ธนาคารกลางอินโดนีเซียปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 25 bps เป็น 5.50%
ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นอีก 25 bps ในการประชุมวันนี้ จาก 5.25% เป็น 5.50% เพื่อพยุงรูเปียห์ที่อ่อนค่าลง หลังเกิดวิกฤตค่าเงินตุรกี โดยเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ของปี 2018 รวมทั้ง 4 ครั้ง BI ปรับขึ้นมาแล้ว 125 bps ส่งผลให้ BI นับเป็นหนึ่งในธนาคารกลางที่มีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมากที่สุดในเอเชีย ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา รูเปียห์ได้อ่อนค่าลงมาประมาณ 7% จากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด (Current Account) ที่เพิ่มขึ้น และสัดส่วนการถือครองพันธบัตรรัฐบาลของต่างชาติที่สูง เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน ทำให้อินโดนีเซียมีความอ่อนไหวต่อการไหลออกของเงินทุนสูง ซึ่งที่ผ่านมา BI ก็ได้มีการแทรกแซงค่าเงินมาโดยตลอด ส่งผลให้ทุนสำรองระหว่างประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง ด้านประธานาธิบดีของอินโดนีเซียก็ได้ประกาศลดการนำเข้า เพื่อช่วยการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด โดยการปรับอัตราภาษีนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Goods) ขึ้น รวมทั้งเลื่อนโครงการก่อสร้างบางโครงการของรัฐวิสาหกิจออกไปเพื่อลดการนำเข้าสินค้าทุน (Capital Goods) […]
กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชีย (B-ASIA)
สรุปภาวะตลาดหุ้นเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นในช่วง 2Q/2018 ตลาดหุ้นเอเชียจบ 2Q/2018 ด้วยการปรับตัวลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า จากความกังวลของนักลงทุนในประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ในโลกที่ได้สร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นระยะๆ รวมไปถึงความกังวลเรื่องที่ FED อาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ซึ่งการที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นนับเป็นปัจจัยและความท้าทายสำคัญที่ทำให้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค สรุปภาพรวมการลงทุนของกองทุนหลักใน 2Q/2018 ใน 2Q/2018 แม้ว่ากองทุนหลักมีผลการดำเนินงานลดลงที่ -4.8% ตามสถานการณ์ของตลาด แต่ยังคงสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ -5.4% ด้วยการเลือกหุ้นรายตัวที่ค่อนข้างแม่นยำในแต่ละอุตสาหกรรมของผู้จัดการกองทุน ตัวย่างเช่น หุ้นขนาดกลาง เช่น บริษัท China Conch Venture ซึ่งราคาหุ้นในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 19.8% เป็นผู้ให้บริการทางด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรและผู้จัดจำหน่ายวัสดุเกี่ยวกับการก่อสร้าง ที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นจากราคาซีเมนต์ที่ปรับขึ้นและธุรกิจการกำจัดของเสียขยายตัวได้เป็นอย่างดี บริษัท 51job ซึ่งราคาหุ้นในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 13.4% ผู้ให้บริการทางด้านการจัดการเกี่ยวกับทรัพยากรมนุษย์ให้กับธุรกิจในจีน สามารถทำผลการดำเนินงานได้อย่างดี จากธุรกิจการจัดจ้างพนักงานผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต (Online Recruitment Service) เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถกวาดส่วนแบ่งทางการตลาดมาได้จากทั้งผู้ให้บริการแบบ […]
