มาเลเซียเตรียมลดการผลิตน้ำมันดิบลง 1.36 แสนบาร์เรลต่อวันขานรับกลุ่มโอเปกพลัส

มาเลเซียเตรียมลดการผลิตน้ำมันดิบลง 1.36 แสนบาร์เรลต่อวันขานรับกลุ่มโอเปกพลัส

รายงานข่าวจากรอยเตอร์ส ระบุว่า มาเลเซียตกลงที่จะลดการผลิตน้ำมันดิบลง 136,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ค. และ มิ.ย. นี้ แม้มาเลเซียจะเป็นผู้ผลิตรายเล็กและเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิก็ตาม แนวทางนี้ สะท้อนให้เห็นว่าถึงความยินดีในข้อตกลงระหว่างสมาชิกประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปกและพันธมิตรในการปรับลดอุปทานเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดน้ำมันโลก Mustapa Mohamed รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์สว่า การปรับลดการผลิตของมาเลเซียสอดคล้องกับความพยายามของกลุ่มประเทศโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปก ซึ่งเราขอย้ำถึงความมุ่งมั่นในการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันโลก แม้จะเป็นผู้ผลิตรายเล็กและผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิก็ตาม แม้จะมีการปรับลดการผลิตลง แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่มาเลเซียจะต้องรักษาบรรยากาศการลงทุนที่ดีตั้งแต่ต้นน้ำ ซึ่งนับเป็นตลาดเสรีที่มีผู้มีส่วนร่วมมากกว่า 20 ราย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่อยู่ในสัญญา Petroleum Arrangement Contract (PAC)  

IMF ปรับประมาณการ GDP โลกลง -3.0% ในปีนี้

IMF ปรับประมาณการ GDP โลกลง -3.0% ในปีนี้

BF Economic Research กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดเศรษฐกิจโลกปีนี้จะหดตัว -3.0% ปรับลดลงจากประมาณการครั้งก่อนในเดือน ม.ค. ที่คาดว่าจะขยายตัว 3.3% และนับเป็นการหดตัวมากที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำปี 1929 และต่ำกว่าวิกฤตเศรษฐกิจปี 2009 ที่หดตัว -0.1% จากการระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลให้หลายๆ ประเทศใช้มาตรการคุมเข้มซึ่งได้ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักฉับพลัน โดยประมาณการดังกล่าวตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าการระบาดของ COVID-19 และการใช้มาตรการคุมเข้มต่างๆ จะคลี่คลายลงในช่วงครึ่งหลังของปี แต่ในกรณีแย่สุดที่การระบาดยังไม่สามารถควบคุมได้ภายในช่วงครึ่งปีแรก และมาตรการปิดเมืองยังคงอยู่ไปจนถึงครึ่งหลังของปีเศรษฐกิจโลกอาจหดตัวเพิ่มเติมอีก -3ppt (เป็น -6.0%) IMF ระบุสภาวะทางเศรษฐกิจได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางการระบาดรุนแรงของ COVID-19 ที่แพร่กระจายทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยวิกฤตในครั้งนี้ หรือที่ IMF เรียกว่า ‘The Great Lockdown’ ไม่เหมือนวิกฤตเศรษฐกิจครั้งก่อนๆ ที่รัฐบาลสามารถกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ทันทีผ่านการกระตุ้นอุปสงค์ โดยวิกฤตครั้งนี้ เป็นผลมาจากการใช้มาตรการคุมเข้มเพื่อระงับการระบาดของไวรัสผ่าน การลดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เช่น […]

ดัชนีหุ้นไทย 14 เม.ย. 63 ปิดตลาด 1,256.35 จุด เพิ่มขึ้น 19.57 จุด

ดัชนีหุ้นไทย 14 เม.ย. 63 ปิดตลาด 1,256.35 จุด เพิ่มขึ้น 19.57 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 เม.ย. 2563 ปิดตลาดที่ 1,256.35 จุด เพิ่มขึ้น 19.57 จุด หรือ 1.58% โดยระหว่างวันสูงสุดที่ 1,267.55 จุด ต่ำสุดที่  1,241.10  จุด มูลค่าการซื้อขาย 76,434.03 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.BAM ปิดที่ 21.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท (+0.92%) มูลค่าการซื้อขาย 4,279.44 ลบ. 2.CPALL ปิดที่ 64.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (0.78%) มูลค่าการซื้อขาย 3,279.56 ลบ. 3.PTT ปิดที่ 36.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท (+0.70%) มูลค่าการซื้อขาย 2,886.07 […]

IMF เร่งผ่อนปรนหนี้ ช่วยเหลือ 25 ประเทศ รับมือโควิด-19

IMF เร่งผ่อนปรนหนี้ ช่วยเหลือ 25 ประเทศ รับมือโควิด-19

รายงานข่าวจากรอยเตอร์ส ระบุว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) พิจารณาผ่อนปรนหนี้ ช่วยเหลือ 25  ประเทศ รับมือกับการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) IMF เผยว่า จะให้การบรรเทาหนี้โดยทันทีแก่ประเทศสมาชิกทั้ง 25 ประเทศที่อยู่ภายใต้โปรแกรม Catastrophe Containment and Relief Trust (CCRT ) ที่ IMF ปรับปรุงใหม่ โดยความช่วยเหลือนี้จะมุ่งเน้นบรรเทาทุกข์ด้านการเงินมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 Kristalina Georgieva ผู้อำนวยการ IMF ระบุในแถลงการณ์ว่า มาตรการดังกล่าวจะมุ่งช่วยเหลือทางการเงินแก่สมาชิก โดยจะได้รับความช่วยเหลือและการชดเชยจะครอบคลุมภาระหนี้ของประเทศเหล่านั้นในระยะเวลา 6 เดือนข้างหน้า และทำให้พวกเขาเข้าถึงแหล่งเงินเพื่อช่วยเหลือทางการแพทย์และการบรรเทาสถานการณ์อื่น ๆ ที่จำเป็น เขา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันโปรแกรม CCRT มีเงินสำรองสำหรับให้การช่วยเหลือประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้การผลักดันของ IMF เพื่อเพิ่มจำนวนเงินกองทุนแตะ 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ […]

ดัชนีหุ้นไทย 13 เม.ย. 63 ปิดตลาดที่ 1,236.78 จุด เพิ่มขึ้น 8.75 จุดหรือ 0.71%

ดัชนีหุ้นไทย 13 เม.ย. 63 ปิดตลาดที่ 1,236.78 จุด เพิ่มขึ้น 8.75 จุดหรือ 0.71%

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 13 เม.ย. 2563 ปิดตลาดที่ 1,236.78 จุด เพิ่มขึ้น 8.75 จุดหรือ 0.71% โดยระหว่างวันสูงสุดที่ 1,237.23 จุด ต่ำสุดที่  1,220.00  จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,474.55 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.AOT ปิดที่ 55.75 บาทลดลง -1.50 บาทมูลค่าการซื้อขาย 3,108.64 ลบ 2.GULF ปิดที่ 177.00 บาทลดลง -1.50 บาทมูลค่าการซื้อขาย 2,401.67 ลบ 3.PTT ปิดที่ 35.75 บาทลดลง -0.25 บาทมูลค่าการซื้อขาย 2,314.56 ลบ 4.BAM ปิดที่ 21.70 บาทลดลง -0.20 บาทมูลค่าการซื้อขาย 2,205.15 ลบ 5.SAWAD ปิดที่ 54.00 […]

แอปเปิ้ลและกูเกิลผนึกกำลังติดตามการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยแอปบนไอโฟนและแอนดรอยด์

แอปเปิ้ลและกูเกิลผนึกกำลังติดตามการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยแอปบนไอโฟนและแอนดรอยด์

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า แอปเปิ้ลและกูเกิลประกาศความร่วมมือกันเมื่อวันศุกร์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจะทำงานร่วมกันใน 2 ประเทศ เพื่อจัดหาเครื่องมือที่จะช่วยติดตามการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) แอปเปิ้ล ให้ข้อมูลว่า ทั้ง 2 บริษัทจะเปิดตัวเครื่องมือนี้ในเดือน พ.ค. ซึ่งจะทำให้เปิดใช้งานได้ทั้งจากอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และไอโอเอส โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานสาธารณสุขเป็นผู้ใช้งาน ซึ่งแอปนี้จะเปิดตัวบนแอปสโตร์และกูเกิล เพลย์ สโตร์ ก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญเริ่มขอให้ภาคเอกชนเข้ามาช่วยเรื่องการติดตามไวรัสแพร่ระบาดด้วยการใช้เทคนิคการเข้าระวังโรค ที่สามารถติดตามการแพร่ระบาดของโรคได้ ซึ่งบริษัทเทคโนโลยีอยู่ในจุดที่ทำเรื่องนี้ได้ดี เนื่องจากประชาชนเกือบทั้งหมดในสหรัฐฯ มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้เป็นของตัวเอง ขณะที่การระดมทุนของภาครัฐเพื่อเฝ้าระวังอาการก็ทำได้ยากเต็มที “กูเกิลและแอปเปิ้ลประกาศความร่วมมือครั้งนี้ โดยจะใช้งานเทคโนโลยีบลูทูธ เพื่อช่วยภาครัฐและหน่วยงานสาธารณสุขลดการแพร่ระบาดของไวรัส โดยการออกแบบคำนึงถึงเรื่องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานและความปลอดภัยเป็นหลัก” แถลงการณ์ความร่วมมือ ระบุ สำหรับ บลูทูธ สามารถใช้ติดตามตำแหน่งของโทรศัพท์ได้ ซึ่งบ่อยครั้งบลูทูธ สามารถระบุตำแหน่งได้แม่นยำกว่าสัญญาณโทรศัพท์มือถือหรือระบบกำหนดตำแหน่ง (จีพีเอส) โดยเครื่องมือจากแอปเปิ้ลและกูเกิลจะทำให้แอปใช้งานบลูทูธได้ เพื่อทำให้ประชาชนรู้เมื่อพวกเขาเข้าไปใกล้หรือติดต่อกับบางคนซึ่งได้รับการวิเคราะห์ว่าเป็นโควิด-19 โดยกระบวนการนี้เรียกว่า ติดตามการติดต่อ นอกจากนี้ ลำดับถัดไป แอปเปิ้ลและกูเกิลจะทำงานร่วมกันเพื่อเปิดให้ใช้แพลตฟอร์มติดตามการติดต่อได้ในต่างประเทศ โดยการสร้างฟังก์ชันนี้ขึ้นมาในแพลตฟอร์มพื้นฐาน  

Fund Comment มีนาคม 2563 : มุมมองตลาดตราสารหนี้

Fund Comment มีนาคม 2563 : มุมมองตลาดตราสารหนี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยในเดือน มี.ค. ปรับตัวผันผวน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นปรับลดลงในช่วง -16 ถึง -23 bps สอดคล้องกับการลดลงของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับเพิ่มขึ้นในช่วง +1 ถึง +70 bps จากปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของ Covid-19 และผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งยังไม่มีสัญญาณว่าการแพร่ระบาดจะไปถึงจุดสูงสุดหรือสามารถควบคุมได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความตื่นตระหนกและเทขายสินทรัพย์ต่าง ๆ รวมทั้งพันธบัตรรัฐบาลเพื่อถือเงินสดจนกระทบต่อสภาพคล่องในตลาดการเงิน ธนาคารกลางทั่วโลกจึงพากันประกาศลดอัตราดอกเบี้ยและออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อบรรเทาผลกระทบ สำหรับธนาคารกลางหลักของโลก ได้แก่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 50 bps มาอยู่ที่กรอบ 1-1.25% ในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวันที่ 3 มี.ค. และจากจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19 ในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ Fed ประชุมฉุกเฉินอีกครั้งในวันที่ 16 มี.ค. และมีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 100 bps มาอยู่ที่กรอบ 0-0.25% พร้อมทั้งออกมาตรการซื้อสินทรัพย์ […]

Fund Comment มีนาคม 2563 : ภาพรวมตลาดหุ้น

Fund Comment มีนาคม 2563 : ภาพรวมตลาดหุ้น

ภาพรวมการลงทุนในไตรมาสแรกของปีนี้เต็มไปด้วยความผันผวน โดยหลังจากที่ตลาดหุ้นโลกได้ทำจุดสูงสุดในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ แล้วปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว โดยตลาดหุ้นหลายแห่งปรับตัวลงไปทำจุดต่ำสุดที่ประมาณ -30% นับจากต้นปี จนถึงเดือนมีนาคม และเป็นการเข้าสู่ตลาดหมีหรือเป็นการลดลงจากจุดสูงสุดมากกว่า 20% ที่เร็วที่สุดประวัติศาสตร์ จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ได้กลายเป็นการแพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลก ทุกประเทศต้องใช้มาตรการต่างๆในการรับมือ ทั้งการปิดเมือง การจำกัดการเดินทาง และการหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกเกิดภาวะชะงักงัน และมีโอกาสที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างแน่นอนแล้วในปีนี้  ความต้องการบริโภคที่หายไปอย่างกะทันหันเช่นนี้ ทำให้เกิดผลกระทบในเชิงกว้าง รวมถึง สงครามราคาน้ำมันระหว่างบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลักที่ไม่สามารถเจรจาลดกำลังผลิตได้ ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลงแรง ภาวะดังกล่าวนี้ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกอุตสาหกรรมยุคใหม่ ที่เศรษฐกิจของทั่วโลกนั้นมีการเชื่อมโยงกันสูง ทำให้เกิดผลกระทบค่อนข้างมาก การตอบสนองของรัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกในเวลานี้ จึงมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน โดยผู้ที่มีอิทธิพลหลักอย่าง เฟด ได้ลดดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็วจนใกล้ศูนย์ เป็นการลดที่เร็วกว่าการถดถอยครั้งไหนๆ รวมทั้งใช้การอัดฉีดสภาพคล่องเพื่อให้ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่จากภาครัฐบาล ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก ซึ่งช่วยลดความกลัวของนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงของการล้มละลายของบริษัทจำนวนมากลงไปได้ ด้านตลาดหุ้นไทยในปี 2020 นี้ ปรับตัวลงมาแล้วราว 30% YTD โดยในเดือนมีนาคมปรับตัวลดลงราว 16% จากปัจจัยลบต่างๆ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 7.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ขายสุทธิ […]

เกือบ 6 ปี กับผลตอบแทนที่ไม่ใช่ตัวเงินจากการลงทุนผ่าน BKIND ตอนที่ 5 (ตอนสุดท้าย)

เกือบ 6 ปี กับผลตอบแทนที่ไม่ใช่ตัวเงินจากการลงทุนผ่าน BKIND ตอนที่ 5 (ตอนสุดท้าย)

โดย วรวรรณ ธาราราภูมิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) กองทุนรวม คนไทยใจดี (BKIND) จัดตั้งมาตั้งแต่ 30 ตุลาคม 2557 ปีนี้ก็ 5 ปีเต็ม ย่างเข้าสู่ปีที่ 6แล้ว โดย BKIND เป็นกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ที่ผ่านเกณฑ์ ESG ของ บลจ.บัวหลวง (E คือ การดูแลสิ่งแวดล้อม / S คือ ความรับผิดชอบต่อสังคม / G คือ การทำธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลและการต่อต้านคอร์รัปชัน) กองทุนนี้ นอกจากจะลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินแล้ว ยังมอบผลตอบแทนทางใจอย่างใหญ่หลวงอีกด้วย เพราะ BKIND แบ่งรายได้จากค่าจัดการกองทุนถึง 40% ไปบริจาคให้โครงการที่จะส่งผลดีโดยตรงต่อสังคม และต่อพวกเราโดยทางอ้อม ในช่วงกว่า 5 ปีที่ผ่านมา […]

เกือบ 6 ปี กับผลตอบแทนที่ไม่ใช่ตัวเงินจากการลงทุนผ่าน BKIND ตอนที่ 4/5   

เกือบ 6 ปี กับผลตอบแทนที่ไม่ใช่ตัวเงินจากการลงทุนผ่าน BKIND ตอนที่ 4/5  

  โดย วรวรรณ ธาราราภูมิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) กองทุนรวม คนไทยใจดี (BKIND) จัดตั้งมาตั้งแต่ 30 ตุลาคม 2557 ปีนี้ก็ 5 ปีเต็ม ย่างเข้าสู่ปีที่ 6แล้ว โดย BKIND เป็นกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย ที่ผ่านเกณฑ์ ESG ของ บลจ.บัวหลวง (E คือ การดูแลสิ่งแวดล้อม / S คือ ความรับผิดชอบต่อสังคม / G คือ การทำธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลและการต่อต้านคอร์รัปชัน) กองทุนนี้ นอกจากจะลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินแล้ว ยังมอบผลตอบแทนทางใจอย่างใหญ่หลวงอีกด้วย เพราะ BKIND แบ่งรายได้จากค่าจัดการกองทุนถึง 40% ไปบริจาคให้โครงการที่จะส่งผลดีโดยตรงต่อสังคม และต่อพวกเราโดยทางอ้อม ในช่วงกว่า 5 […]