ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 11 พ.ค. 63 ปิดตลาดที่ 1,287.30 จุด เพิ่มขึ้น 21.28 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 11 พ.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,287.30 จุด เพิ่มขึ้น 21.28 จุด หรือ 1.68%โดยระหว่างวันสูงสุดที่ 1,293.35 จุด ต่ำสุดที่ 1,276.60 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,801.03 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 35.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,140.18 ลบ. 2.PTTGC ปิดที่ 40.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,049.86 ลบ. 3.CPALL ปิดที่ 74.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,684.98 ลบ. 4.GPSC ปิดที่ 72.25 บาท […]
จับตาเทคโนโลยีติดตามผู้ติดต่อสำหรับองค์กรกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด
ซีเอ็นบีซี รายงานว่า บริษัทเทคโนโลยี ตั้งแต่ผู้ให้บริการที่เชี่ยวชาญรายใหญ่ไปจนถึงสตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มต้น ที่สร้างแอปพลิเคชันหรืออุปกรณ์สำหรับสวมใส่สำหรับภาคธุรกิจเพื่อติดตามและร่วมยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหมู่พนักงานที่ทำงาน เทคโนโลยีที่เรียกว่า การติดตามผู้ติดต่อแบบดิจิทัล เป็นเทคโนโลยีซึ่งที่ผ่านมามีองค์กรขนาดใหญ่จำนวนหนึ่งที่ใช้เครื่องมือนี้อย่างเปิดเผยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามบริษัทเทคโนโลยีก็มองเห็นโอกาสหลักๆ จากสำนักงานที่จะกลับมาเปิดใหม่ และต้องการปรับปรุงเทคโนโลยีที่มีอยู่เพื่อมุ่งเน้นการติดตามโควิด-19 Laura Becker นักวิเคราะห์ที่ดูเรื่องประสบการณ์พนักงานและสิทธิประโยช์ของ ไอดีซี กล่าวว่า การติดตามผู้ติดต่อแบบดิจิทัลสำหรับองค์กรเป็นเทคโนโลยีในพื้นที่ใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากคาดว่า บริษัทที่กลับมาเปิดออฟฟิศใหม่กำลังมองหาแนวทางเพื่อสร้างความปลอดภัยให้พนักงานอยู่ “เมื่อมองไปที่องค์กรใหญ่ ซึ่งมีพนักงานมากกว่า 1,000 คน มีแนวโน้มจะใช้เทคโนโลยีนี้มาก แม้ว่าอาจจะมีบางส่วนที่ไม่ได้ใช้ แต่ถ้าให้มองรวมๆ แล้วก็คาดว่า จะทำให้มูลค่าตลาดของเทคโนโลยีนี้มีถึง 4,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ” Becker กล่าว แอปเปิ้ลและกูเกิล รวมถึงกลุ่มองค์กรไม่แสวงหากำไร ได้สร้างซอฟต์แวร์สำหรับติดตามผู้ติดต่อออกมาเช่นกัน แต่ระบบของพวกเขามีเป้าหมายเป็นสาธารณะและจะถูกใช้โดยหน่วยงานสาธารณสุขในยุโรป เพื่อสร้างแอปพลิเคชันติดตามผู้ติดต่อฟรี ซึ่งเป็นการทำงานในระดับชาติ โดยซอฟต์แวร์ของแอปเปิ้ลและกูเกิลไม่ได้มีไว้ซื้อขาย ทำให้แอปพลิเคชันติดตามผู้ติดต่อสำหรับองค์กรเป็นตลาดที่จะทำเงินได้
AI Alibaba Amazon Artificial Intelligence B-FUTURE B-INNOTECH B-INNOTECHRMF BF Knowledge Center Digital Economy Digital transformation E-Commerce Innovation
กองทุนที่เกาะติดเทรนด์โลก ตอน เทคโนโลยี
