จีนเดินหน้าออกมาตรการคืนเครดิตภาษีมูลค่าเพิ่ม หวังเติมกระแสเงินสดให้ธุรกิจ

จีนเดินหน้าออกมาตรการคืนเครดิตภาษีมูลค่าเพิ่ม หวังเติมกระแสเงินสดให้ธุรกิจ

นายกรัฐมนตรี Li Keqiang ประธานการประชุมผู้บริหารสภาแห่งรัฐ มีมติออกมาว่า จีนเตรียมใช้มาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มในวงกว้างเพื่อสนับสนุนให้การดำเนินงานในตลาดมีความแข็งแกร่ง มีเสถียรภาพ และรักษาความมั่นคงของงานไว้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการพยายามรักษาผลงานทางเศรษฐกิจ ในการประชุมนั้น เน้นย้ำว่า การคืนเครดิตภาษีมูลค่าเพิ่มในปีนี้จะมีมูลค่าประมาณ 1.5 ล้านล้านหยวน (236,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยนี่จะเป็นหนึ่งในมาตรการสนับสนุนธุรกิจโดยตรงและมีประสิทธิภาพด้วย นอกจากนี้จะมีการปฏิรูประบบภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย Li ระบุว่า ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน การคืนเครดิตภาษีมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม ไปจนถึงอุตสาหกรรมการผลิตและอุตสาหกรรมหลักอื่นๆ เป็นสิ่งจำเป็นต่อการเติบโตอย่างมั่นคงในเวลานี้ โดยการดำเนินงานนี้จะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดโดยตรงให้กับองค์กรและจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรรวดเร็วกว่าการลดภาษี ที่ประชุมครั้งนี้ตัดสินใจให้คืนเครดิตภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรขนาดย่อมและขนาดเล็ก ครัวเรือนที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว รวมถึงผู้จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มทั่วไปในทุกกลุ่ม ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 1 ล้านล้านหยวน โดยยอดเครดิตภาษีมูลค่าเพิ่มคงค้างจะถูกรวมเพื่อส่งคืนไปครั้งเดียวภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ส่วนเครดิตที่ถูกเพิ่มมาใหม่จะคืนเต็มจำนวนเป็นรายเดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน นี้ สำหรับยอดเครดิตภาษีมูลค่าเพิ่มคงค้างขององค์กในกลุ่มการผลิต บริการวิจัและเทคนิค ไฟฟ้า เครื่องทำความร้อน การผลิตก๊าซและน้ำรวมถึงห่วงโซ่อุปทาน บริการซอฟต์แวร์และข้อมูลสารสนเทศ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม การขนส่ง บริการจัดเก็บและไปรษณีย์ จะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน โดยกระบวนการคืนเงินจะเริ่มตั้งแต่ 1 กรกฎาคม […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 21 มี.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,673.87 จุด ลดลง 4.64 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 21 มี.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,673.87 จุด ลดลง 4.64 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 21 มี.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,673.87 จุด ลดลง 4.64 จุด (-0.28%) ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,685.78 จุด และต่ำสุดที่ 1,671.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 73,653.26 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.KBANK ปิดที่ 158.50 บาท ลดลง 3.00 บาท (-1.86%) มูลค่าการซื้อขาย 3,810.62 ลบ. 2.TRUE ปิดที่ 4.96 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท (+1.22%) มูลค่าการซื้อขาย 1,953.40 ลบ. 3.BBL ปิดที่ 135.00 […]

ญี่ปุ่นประกาศเตรียมลงทุน 42,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอินเดีย

ญี่ปุ่นประกาศเตรียมลงทุน 42,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอินเดีย

Fumio Kishida นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ออกมาเปิดเผยระหว่างการประชุมกับนายกรัฐมนตรี Narendra Modi ของอินเดียว่า ญี่ปุ่นเตรียมลงทุน 5 ล้านล้านเยน หรือ 42,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอินเดียในช่วง 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ ผู้นำของญี่ปุ่นและอินเดียได้ประชุมร่วมกันเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งทางความมั่นคง ท่ามกลางวิกฤติยูเครนและกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่าง 2 ประเทศ โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเข้าไปสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตเมืองของอินเดีย รวมทั้งรถไฟความเร็วสูงที่ใช้เทคโนโลยีรถไฟหัวกระสุนของญี่ปุ่นด้วย ขณะที่ปี 2014 นายกรัฐมนตรี Shinzo Abe ของญี่ปุ่นในเวลานั้น ประกาศการลงทุน 3.5 ล้านล้านเยน และให้เงินทุนสนับสนุนในช่วง 5 ปี กับอินเดีย ระหว่างที่เดินทางไปเยือนอินเดีย