Artificial Intelligence B-FUTURE Morning Brief
จีนเดินหน้าใช้ใบแจ้งหนี้บนบล็อคเชนในร้านอาหาร
ไชน่าเดลี รายงานว่า สำนักงานภาษีในเซินเจิ้นและเทนเซ็นต์ ประกาศออกมาเมื่อปลายสัปดาห์ก่อนว่า ได้นำใบแจ้งหนี้บนบล็อคเชนมาใช้เป็นครั้งแรกในจีนกับร้านอาหาร ทั้งนี้ สำนักงานภาษีระบุว่า บริษัทสามารถลงทะเบียนเพื่อใช้ใบแจ้งหนี้และยื่นภาษีบนแพลตฟอร์มบล็อคเชนที่สนับสนุนโดยเทนเซ็นต์ได้ โดยบล็อคเชนจะผลิตใบแจ้งหนี้ออกมาให้อัตโนมัติหลังจากที่การทำธุรกรรมสำเร็จ Cai Yige ผู้จัดการ ธุรกิจบล็อคเชน ของเทนเซ็นต์ กล่าวว่า เทคโนโลยีบล็อคเชนทำให้เกิดความปลอดภัยในการแบ่งปันข้อมูลและจัดเก็บข้อมูลธุรกรรมในทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการใบแจ้งหนี้ ทำให้ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลใบแจ้งหนี้ได้ สำนักงานภาษีและเทนเซ็นต์ ได้เปิดตัวห้องทดลองนวัตกรรมเมื่อเดือน พ.ค. เพื่อมองหาทางเลือกที่จะเพิ่มประสิทธิภาพบริการด้านภาษีและป้องกันความเสี่ยงโดยการใช้คลาวด์ คอมพิวติ้ง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) บล็อคเชน และบิ๊ก ดาต้า
ระบบไฟฟ้าอัจฉริยะกับอนาคตประเทศไทย
By…จันทร์เพ็ญ กิตติเวทย์วิทยา ท่านผู้อ่านคุ้นหูกับคำว่าระบบสมาร์ทกริด (Smart Grid) กันบ้างไหม? รู้หรือไม่ว่าประเทศไทยได้เริ่มพัฒนาระบบสมาร์ทกริดนี้มาสักพักใหญ่แล้ว แม้ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องของหน่วยงานรัฐ แต่ในอนาคตเชื่อว่าการพัฒนาทางเทคโนโลยีจะทำให้พวกเราทุกคนมีส่วนเกี่ยวข้องไปด้วยกันทั้งสิ้น ความจริง แนวคิดระบบสมาร์ทกริด เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1999 ในรูปแบบของแนวคิดระบบไมโครกริด ภายใต้ The Consortium for Electric Reliability Technology Solutions, (CERTS) โดย Lawrence Berkeley National Laboratory ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยหลักสังกัดกระทรวงพลังงาน (Department of Energy, DOE) ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งการทำงานของระบบไมโครกริดประกอบด้วย แหล่งกําเนิดไฟฟ้าแบบกระจาย เช่น แหล่งผลิตไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ พลังลม ชีวมวล เป็นต้น อุปกรณ์สะสมพลังงานไฟฟ้า แบตเตอรี่ ผู้ใช้ไฟฟ้า ศูนย์ควบคุมไมโครกริดจะเชื่อมต่อกับระบบจําหน่ายไฟฟ้ากําลังภายนอกด้วยสวิทช์ปิดเปิดอีกทีหนึ่ง เพื่อให้ระบบนี้สามารถทำงานได้ใน 2 โหมด นั่นคือ […]
ก.ล.ต.ชี้ค่าเงินตุรกีอ่อนไม่กระทบกองทุนรวมไทย
นางณัฐญา นิยมานุสร ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า กรณีการอ่อนตัวลงของค่าเงินตุรกีในช่วงที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทย มูลค่าการลงทุนของกองทุนรวมไทยในตุรกีมีมูลค่าเพียง 7 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 0.15% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมไทย โดยเป็นการลงทุนของกองทุนรวมตราสารหนี้ 2 กองทุนภายใต้การจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 2 แห่งในเงินฝากและตราสารหนี้ของธนาคารตุรกีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและยูโร ซึ่งได้มีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนอยู่แล้ว ทั้งนี้ ผู้ลงทุนไม่ควรวิตกกังวลจนเกินไป แต่ควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ซึ่งบริษัทจัดการที่มีการลงทุนในตุรกีได้ติดตามสถานการณ์ในประเทศตุรกี และผลกระทบต่อกองทุนรวม รวมถึงดำเนินการเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ ในขณะเดียวกัน ก.ล.ต. ก็จะมีการติดตามสถานการณ์และผลกระทบต่อไปด้วย
