ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ต.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,469.46 จุด ลดลง 1.97 จุด (-0.13%) 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ต.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,469.46 จุด ลดลง 1.97 จุด (-0.13%) 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ต.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,469.46 จุด ลดลง 1.97 จุด (-0.13%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,461.66 จุด และสูงสุดที่ 1,478.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 45,356.23 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ DELTA ปิดที่ 87.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.25 (+5.14%)  มูลค่าการซื้อขาย 5,325.21 ล้านบาท PTT ปิดที่ 33.25 บาท ลดลง 0.25 (-0.75%) มูลค่าการซื้อขาย 3,160.78 ล้านบาท ADVANC ปิดที่ 228.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,741.16 ล้านบาท […]

‘เวิลด์แบงก์’ หั่นคาดการณ์ GDP เอเชียเหลือโต 5% จีน-ไทย-เวียดนาม หนี้ภาคธุรกิจพุ่งเร็ว

‘เวิลด์แบงก์’ หั่นคาดการณ์ GDP เอเชียเหลือโต 5% จีน-ไทย-เวียดนาม หนี้ภาคธุรกิจพุ่งเร็ว

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตสำหรับประเทศเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก โดยระบุถึง จีนและดีมานด์ทั่วโลกที่ซบเซา ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูงและการค้าที่ซบเซา เวิลด์แบงก์ กล่าวว่า ขณะนี้ คาดว่า ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกจะเติบโต 5% ในปี 2566 ตามรายงานเดือนตุลาคม ซึ่งน้อยกว่าการคาดการณ์ 5.1% ในเดือนเมษายนเล็กน้อย สำหรับปี 2567 คาดว่าภูมิภาคนี้จะเติบโต 4.5% ลดลงจากการคาดการณ์ที่ 4.8% ในเดือนเมษายน ขณะเดียวกัน เวิลด์แบงก์คงการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับจีนในปี 2566 ไว้ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 5.1% แต่ได้ปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2567 ลงเหลือ 4.4% จาก 4.8% โดยระบุถึงปัจจัยเชิงโครงสร้างในระยะยาว ระดับหนี้ที่สูงขึ้นในเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และความอ่อนแอในภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นเหตุผลในการปรับลดอันดับ เวิลด์แบงก์ กล่าวว่า “แม้ว่าปัจจัยภายในประเทศมีแนวโน้มที่จะมีอิทธิพลเหนือการเติบโตในจีน แต่ปัจจัยภายนอกจะมีอิทธิพลที่แข็งแกร่งต่อการเติบโตในพื้นที่ส่วนใหญ่ของภูมิภาค” แม้ว่าเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกส่วนใหญ่ฟื้นตัวจากเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่ปี 2563 […]

BBLAM Weekly Investment Insights 2-6 ตุลาคม 2023

BBLAM Weekly Investment Insights 2-6 ตุลาคม 2023

The Rise of Asia INVESTMENT STRATEGY BBLAM X INVESCO “หุ้นเอเชียปัจจุบันซื้อขายในมูลค่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว และยังถูกกว่าหุ้นของประเทศพัฒนาแล้วอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งๆ ที่ หลายๆ ประเทศมีปัจจัยพื้นฐานดี สำหรับจีน และฮ่องกง ผู้จัดการกองทุนก็ยังมองว่าลงทุน ณ ความเสี่ยงปัจจุบันก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนดีในอนาคตเมื่อจังหวะมาถึง” ผู้จัดการกองทุนจาก Invesco ซึ่งบริหารจัดการกองทุนหลักให้กับ B-ASIA และกองทุนลดหย่อนภาษี ได้แก่ B-ASIARMF และ B-ASIASSF พูดถึงมุมมองการลงทุนในหุ้น ASIA – Ex Japan ว่าโอกาสลงทุนในภูมิภาคนี้ถูกบดบังโดยสิ้นเชิงจากการที่จีนทำความหวังได้แค่สั้นๆ เมื่อเปิดประเทศ แต่ต่อมาก็ประสบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อ่อนแอเป็นอย่างมาก มากลบความเด่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความแข็งแกร่งของเงินออม และด้านงบดุลของประเทศ รวมไปถึงธุรกิจก็เริ่มปรับปรุงปัจจัยพื้นฐานได้ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้ก็กระทบต่อตลาดหุ้นของจีนด้วย  สำหรับประเทศเอเชียอื่นๆ เมื่อพิจารณาแล้วต่างก็ได้ประโยชน์จากการที่รัฐบาลสามารถใช้นโยบายเศรษฐกิจแบบยืดหยุ่นได้อยู่ อย่างไรก็ตาม ประเทศเหล่านี้ตลาดหุ้นต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้มูลค่าหุ้นต่างก็ซื้อขายต่ำกว่าราคาพื้นฐานระยะยาวที่ควรจะเป็นและถูกกว่าตลาดพัมนาแล้ว อย่างเช่น สหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ […]