กองทุน B-CHINAARMF Q3/2023

กองทุน B-CHINAARMF Q3/2023

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีนเอแชร์เพื่อการเลี้ยงชีพ (B-CHINAARMF)  “ผู้จัดการกองทุนมองว่า ภาครัฐจีนจะทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงต่อจากนี้ และมาตรการต่างๆ จะเป็นรูปธรรมมากขึ้น น่าจะส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนและความเชื่อมั่นค่อยๆ กลับมา” แม้ตลาดหุ้นจีนจะมีการฟื้นตัวเล็กน้อยในช่วงต้นไตรมาสสอง แต่หลังจากนั้นก็ปรับตัวลง โดยเฉพาะในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากมาตการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตลาดมองว่ายังไม่มากพอ และความกังวลด้านอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ในเดือนกันยายน ผู้จัดการกองทุนเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกเล็กน้อย จากเงินลงทุนจากต่างชาติเข้ามาที่ตลาดหุ้นจีน ตลาดรองของอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น และตัวเลขการลงทุนในประเทศเริ่มดีขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป ผู้จัดการกองทุนมองว่า ภาครัฐจีนจะทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงต่อจากนี้ และมาตรการต่างๆ จะเป็นรูปธรรมมากขึ้น น่าจะส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนและความเชื่อมั่นค่อยๆ กลับมา พอร์ตการลงทุน ผู้จัดการกองทุนมีมุมมองเชิงบวกกับภาคการบริโภคในประเทศ จึงมีน้ำหนักในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยมากกว่าดัชนี ในขณะที่มีน้ำหนักในกลุ่มเทคโนโลยีน้อยกว่าดัชนี  ผู้จัดการกองทุนให้น้ำหนักกับหุ้นที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของจีน และเทคโนโลยี AI เช่น ในเดือนสิงหาคมได้ลงทุนเพิ่มในหุ้นอุปกรณ์เน็ตเวิร์คRouter และเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ ซึ่งจะได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของ AI ที่ต้องใช้Server เพิ่มขึ้น และขายหุ้นด้านอาหาร ธนาคาร กองทุนลงทุนโดยคัดเลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตเชิงโครงสร้างในระยะยาวของประเทศจีน  ดังนี้  1) การพึ่งพาการเติบโตในประเทศ2) พลังงานสะอาด 3) การใช้อินโนเวชั่นและเทคโนโลยีใหม่ๆ  รวมถึง […]

กองทุน B-ASEAN และ B-ASEANRMF Q3/2023

กองทุน B-ASEAN และ B-ASEANRMF Q3/2023

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอาเซียน (B-ASEAN) กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นอาเซียนเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-ASEANRMF)  “ในรายกลุ่มอุตสาหกรรม ผู้จัดการกองทุนเพิ่มน้ำหนักในกลุ่มพลังงานสะอาด (ได้ประโยชน์จากการเติมโตในระยะยาว) และค้าปลีก (เป็นกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ) และลดน้ำหนักในกลุ่มธนาคาร (ราคาปรับขึ้นมาในระดับที่น่าพอใจ และเลือกลดน้ำหนักในหุ้นธนาคารที่เห็นการชะลอตัวของสินเชื่อ)”  ภาพรวมตลาดอาเซียน ฟิลิปปินส์ ตัวเลข GDP ไตรมาสสองออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด การบริโภคในประเทศได้รับแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อและอ้ตราดอกเบี้ย  แต่เห็นสัญญานที่ดีของการลดลงของอัตราเงินเฟ้อตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีนโยบายการคลังที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงที่เหลือของปีด้วย มาเลเซีย แม้ว่าจะได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกทำให้ภาคการส่งออกลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ภาคบริการในประเทศก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง มีปัจจัยหลักจากการท่องเที่ยว นอกจากนี้ การเมืองที่มีเสถียรภาพเป็นตัวหนุนให้มีแนวโน้มว่าจะมีเม็ดเงินจากต่างชาตเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นโดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ ไทย หลังจากมีความชัดเจนด้านการเมืองทำให้มองว่ามีแนวโน้มที่ต่างชาติจะกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องติดตามต่อเนื่อง คือ นโยบายของรัฐบาลที่จะสามารถกระตุ้นการบริโภคและการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่น การให้เงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิตัล และนโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐาน อินโดนีเซีย GDP ไตรมาสสอง ออกมาดี 5.17% yoy ได้รับแรงหนุนจากการบริโภคสวนทางกับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสุง สิงคโปร์ ผลประกอบการของกลุ่มธนาคารและบริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมออกมาเป็นที่น่าพอใจ เช่นเดียวกับการเติบโตในภาพรวม ได้รับแรงหนุนจากการค้าระหว่างประเทศ และการฟื้นตัวต่อเนื่องของการเดินทางทั้งท่องเที่ยวและธุรกิจ เวียดนาม การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วและรุนแรงส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจเวียดยาม เพราะเป็นการลดดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ […]

กองทุน BMAPS25, BMAPS55, BMAPS100, BMAPS25RMF, BMAPS55RMF และ BMAPS100RMF Q3/2023

กองทุน BMAPS25, BMAPS55, BMAPS100, BMAPS25RMF, BMAPS55RMF และ BMAPS100RMF Q3/2023

กองทุนเปิดบัวหลวงบีแมพส์ 25 (BMAPS25) กองทุนเปิดบัวหลวงบีแมพส์ 55 (BMAPS55) กองทุนเปิดบัวหลวงบีแมพส์ 100 (BMAPS100)  กองทุนเปิดบัวหลวงบีแมพส์ 25 เพื่อการเลี้ยงชีพ (BMAPS25RMF) กองทุนเปิดบัวหลวงบีแมพส์ 55เพื่อการเลี้ยงชีพ (BMAPS55RMF) กองทุนเปิดบัวหลวงบีแมพส์ 100 เพื่อการเลี้ยงชีพ (BMAPS100RMF)      ผู้จัดการกองทุนมองว่า ภาพรวมตลาดหุ้นยังคงมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปจะเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่คาดว่าจะเป็นการถดถอยในลักษณะ Soft Landing ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถึงแม้จะมีปัจจัยบวกจากตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ยังคงเติบโต แต่ผลกระทบจากดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดการเงินปรับตัวลดลง รวมถึงภาคธนาคารเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยเงินกู้ นอกจากนี้ ตลาดยังมี Valuation ที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับในอดีต เป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดหุ้นอาจมีการปรับฐานได้ ซึ่งอาจเป็นจังหวะในการเข้าลงทุน ตลาดหุ้นยุโรป มีปัจจัยกดดันที่ลดลงหลังจากที่ราคาพลังงานเริ่มอ่อนตัว ส่งผลให้เศรษฐกิจสามารถหลีกเลี่ยงภาวะหดตัวได้ในปีที่ผ่านมา ตลาดยังคงมีปัจจัยกดดันจากอุปสงค์โดยรวมของโลกโดยเฉพาะจากจีนมีการขยายตัวในระดับที่จำกัด รวมไปถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นต่อเนื่อง  ส่วนตลาดหุ้นจีน ถึงแม้จะมี Valuation อยู่ในระดับต่ำ แต่แนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังคงชะลอตัวและขาดปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจน อนึ่ง นโยบายกระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาดทุนอาจะช่วยรักษา Sentiment […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 27 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,497.15 จุด เพิ่มขึ้น 3.13 จุด (+0.21%)

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 27 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,497.15 จุด เพิ่มขึ้น 3.13 จุด (+0.21%)

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 27 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,497.15 จุด เพิ่มขึ้น 3.13 จุด (+0.21%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,488.14 จุด และสูงสุดที่ 1,499.06 จุด มูลค่าการซื้อขาย 46,636.01 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ PTTEP ปิดที่ 170.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 (+1.19%) มูลค่าการซื้อขาย 2,742.90 ล้านบาท PTT ปิดที่ 34.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 (+0.74%) มูลค่าการซื้อขาย 2,206.65 ล้านบาท SCB ปิดที่ 103.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 (+0.98%) […]