หุ้นไทย 14 ส.ค. ปิดตลาด ลดลง 10.61 จุด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดวันนี้ ( 14 ส.ค. 2018) อยู่ที่ระดับ 1,695.35 จุด ลดลง 10.61 จุด หรือ 0.62% โดยระหว่างวันดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,697.06 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,684.00 จุด มูลค่าการซื้อขาย 54,248.54 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ CPALL ปิดที่ 69.25 บาท ลดลง 2.00 บาท (-2.81%) มูลค่าการซื้อขาย 6,030.70 ลบ. PTT ปิดที่ 51.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 3,002.43 ลบ. PTTGC ปิดที่ 82.00 […]
GDP (final) สิงคโปร์ไตรมาส 2/2018 โต 3.9 % YoY ชะลอลงจากไตรมาสที่ผ่านมาที่ขยายตัว 4.5% YoY
GDP (final) ของสิงคโปร์ในไตรมาส 2/2018 ขยายตัว 3.9% YoY ต่ำ และชะลอลงจากไตรมาสที่ผ่านมาซึ่งขยายตัว 4.5% YoY รัฐบาลสิงคโปร์ยังคงประมาณการอัตราเติบโตของเศรษฐกิจประเทศในปี 2018 ไว้ที่กรอบ 2.5-3.5% GDP (final) ของสิงคโปร์ในไตรมาส 2/2018 ขยายตัว 3.9% YoY (เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากประกาศครั้งก่อนหน้าที่ 3.8% YoY) ชะลอลงจากไตรมาสที่ผ่านมาที่ขยายตัว 4.5% YoY โดยได้รับแรงหนุนจากภาคการผลิตซึ่งขยายตัว 10.2 % YoY (ชะลอลงจากไตรมาสที่ผ่านมา ที่ขยายตัว 10.8% YoY) โดยมีอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ไบโอเคมิคอล และวิศวกรรมขนส่ง (Transport engineering) ขยายตัวโดดเด่น ในทางตรงกันข้าม ภาคการก่อสร้างยังคงหดตัวต่อเนื่องที่ -4.6% YoY (ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่หดตัว -5.2 %) สำหรับภาคบริการขยายตัวได้ที่ […]
ไชน่า ยูนิคอม ประกาศแผนลุยลงทุนโครงข่าย 5G ในกรุงปักกิ่ง
ไชน่าเดลี รายงานว่า ไชน่า ยูนิคอม บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน ได้เปิดตัว แผน 5G NEXT เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพื่อรองรับเครือข่ายไร้สายความเร็วสูง 5G ในอนาคตอันใกล้นี้ สำหรับ แผนงานนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างระบบนิเวศของโครงข่าย 5G ด้วยการ เปิด แบ่งปัน เติบโต และชนะไปด้วยกัน โดยจะลงทุนสร้างสถานีโครงข่าย 5G 300 แห่งภายในปีนี้ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งถือเป็น 1 ใน 16 เมืองนำร่องที่จะมีการลงทุน 5G ตามที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ ขณะที่ เมืองอื่นๆ ที่เป็นเมืองนำร่องโครงข่าย 5G ประกอบด้วย เทียนจิน ชิงเต่า หังโจว นานจิง อู่ฮั่น กุ้ยหยาง เฉิงตู เซินเจิ้น ฝูโจว เจิ้งโจว และเสิ่นหยาง Wang Chuanbao […]
BF Knowledge Center Personal Finance Wealth
กลไกกองทุนรวมไว้ใจได้แค่ไหน