โดย…เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP® ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก เกิดธุรกิจใหม่ๆ และก็มีหลายธุรกิจที่ล้าสมัย โดยธุรกิจที่ได้รับความนิยม เติบโตได้ดี จะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโลกสมัยใหม่ หรือเป็นที่ต้องการของคนในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยี เฮลธ์แคร์ หรือสอดคล้องกับพฤติกรรมของคนยุคใหม่ ด้วยเหตุนี้ทำให้ธุรกิจเหล่านี้เป็นธุรกิจที่น่าลงทุน แต่สิ่งที่นักลงทุนต้องพิจารณาก็คือ การลงทุนที่ดีควรเป็นการลงทุนระยะยาว ดังนั้นควรลงทุนในธุรกิจที่เติบโต มีจุดแข็งระยะยาว ขายสินค้าที่เป็นความต้องการระยะยาว หรือพร้อมพัฒนาตนเองตามแนวทางนี้ นำเสนอสินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ได้ โดยต้องไม่ใช่ธุรกิจแฟชั่นฉาบฉวย ทั้งนี้ การเกิดสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ภาพของเทรนด์เทคโนโลยีชัดเจนขึ้น เห็นความน่าสนใจลงทุนของกลุ่มนี้มากขึ้น เพราะในวันที่เกิดเหตุการณ์หุ้นตกทั่วโลก ธุรกิจชะงัก จะพบว่า ในตลาดการลงทุน ทุกธุรกิจได้รับผลกระทบทั้งหมด แต่กลุ่มที่แข็งแรง ทนทาน ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี และเฮลธ์แคร์ ในครั้งนี้ เราขอโฟกัสที่ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH) และ กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเพื่อคนรุ่นใหม่ (B-FUTURE) ก่อน สำหรับ B-INNOTECH ลงทุนในกองทุนหลักกองเดียวคือ […]
กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ (BCARE)และกองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์เพื่อการเลี้ยงชีพ (BCARERMF)
มุมมองต่ออุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพหลังการระบาดของไวรัส COVID-19 สิ่งที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมยาของโลกโดยเฉพาะยาที่รักษาไวรัสโคโรนา ที่ขณะนี้ยังไม่มีผลลัพธ์เชิงประจักษ์ที่จะยืนยันได้ว่ายาตัวใดหรือกระบวนการักษาแบบไหนที่จะนำมารักษาให้หายขาด หากท่านผู้ถือหน่วยลงทุนมองย้อนกลับไปในอดีตจะพบว่าสมัยก่อนสงครามโลกการเสียชีวิตของคนมีสาเหตุหลักมาจากโรคติดเชื้อ แต่หลังจากค้นพบยาปฏิชีวนะได้ช่วยทำให้คนมีอายุยืนขึ้น การรักษาโรคระบาด COVID-19 ก็เช่นกัน หลายคนเริ่มเข้าใจแล้วว่าเป็นกระบวนการที่ใช้ระยะเวลาเพราะการรักษาใหม่ๆ ผู้วิจัยต้องประเมินผลข้างเคียงเสมอ อุตสาหกรรมยานวัตกรรม หรือ Innovative Drug เป็นการผลิตยาที่นำมาสู่กระบวนการรักษาที่เมื่อใช้ยาตัวนั้นแล้วส่งผลข้างเคียงน้อยที่สุด มีประสิทธิภาพสูงสุด ตอบโจทย์ของการรักษา แต่ด้วยเหตุที่คนแต่ละคนไม่เหมือนกัน สารพันธุกรรมของเราแต่ละคนก็เป็นเฉพาะของเราเท่านั้น เผ่าพันธุ์เราก็ไม่เหมือนกัน อายุเราก็ไม่เท่ากัน ระบบเราก็ไม่เหมือนกัน เราอาจจะมีโรคที่มีมาแต่กำเนิดไม่เหมือนกันด้วย พวกเราที่นั่งกันอยู่อาจยังไม่รู้ว่าตัวเรามีโรคอะไรอยู่ เพราะฉะนั้นยาถ้าต้องใช้กับทุกคนทั่วโลกเป็นพันล้านคน วิธีการทดสอบว่ายาตัวนี้ใช้ได้คือการทดลองทางด้านคลินิก ซึ่งจะต้องไม่ทำให้ผู้ป่วยทรุดลงไปจากเดิมที่เป็นอยู่ ต้องมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด ต้องใช้เวลา ใช้ทุนทรัพย์มหาศาล และต้องมีคนซึ่งเป็นอาสาสมัครซึ่งมีร่างกายแข็งแรงมาช่วยทดลอง สำหรับโรค COVID-19 เป็นโรคใหม่ที่มาอย่างรวดเร็ว ทุกบริษัท/องค์กรต่างเร่งรัดทำอยู่ แต่กระบวนการวิจัยยาไม่สามารถลดขั้นตอนได้ หากลดขั้นตอนความเสี่ยงสูงจะตามมา กรณีนี้เห็นได้จากยาไฮดรอกซีคลอโรควิน ซึ่งเป็นยาต้านมาเลเรียและเป็นยาซึ่งใช้ในโรคไขข้อ ผู้นำบางประเทศประกาศให้รีบนำยานี้มาใช้รักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยยังไม่ได้ผ่านการทดลองทางด้านคลีนิค อย่างเป็นรูปธรรมว่าต้องใช้ปริมาณเท่าไร ตัวเลขผลการทดลองจึงมีไม่เพียงพอว่าควรใช้กี่โดส สำหรับคนอายุเท่านี้ เพศนี้ เผ่าพันธุ์ประเภทนี้ ปัญหาข้างเคียงจึงตามมา ด้านการใช้วัคซีน กองทุนหลักกล่าวว่าจะใช้ระยะเวลาพัฒนายาวนานกว่ายา […]
B-GLOBAL B-GLOBALRMF Product Update
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล (B-GLOBAL)และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอลเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-GLOBALRMF)
ภาพรวมปัจจัยอันส่งผลต่อหุ้นโลกในมุมมองของกองทุนหลัก ไตรมาสแรกของปี 2020 ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง การระบาดของโคโรนาไวรัสไปทุกหนทุกแห่งทั่วโลกทำให้ตลาดเงินและเศรษฐกิจหยุดชะงัก บดบังรัสมีข่าวดีจากการเจรจาทางการค้าเฟสหนึ่งระหว่างสหรัฐฯและจีน ดัชนีความกลัวเมื่อวัดจาก Volatility Index สูงขึ้น สภาพคล่องขาดหาย ทำให้เศรษฐกิจโลกหันหน้าเข้าสู่ภาวะถดถอย ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าจะเป็นการชะลอตัวลงครั้งที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เพราะผลจากการระบาดจะส่งผลในวงกว้าง รุนแรงและจะอยู่กับเราไปอีกนาน รัฐบาลในหลากหลายประเทศได้ออกมาตรการพิเศษเพื่อจำกัดผลกระทบต่อภาคการเงินลดการร่วงลงทางเศรษฐกิจและรองรับรายได้ที่ลดลงในภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ สหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีทรัมป์ คลอดงบประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อบรรเทาภัยพิบัติครั้งนี้ ประเทศทางฝั่งยุโรปมีการผ่อนคลายกฎระเบียบการสร้างหนี้สาธารณะของรัฐบาลเพื่อเพิ่มความยึดหยุ่นในการจัดการวิกฤต ทางฝั่งธนาคารกลางหลายแห่งมีการออกมาตรการที่เข้มข้นในการซื้อคืนสินทรัพย์ประเภทพันธบัตรจำนวนมหาศาลและปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเร่งด่วน ด้านราคาน้ำมันดิ่งลงต่ำสุดนับตั้งแต่ปีค.ศ. 2002 เนื่องจากผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกประสบความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงเพื่อลดการปริมาณผลิต ส่วนสหราชอาณาจักรซึ่งตามข้อตกลงจะออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ม.ค. ต้องถูกเลื่อนออกไปก่อนอันมีสาเหตุจากการระบาดของโรคไวรัส ผลการบริหารกองทุน Wellington Global Opportunities Equity Fund ในไตรมาสแรก (ม.ค.- มี.ค.) กองทุนหลักสร้างผลตอบแทน -19.5% เทียบกับดัชนี MSCI AC World Net -21.4% ระหว่างเดือนม.ค.-มี.ค. กลุ่มอุตสาหกรรมย่อยราคาปรับลดลงทุกกลุ่ม กลุ่มพลังงานและกลุ่มสถาบันการเงินเป็นกลุ่มที่ราคาปรับลดลงมากที่สุด […]
ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ลดลงมาก หนุนอัตราว่างงานพุ่งแรงขึ้น
BF Economic Research การจ้างงานนอกภาคเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน เม.ย. ลดลง 20.5 ล้านราย สะท้อนผลของ First Wave COVID-19 สำหรับตัวเลขการจ้างงานในเดือน มี.ค. ถูกปรับลดลงเพิ่มเติมเป็นลดลง 8.81 แสนราย (จากเดิมลดลง 7.01 แสนราย) โดยการจ้างงานในภาคบริการปรับลดลงอย่างมาก 17.16 ล้านราย (vs. ลดลง 7.68 แสนรายในเดือนก่อน) นำโดยการจ้างงานในหมวดการโรงแรมและการพักผ่อน (ลดลง 7.65 ล้านราย) การศึกษาและสุขภาพ (ลดลง 2.54 ล้านราย) การให้บริการทางธุรกิจ (ลดลง 2.12 ล้านราย) และการค้าปลีก (ลดลง 2.1 ล้านราย) ส่วนการจ้างงานในภาคการผลิตสินค้า (Good producing Sector) […]
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นญี่ปุ่น (B-NIPPON)
อัพเดทสถานการณ์และมุมมองต่อกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นญี่ปุ่นจากสถานการณ์ COVID-19 ท่านผู้ถือหน่วยลงทุนคงจะสังเกตพบว่า ผลตอบแทนในไตรมาสแรกของกองทุนหลัก Nomura Japan Strategic Value Fund ตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือนมี.ค. 2020 ติดลบ 25.2% เทียบกับดัชนี TOPIX ที่ติดลบเพียง 17.5% การที่กองทุนหลักทำผลตอบแทนได้ต่ำกว่าดัชนีถึง 7% นั้น เกิดขึ้นในช่วงเดือนก.พ.–มี.ค.ของปีนี้ โดยเฉพาะในเดือนมี.ค.เกิดขึ้นจากสองปัจจัย ปัจจัยแรก ตลาดมีความกังวลถึงผลกระทบอันยากจะคาดเดาของสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ว่าจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจต่อไปในระดับใด ช่วงเวลานี้ดัชนีตลาดปรับตัวลดลงจากต้นปีไปจนถึงจุดต่ำสุดที่ลบ 29% และกลับมาปรับตัวรีบาวนด์เพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดประมาณ 10% ปัจจัยที่สอง กองทุนหลักมีนโยบายลงทุนคัดสรรหุ้นจากปัจจัยพื้นฐานที่อยู่ในกลุ่ม Value stock ซึ่งแน่นอนว่าหุ้นกลุ่มนี้ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าหุ้น Growth Stock เห็นได้จากระหว่างเดือนม.ค.-มี.ค. 2020 ผลตอบแทนหุ้นญี่ปุ่นในกลุ่มหุ้นมูลค่าขนาดใหญ่ (Large Value) ให้ผลตอบแทนติดลบ 21.93% เทียบกับกลุ่มหุ้นเติบโตขนาดใหญ่ (Large Growth) ที่ผลตอบแทนติดลบเพียง 12.46% คิดเป็นส่วนต่างประมาณ […]
ดัชนีหุ้นไทย 8 พ.ค. ปิดตลาด 1,266.02 จุด เพิ่มขึ้น 8.04 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 8 พ.ค. 2563 ปิดตลาดที่ 1,266.02 จุด เพิ่มขึ้น 8.04 จุด หรือ 0.64% โดยระหว่างวันสูงสุดที่ 1,270.54 จุด ต่ำสุดที่ 1,256.74 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,086.49 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.CPALL ปิดที่ 72.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท (+2.86%) มูลค่าการซื้อขาย 3,586.39 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 35.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 (+2.92%) มูลค่าการซื้อขาย 2,403.42 ลบ. 3.ADVANC ปิดที่ 193.50 บาท ลดลง 4.00 บาท (-2.03%) […]