Credit Suisse หนุนเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นจีน

Credit Suisse หนุนเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นจีน

Credit Suisse ธนาคารสวิตเซอร์แลนด์ ออกมาปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นจีน หลังจากที่ฝ่ายนโยบายของประเทศให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเศรษฐกิจ “เราคิดว่าหุ้นจีนนำเสนอโอกาสที่ราคาจะปรับขึ้น (upside) น่าดึงดูดใจ ด้วยมูลค่าหุ้นที่ยังต่ำ ขณะที่ความพยายามในการควบคุมโควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้จีนมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจำกัดกว่าในช่วงปี 2020 และปี 2021” คณะกรรมการการลงทุนของ Credit Suisse กล่าวไว้ในรายงาน ที่ผ่านมา Credit Suisse จัดให้หุ้นทั่วโลกเป็นกลุ่มที่ควรใช้กลยุทธ์เพิ่มน้ำหนักลงทุน จากเดิมที่มองเป็นกลาง โดยแนะนำให้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นต่อสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนที่รุนแรงขึ้น ที่มา : Reuters

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นญี่ปุ่น (B-NIPPON)

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นญี่ปุ่น (B-NIPPON)

Highlight ตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากราคาปรับลดลงมากแล้ว จึงทำให้ในเดือนกุมภาพันธ์ดัชนีปรับตัวลดลงไม่มากนัก จากความขัดแย้งรัสเซียและยูเครนทำให้หุ้นวัฎจักรที่พึ่งพาดีมานด์จากต่างประเทศปรับตัวลดลง ในขณะที่หุ้นขนาดกลางและเล็กที่เป็นกลุ่มเติบโตสูง ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์หลังจากที่มีแรงขายมากในเดือนมกราคม ภาพรวมตลาด ดัชนี TOPIX ปรับตัวลดลงตั้งแต่ต้นปี โดยในเดือนมกราคมปรับลดลงกว่า 4.84% และ เดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวลงอีกเล็กน้อยที่ 0.47% โดยตลาดญี่ปุ่นมีแรงกดดันจากความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ประเด็นความขัดแย้งรัสเซียและยูเครนที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากราคาปรับลดลงมากแล้ว จึงทำให้ในเดือนกุมภาพันธ์ดัชนีปรับตัวลดลงไม่มากนัก พอร์ตการลงทุน  จากความขัดแย้งรัสเซียและยูเครนทำให้หุ้นวัฎจักรที่พึ่งพาดีมานด์จากต่างประเทศปรับตัวลดลง เช่น Daikin Industries ผู้ผลิตแอร์คอนดิชันเนอร์รายใหญ่ของโลก, Recruit บริษัทบริหารทรัพยากรบุคคล และ Shin-Etsu Chemical สินค้าด้านเคมีภัณฑ์ รวมถึง Sysmex ที่ราคาหุ้นลดลงจากยอดขายในจีน ในขณะที่หุ้นขนาดกลางและเล็กที่เป็นกลุ่มเติบโตสูง ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์หลังจากที่มีแรงขายมากในเดือนมกราคม เช่น Asahi Intecc ผลิตเครื่องมือทางการแพทย์, MonotaRO แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ช และ GMO Payment Gateway ให้บริการด้านการชำระเงิน เป็นต้น […]

กองทุนเปิดฟันด์ออฟฟันด์บัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ (B-IR-FOF) กองทุนเปิดฟันด์ออฟฟันด์บัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (B-IR-FOFRMF)

กองทุนเปิดฟันด์ออฟฟันด์บัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ (B-IR-FOF) กองทุนเปิดฟันด์ออฟฟันด์บัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (B-IR-FOFRMF)