กลไกกองทุนรวมไว้ใจได้แค่ไหน โดย…เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP® ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center กองทุนรวมเป็นทางเลือกสำหรับประชาชนทั่วไป ซึ่งมีทั้งผู้ที่เคยลงทุนและไม่เคยลงทุนมาก่อน การจัดตั้งและเสนอขายกองทุนรวมจึงถูกควบคุมดูแล จากสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อให้กองทุนที่ออกแบบมามีความชัดเจน เข้าใจง่าย ให้ทราบว่าเงินของผู้ลงทุนจะถูกนำไปทำอะไร นโยบายการลงทุนเป็นอย่างไร มีความเสี่ยงอะไรบ้าง คนลงทุนก็รู้ว่าเงินของตนเองจะถูกทำไปทำอะไร ในแต่ละวันก็มีกลไกตรวจสอบ และดูแลสิทธิและผลประโยชน์ตามสัดส่วนให้กับผู้ลงทุนอย่างดี แต่หลายคนก็สงสัยว่าการเอาเงินของเราไปให้กองทุนรวมบริหารไว้ใจได้แค่ไหน และปลอดภัยจริงหรือเปล่า ตรงนี้จะอธิบายให้ครอบคลุมทั้ง 2 ด้าน คือปลอดภัย และไม่ปลอดภัย คำว่าปลอดภัยในที่นี้ หมายถึง เป็นรูปแบบการลงทุนที่ปลอดภัย ไว้ใจได้ มีกลไกและกระบวนการทำงานที่ไว้ใจได้ น่าเชื่อถือได้ สำหรับประชาชน อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่ากองทุนรวมเป็นทางเลือกสำหรับประชาชนทั่วไป ดังนั้นจึงมีการควบคุมดูแล ออกแบบให้มีความชัดเจน มีกลไกมาตรฐาน เริ่มตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเลย ไม่ใช่ว่าใครก็จัดตั้งกองทุนรวมได้ คนที่จะจัดตั้งกองทุนรวมได้ ต้องเป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เท่านั้น หรือเรียกย่อๆ ว่า บลจ. ซึ่งบลจ. แต่ละแห่งก็ต้องได้รับใบอนุญาตจาก สำนักงาน […]
3 เทรนด์สำคัญของนักเดินทางที่ผู้ประกอบการควรรู้
By…จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์ การเดินทางในยุคนี้เปลี่ยนแปลงไปมาก นักท่องเที่ยวยุคใหม่ไม่ได้นิยมเดินไปตามหน้าบริษัททัวร์เพื่อเปิดโบรชัวร์เลือกจองทริปเดินทางไปกับคนแปลกหน้าอีกกลุ่มใหญ่อีกต่อไป แต่ชื่นชอบที่จะออกเดินทางตามหาประสบการณ์แปลกใหม่ด้วยตัวเอง ด้วยเหตุนี้ผู้ประกอบการที่มีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวจึงต้องตามติดเทรนด์นี้ให้ดี และปรับกลยุทธ์ให้สอดรับ ทั้งนี้ “Think With Google” เว็บไซต์เครื่องมือในเครือของกูเกิลที่พัฒนามาเพื่อรองรับผู้ประกอบการ ผู้พัฒนาเว็บไซต์และผู้ที่รับหน้าที่ผลักดันเว็บไซต์ให้ติดอันดับนำกรณีศึกษาต่างๆ ที่เสนอผ่านช่องทางนี้ไปใช้ประโยชน์วางแผนธุรกิจ ได้ออกข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับพฤติกรรมนักเดินทางที่ธุรกิจต้องรู้ 3 แนวโน้มเด่นๆ ในปีนี้ โดย Rob Torres ผู้อำนวยการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ของกูเกิล ได้นำเสนอข้อมูลว่า ในยุคนี้ผู้บริโภคสามารถหาสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ในเวลาที่ต้องการ ผลที่ตามมาคือ พวกเขาอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ต้องการมากขึ้น และใจร้อนมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็น สิ่งเหล่านี้ ส่งผลมาถึงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้วย เพราะทำให้วิถีการจองตั๋วเครื่องบินเปลี่ยนไป เทคโนโลยีเข้ามามีอิทธิพลกับการจองมากขึ้น นักเดินทางคาดหวังความช่วยเหลือที่จะเกิดขึ้นบนโลกดิจิทัล เมื่อพวกเขาต้องการข้อมูลหรือมีคำถามออกมา และนักเดินทางก็ยังไขว่คว้าหาประสบการณ์ที่ดีขึ้นจากผู้ให้บริการ ในด้านการอำนวยความสะดวก การตอบสนองความต้องการตอบโจทย์เฉพาะบุคคล และความลื่นไหลไร้รอยต่อในการดำเนินการต่างๆ ขณะที่ กูเกิล ได้ไปร่วมมือกับพันธมิตรทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้มากขึ้น ซึ่งก็พบว่า ในปีนี้มี 3 เทรนด์ที่น่าจับตาและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวจะต้องตอบโจทย์ให้ได้ สำหรับเทรนด์ที่ 1 คือ นักท่องเที่ยวต้องการความรู้สึกมั่นใจ […]