จีน-สหรัฐฯ เตรียมเดินหน้าข้อตกลงทวิภาคี ทั้งการค้า-เศรษฐกิจ-สาธารณสุข
รายงานข่าวจากบลูมเบิร์ก ระบุว่า นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีของจีน ได้ออกมายืนยันว่า จีน และสหรัฐฯ ได้ตกลงร่วมกันทั้งสองฝ่ายที่จะทำงาน และสร้างเงื่อนไขที่อำนวยความสะดวกให้กับทั้งสองประเทศตามข้อตกลงทวิภาคี พร้อมทั้งให้ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ และสาธารณสุข ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์จีนได้กล่าวผ่านแถลงการณ์โดยระบุว่า ทั้งสองประเทศมีความเห็นพ้องต้องกันว่า ความก้าวหน้าในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องทำให้ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศก็หวังว่าจะสามารถปฎิบัติหน้าที่ได้ภายใต้ข้อตกลงที่วางไว้ในเวลาที่เหมาะสม แม้จะมีเหตุการระบาดของโควิด-19 การพูดคุยของผู้แทนการค้าทั้งสองประเทศในครั้งนี้ นับเป็นการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่ทั้งสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงการค้าในเฟสที่หนึ่งไปเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนนั้นแย่ลงเรื่อยๆ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ออกมาเผยว่า เตรียมที่จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน โดยให้เหตุผลว่า จีนเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 และทำให้สหรัฐฯได้รับผลกระทบโดยตรงทั้งในด้านเศรษฐกิจ และด้านสุขภาพ จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้
ขายกองทุนดีไหม
โดย…ศรศักดิ์ สร้อยแสงจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center คำถามที่่ผู้ลงทุนมักจะสอบถามเข้ามาบ่อยครั้ง นอกจากซื้อกองทุนไหนดี นั่นก็คือ ขายกองทุนดีไหม จริงๆ แล้วมีหลักคิดอยู่ โดยอยากให้ใช้ผู้ลงทุนเป็นตัวตั้งมากกว่า ด้วยการตอบคำถามก่อนว่า ทำไมจึงขาย คำตอบที่ได้รับก็จะมีทั้งหมด 2 กลุ่ม กลุ่มแรกก็คือ กลุ่มที่ผิดหวัง ไม่ปลื้ม อีกกลุ่มคือกลุ่มที่สมหวัง ซึ่งคำแนะนำของทั้ง 2 กลุ่มมีดังนี้ กลุ่มที่ผิดหวัง ไม่ปลื้ม เหตุผลเพราะขาดทุน หรือผลตอบแทนน้อย ซึ่งต้องมาดูกันต่อ เช่น การขาดทุน หากลงทุนในกองทุนหุ้นหรือกองทุนผสมที่มีตราสารหนี้น้อยและลงทุนหุ้นมาก ก็มีความเป็นไปได้ที่จะขาดทุน และอาจขาดทุน 1-2 ปีติดต่อกันก็เป็นไปได้ หรือบางกองทุน ผู้ลงทุนเข้าไปลงทุนผิดจังหวะ เช่น กองทุนหุ้น เข้าไปลงทุนในช่วงที่ราคาสูงๆ หรือที่เรียกว่า “ดอย” ใช้เวลาถึง 3 ปีกว่าจะกลับมาที่เดิม ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เหล่านี้แปลว่ากองทุนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะติดลบ หากผู้ลงทุนรับไม่ได้ก็แปลว่า […]