YouGov โดยมีการทำเซอร์เวย์ใน 14ตลาด และมี 6,870 คนตอบแบบสอบถาม ปรากฎว่า 45% ของผู้ตอบแบบสอบถามเป็นคนในยุคมิลเลนเนียลที่มีอายุระหว่าง 18-35 ปี งานวิจัยเหมือนอย่างของอะมาดิอุสช่วยให้บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสามารถเจาะลูกค้ากลุ่มมิลเลนเนียลได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย หรือตรงต่อความต้องการของพวกเขาได้มากยิ่งขึ้น ในขณะที่คนมิลเลนเนียลของเอเชียต้องการได้รับการติดต่อผ่านอีเมล์ แต่ 45%ของคนไทยมิลเลนเนียลบอกว่าต้องการได้รับการติดต่อผ่านโซเซียลมีเดีย งานวิจัยพบว่า สำหรับคนยุคมิลเลนเนียลแล้ว อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีเหมือนกับเป็นเนื้อหนังที่สองของพวกเขา และพวกเขาเปิดกว้างสำหรับประสบการณ์ใหม่ๆ บริษัทท่องเที่ยวที่จะประสบความสำเร็จต้องสามารถใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ยุทธศาสตร์ใหม่ๆ […]
B-FUTURE BF Editorial series Uncategorized
ผู้บริโภคมือเติบในยุคเทคโนโลยี The Series ตอนที่ 11
สถาบัน Brookings ของสหรัฐได้ศึกษาเพื่อที่จะได้ภาพของผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนในยุคมิลเลนเนียล (เกิดระหว่างปี 1982-1997)ว่า จะมีอิทธิพลอย่างไรต่อเศรษฐกิจโลก คนรุ่นมิลเลนเนียลมีจำนวน 80-90 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา และสิ่งที่พวกเขาชอบ หรือนึกคิดจะเป็นพลังขับดันการผลิต และกลยุทธ์การตลาดในอีกอย่างน้อย 20 ปีข้างหน้า คนยุคมิลเลนเนียลอาจจะไม่จริงจังกับเรื่องการแต่งงาน หรือการเป็นเจ้าของบ้าน แต่พวกเขาเป็นคนรุ่นแรกที่รู้ภาษาดิจิทัล โดยที่รายได้ของพวกเขาจะมีมากกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมกันในปี 2030 มีคำกล่าวว่า โครงสร้างประชากรเป็นโชคชะตา สหรัฐอเมริกามีคนที่เกิดในยุคมิลเลนเนียลในสัดส่วนที่น้อย เมื่อเทียบกับโลกใบนี้ จีนมีมิลเลนเนียลถึง 400 ล้านคน และในเอเชียมีคนยุคมิลเลนเนียลมากกว่า 1,000 ล้านคน พูดให้ชัดลงไป ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ หรือเศรษฐกิจกำลังพัฒนามีสัดส่วนของคนยุคมิลเลนเนียลถึง 86% ของทั้งโลกรวมกัน ด้วยเหตุนี้ ถ้าหากว่าเรามีบริษัทที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ หรือความต้องการของคนยุคใหม่ที่อยู่ในวัฒนธรรมโลกใหม่ เราต้องมีฐานอยู่ในเอเชีย ทางสถาบัน Brookings ได้ศึกษาคนยุคมิลเลนเนียลด้วยการสำรวจใน 22 ประเทศ ที่มีสัดส่วน 70%ของประชากรโลก ทำให้เห็นภาพว่าคนยุคมิลเลนเนียลจะมีอิทธิพลต่อโลกสูงกว่าที่หลายคนคิดหรือเข้าใจ […]