ซีอีโอ เจพีมอร์แกน เตือนทั่วโลกเตรียมรับมือ “เฟด” ขึ้นดอกเบี้ยถึง 7%

ซีอีโอ เจพีมอร์แกน เตือนทั่วโลกเตรียมรับมือ “เฟด” ขึ้นดอกเบี้ยถึง 7%

เจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ธนาคารใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ เตือนว่า โลกต้องเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจขึ้นดอกเบี้ยสูงถึง 7% และจะเกิด stagflation หรือภาวะเงินเฟ้อสูง ในขณะที่เศรษฐกิจชะงักงันพร้อมการว่างงานสูง วันที่ 25 กันยายน 2023 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า เจมี ไดมอน (Jamie Dimon) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค (JPMorgan Chase & Co.) ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ ไทม์ส ออฟ อินเดีย (Times of India) ว่า โลกอาจไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์กรณีที่เลวร้ายที่สุดของอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) […]

Economic Update: กนง.มองเศรษฐกิจไปฟื้นปี 2024 แต่ขอปรับดอกเบี้ยขึ้นก่อนตอนนี้เลย

Economic Update: กนง.มองเศรษฐกิจไปฟื้นปี 2024 แต่ขอปรับดอกเบี้ยขึ้นก่อนตอนนี้เลย

โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist, BBLAM Key Takeaway กนง.มองเศรษฐกิจไปฟื้นปี 2024 แต่ขอปรับดอกเบี้ยขึ้นก่อนตอนนี้เลย กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 % จาก 2.25% เป็น 2.50% ภาพรวมเศรษฐกิจ เศรษฐกิจไทยในภาพรวมอยู่ในทิศทางฟื้นตัว แต่ขยายตัวในอัตราชะลอลงในปี 2023 จากอุปสงค์ต่างประเทศ และจะไปขยายตัวในปี 2024 อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นในปี 2024 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกอปรกับแรงกดดันด้านอุปทานจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ทั้งนี้ ต้องติดตามแรงส่งเพิ่มเติมจากนโยบายภาครัฐต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ มตินโยบายการเงิน เห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปที่ 2.5% เพื่อดูแลให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย รวมทั้งรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินในการรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า ประเมินภาพเศรษฐกิจ เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 2.8%  และ 4.4% ในปี 2023 และ 2024 ตามลำดับ โดยมีแรงส่งสำคัญจากการบริโภคภาคเอกชน สำหรับปีนี้ การขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอลงจากภาคการส่งออกสินค้าและภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด ส่วนหนึ่งจากเศรษฐกิจจีนและวัฏจักรอิเล็กทรอนิกส์โลกที่ฟื้นตัวช้า […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,494.02 จุด ลดลง 13.34 (-0.88%)

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,494.02 จุด ลดลง 13.34 (-0.88%)

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 26 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,494.02 จุด ลดลง 13.34 (-0.88%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,494.02 จุด และสูงสุดที่ 1,514.90 จุด มูลค่าการซื้อขาย 55,609.45 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ PTTEP ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 (+1.20%) มูลค่าการซื้อขาย 3,023.45 ล้านบาท KBANK ปิดที่ 123.00 บาท ลดลง 2.50 (-1.99%) มูลค่าการซื้อขาย 2,676.04 ล้านบาท SAV ปิดที่ 15.30 บาท ลดลง 3.70 (-19.47%) มูลค่าการซื้อขาย […]