Highlight ปัจจัยหลักที่ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจหุ้นกลุ่มนี้ คือ จากความกังวลเรื่องรัสเซียและยูเครนทำให้ลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้ราคาปรับลดลงอย่างมาในช่วง Lockdown รายได้และกำไรของกลุ่มน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงฟื้นตัว อีกทั้ง หุ้นกลุ่มนี้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลในสำหรับงวด Q4/2564 หลังจากที่ได้ประกาศงดจ่ายเงินปันผลในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนต่างระหว่างอัตราเงินปันผลกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ระดับมากกว่า 4% ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับเพิ่มขึ้นก็ตาม ทำให้ REITs สามารถใช้เป็นเครื่องมือเพื่อใช้กระจายความเสี่ยงของพอร์ตได้ ภาพรวมตลาด ดัชนีของกลุ่ม Property Fund / REIT (SETPREIT) ปรับเพิ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 5.8% จากที่ลดลงในเดือนก่อนหน้า (เดือนมกราคม -7.7%)  ทำให้ตั้งแต่ต้นปี ดัชนีลดลง -2.4% โดยในเดือนกุมภาพันธ์กลุ่มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ Exhibition Centre, retail และ industrial ซึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้นักลงทุนหันมาสนใจหุ้นกลุ่มนี้ คือ จากความกังวลเรื่องรัสเซียและยูเครนทำให้ลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า หุ้นกลุ่มนี้ราคาปรับลดลงอย่างมาในช่วง Lockdown รายได้และกำไรของกลุ่มน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงฟื้นตัว […]

BBLAM Weekly Investment Insights 21-25 มีนาคม 2022

BBLAM Weekly Investment Insights 21-25 มีนาคม 2022

Investment Strategy ตลาดหุ้นของประเทศที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครนโดยตรงจะฟื้นตัวได้เร็ว รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย ดังนั้นในช่วงที่หุ้นไทยย่อตัวลงมา ก็เป็นจังหวะที่ดี นายสันติ ธนะนิรันดร์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน จาก BBLAM  ให้ความเห็นว่า ดังนี้ หุ้นไทยกลุ่มไหนเป็นโอกาส เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีอยู่ ทำให้ BBLAM เชื่อมั่นว่า หุ้นของบริษัทที่อิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ยังมีมูลค่าหุ้นที่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นได้ เช่น กลุ่มธนาคาร การเงิน การท่องเที่ยว ค้าปลีก โรงพยาบาล เป็นต้น จังหวะนี้ใช่หรือไม่ ดังนั้นในช่วงที่มีสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมา BBLAM ก็มองเป็นจังหวะที่ดีในการใช้กลยุทธ์คัดเลือกหุ้นรายตัว จับจังหวะลงทุน เพื่อคาดหวังผลตอบแทนระยะสั้น ถ้าเป็นกองประเภท TRIGGER เหมาะไหม วิธีบริหารกองทุน TRIGGER ของ BBLAM คือ เราจะจับจังหวะซื้อขายหุ้นรายตัว ซึ่งใช้กลยุทธ์แตกต่างจากการลงทุนในกองทุนอื่นที่เน้นลงทุนระยะยาว โดยจะเน้นการทำกำไรเพื่อล็อคผลตอบแทนเป็นระยะ ซึ่งจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่ค่อนข้างสูง ทั้งเรื่องนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สถานการณ์ระหว่างรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 มี.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,678.51 จุด ลดลง 3.25 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 มี.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,678.51 จุด ลดลง 3.25 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 มี.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,678.51 จุด ลดลง 3.25 จุด (-0.19%) ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,685.68 จุด และต่ำสุดที่ 1,677.16 จุด มูลค่าการซื้อขาย 98,135.25 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.KBANK ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 1.50 บาท (-0.92%) มูลค่าการซื้อขาย 5,189.79 ลบ. 2.PTTEP ปิดที่ 145.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท (+1.05%) มูลค่าการซื้อขาย 4,330.46 ลบ. 3.CPALL ปิดที่ 67.25 […]