ลุ้นช่วง Golden Week ของจีน นักท่องเที่ยวแห่เข้าไทยโต 500% รับมาตรการฟรีวีซ่า

ลุ้นช่วง Golden Week ของจีน นักท่องเที่ยวแห่เข้าไทยโต 500% รับมาตรการฟรีวีซ่า

สำนักข่าวโกลบอลไทมส์ของจีน รายงานว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนเตรียมแห่เดินทางออกนอกประเทศในช่วงเทศกาลวันหยุด Golden Week ซึ่งตรงกับวันที่ 29 ก.ย.-6 ต.ค. บริษัทท่องเที่ยวหลายแห่ง เปิดเผยว่า การเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนในช่วง Golden Week ถือเป็นการเดินทางท่องเที่ยวออกนอกประเทศครั้งใหญ่ที่สุดของชาวจีน นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 และการเดินทางไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้แรงกระตุ้นจากการผ่อนคลายนโยบายของไทย จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อไป สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย ได้เป็นประธานให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวตามมาตรการวีซ่าฟรีชั่วคราวให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน และคาซัคสถาน โดยเริ่มวันนี้เป็นวันแรก ตัวแทนจากบริษัท Spring Tours เปิดเผยว่า ชาวจีนให้ความสนใจต่อมาตรการวีซ่าฟรีของไทยเป็นอย่างมาก จนทำให้แพคเกจทัวร์ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.-1 ต.ค. ถูกขายจนเกือบเต็มแล้ว ขณะที่ แพคเกจทัวร์สำหรับวันที่ 2-6 ต.ค.ก็เหลืออีกไม่มากนัก ส่วน Trip.com เปิดเผยว่า การค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวของไทยพุ่งขึ้น 800% นับตั้งแต่ที่ไทยประกาศมาตรการวีซ่าฟรี และคาดว่า ชาวจีนจำนวนมากจะเดินทางเข้ามายังประเทศไทยในช่วงเทศกาล Golden […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,507.36 จุด ลดลง 15.23 (-1.00%) 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,507.36 จุด ลดลง 15.23 (-1.00%) 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 25 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,507.36 จุด ลดลง 15.23 (-1.00%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,507.36 จุด และสูงสุดที่ 1,524.97 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,194.46 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ BDMS ปิดที่ 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 (+1.90%) มูลค่าการซื้อขาย 2,170.24 ล้านบาท AOT ปิดที่ 69.50 บาท ลดลง 0.75 (-1.70%) มูลค่าการซื้อขาย 1,595.20 ล้านบาท PTT ปิดที่ 33.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,594.44 ล้านบาท EA […]

ต่างชาติ ฟันธง ‘บาทไทย’ จ่อแข็งค่าแตะ 34 บาทต่อดอลล์ หวังเศรษฐกิจฟื้น – ท่องเที่ยวรีบาวด์

ต่างชาติ ฟันธง ‘บาทไทย’ จ่อแข็งค่าแตะ 34 บาทต่อดอลล์ หวังเศรษฐกิจฟื้น – ท่องเที่ยวรีบาวด์

นักวิเคราะห์ต่างชาติ ฟันธง “เงินบาทไทย” จ่อแข็งค่าขึ้น 5% แตะ 34 บาทต่อดอลลาร์ หวังเศรษฐกิจฟื้น และคาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่ง สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานถ้อยแถลงของนักวิเคราะห์จาก Ebury และ Societe Generale SA วันนี้ (25 ก.ย.66) ว่า “เงินบาทไทย” มีแนวโน้มฟื้นตัวแตะระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน โดยนักกลยุทธ์ตลาดเงินที่ Ebury และ Societe Generale SA คาดว่า เงินบาทไทยจะปรับตัวมาอยู่ที่ 34 บาทต่อดอลลาร์ ภายในสิ้นปี ซึ่งแข็งกว่าระดับปัจจุบันมากกว่า 5% โดยค่าเงินบาทที่มีเสถียรภาพจะช่วยลดภาระหนี้ของภาครัฐ (Sovereign Debt) ​และลดแรงกดดันต่อตลาดหุ้นไทย ตามรายการของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี “ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจัยเสี่ยงเฉพาะตัวของไทยที่กระทบต่อเศรษฐกิจลดลงอย่างมาก เริ่มต้นจากความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน” […]