สตาร์ทอัพที่ Google สนับสนุน เปิดตัวเครื่องมือติดตามการปล่อยคาร์บอน

สตาร์ทอัพที่ Google สนับสนุน เปิดตัวเครื่องมือติดตามการปล่อยคาร์บอน

Normative บริษัทสตาร์ทอัพสวีเดนที่มี Google เป็นผู้สนับสนุน เปิดตัวเครื่องมือติดตามการปล่อยคาร์บอนในเวอร์ชันใช้งานแบบไม่มีค่าใช้จ่าย หลังจากบริษัทต่างๆ ทั่วโลกพยายามที่จะหาวิธีวัดว่าตัวเองจัดการกับรอยเท้าด้านสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง เครื่องมือคำนวณคาร์บอนนี้ถูกออกแบบมาสำหรับธุรกิจขนาดกลางไปจนถึงขนาดเล็ก โดยมีพื้นฐานมาจากสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้หลังจากใส่ข้อมูลบางส่วนลงไปในแบบฟอร์มแล้ว อย่างไรก็ตาม Normative มีการจัดทำเครื่องมือนี้ในรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อขายให้ธุรกิจขนาดใหญ่ด้วย การเผาไม้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นแรงขับเคลื่อนหนึ่งที่นำไปสู่วิกฤติด้านสภาพภูมิอากาศ โดยโลกเราตั้งเป้าหมายที่จะเป็นอิสระจากการพึ่งพาแหล่งพลังงานอย่างน้ำมันและก๊าซมากขึ้นในทศวรรษข้างหน้า ขณะที่ผู้นำและซีอีโอระดับโลกต่างก็ออกมาโน้มน้าวให้พวกเรามุ่งมั่นกับสิ่งที่เรียกว่าการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs คิดเป็น 95% ของธุรกิจทั่วโลก ตามข้อมูลขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) โดยธุรกิจเหล่านี้ส่วนมากจะมีบทบาทในการเชื่อมโยงกับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการขององค์กรขนาดใหญ่ Kristian Ronn ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Normative กล่าวว่า เราต้องทำตั้งแต่ตอนนี้ เรื่องสภาพภูมิอากาศไม่สามารถรอให้เราพร้อมได้ ดังนั้นเราต้องการวัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนและทำให้ทุกคนเข้าถึงการร่วมแข่งขันในการไปสู่การปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์ได้ ทั้งนี้ มีผู้ร่วมงานจำนวนหลายสิบคนจาก Google.org ซึ่งเป็นหน่วยงานการกุศลของ Google ที่เข้ามาช่วยเหลือในการสร้างเครื่องคำนวณการปล่อยคาร์บอนสำหรับใช้งานฟรีนี้ โดยมีทั้งวิศวกรซอฟต์แวร์ นักออกแบบที่คำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (UX) และผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาสนับสนุน Normative เต็มเวลา ในช่วงเวลา 6 เดือน ขณะเดียวกัน Google ยังเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่เข้าลงทุนในบริษัท […]

BBLAM จับจังหวะหุ้นไทยย่อตัวช่วงทั่วโลกฝุ่นตลบ ส่ง ‘TRIGGER 12-22’ ลงสนาม  เสนอขาย IPO วันที่ 21-23 มี.ค. นี้ ตั้งเป้าผลตอบแทน 6% ได้ใน 9 เดือน

BBLAM จับจังหวะหุ้นไทยย่อตัวช่วงทั่วโลกฝุ่นตลบ ส่ง ‘TRIGGER 12-22’ ลงสนาม เสนอขาย IPO วันที่ 21-23 มี.ค. นี้ ตั้งเป้าผลตอบแทน 6% ได้ใน 9 เดือน

ข่าวประชาสัมพันธ์ Press Release นายสันติ ธนะนิรันดร์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีอยู่ ทำให้ BBLAM เชื่อมั่นว่า หุ้นของบริษัทที่อิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ยังมีมูลค่าหุ้นที่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นได้ เช่น กลุ่มธนาคาร การเงิน การท่องเที่ยว ค้าปลีก โรงพยาบาล เป็นต้น ดังนั้น ในช่วงที่มีสถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมา BBLAM ก็มองเป็นจังหวะที่ดีในการใช้กลยุทธ์คัดเลือกหุ้นรายตัว จับจังหวะลงทุน เพื่อคาดหวังผลตอบแทนระยะสั้น จึงเตรียมเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) และเสนอขายเพียงครั้งเดียว กองทุนเปิดบัวหลวงทริกเกอร์ 12-22 หรือ TRIGGER12-22 ระหว่างวันที่ 21-23 มีนาคม 2565 โดยกองทุนนี้ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 6% ในเวลา 9 เดือน “เรามองว่า ตลาดหุ้นของประเทศที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครนโดยตรงจะฟื้นตัวได้เร็ว […]