นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยทะลุ 19 ล้านคน นับตั้งแต่ต้นปี 66
ปี66 ผ่านไป 8 เดือนเศษ นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยแล้ว 19 ล้านคน สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าว Thailand recorded 19 mln foreign tourists so far this year อ้างการเปิดเผยของ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย ว่า ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนไทย ตั้งแต่ 1 ม.ค.-17 ก.ย. 2566 อยู่ที่ 19 ล้านคน สร้างรายได้ 795,000 ล้านบาท (ราว 22,260 ล้านเหรียญสหรัฐ) ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทยเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น และยังเชื่อว่า มาตรการยกเว้นวีซ่าของรัฐบาลสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนจะช่วยส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง ในสัปดาห์นี้ ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) โดยมีช่วงวันหยุดยาวในบางประเทศ เช่น มาเลเซีย ญี่ปุ่น จึงคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยน่าจะเพิ่มขึ้น ขณะที่รัฐบาลชุดใหม่ของไทย […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,527.57 จุด ลดลง 14.46 (-0.94%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 18 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,527.57 จุด ลดลง 14.46 (-0.94%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,525.47 จุด และสูงสุดที่ 1,539.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,566.65 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ PTT ปิดที่ 34.00 บาท ลดลง 1.00 (-2.86%) มูลค่าการซื้อขาย 3,730.36 ล้านบาท COCOCO ปิดที่ 9.65 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 (+4.32%) มูลค่าการซื้อขาย 2,348.11 ล้านบาท PTTEP ปิดที่ 168.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 (+0.30%) มูลค่าการซื้อขาย […]
JPMorgan ฟันธง ปี 67 ยอดระดมทุน ‘ตลาดหุ้นอินเดีย’ อย่างต่ำ 1 ล้านล้านบาท
JPMorgan Chase & Co. ฟันธง ปี 2567 และในอนาคต อินเดียจะเห็นการระดมทุนอย่างน้อย 3 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9.9 แสนล้านบาท) ต่อปี ผ่านการขายหุ้นหลัก และรอง หลังพบบรรดาบริษัทเอกชนพร้อมระดมทุนในตลาดหุ้น สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานโดยอ้างอิงรายงานของ JPMorgan Chase & Co. วันนี้ (18 ก.ย.66) ว่า ในปี 2567 และในอนาคตจะเห็นการระดมทุนในตลาดหุ้นอินเดียอย่างน้อย 3 หมื่นล้านดอลลาร์ (9.9 แสนล้านบาท) ต่อปีผ่านการขายหุ้นหลัก และรอง เนื่องจากกลุ่มบริษัทเอกชน และผู้ถือหุ้นอินเดียเต็มใจที่จะเข้าถึงตลาดเพื่อหาเงินทุนมากขึ้น หากอ้างอิงข้อมูลซึ่งรวบรวมโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก พบว่า ยอดขายหุ้นเพิ่มเติม (Sales of Additional Shares) ในบริษัทจดทะเบียนของอินเดียทะลุ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ (3.3 แสนล้านบาท)ในปีนี้ ซึ่งมากกว่ายอดทั้งหมดในปี 2565 โดย Abhinav […]
B-BHARATA B-DYNAMIC BOND B-FUTURE B-FUTURERMF B-FUTURESSF B-INDIAMRMF B-INNOTECH B-INNOTECHRMF B-INNOTECHSSF B-NIPPON BBLAM Weekly Investment Insights
BBLAM Weekly Investment Insights 18-22 กันยายน 2023
The Rise of Asia INVESTMENT STRATEGY By BBLAM “ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว สภาพคล่องในระบบที่ลดลง Bond Yield ที่อยู่ในระดับสูง กดดัน Valuation ของตลาดหุ้นที่มีมูลค่าสูงเกินไป ถึงแม้จะเป็นจังหวะสะสมหุ้นที่มีเทรนด์เติบโตระยะยาว แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยแวดล้อม ผลตอบแทนของตราสารหนี้เมื่อเทียบกับความเสี่ยงจูงใจกว่าหุ้นเช่นกัน” สัปดาห์นี้ คุณวันภาสิริ พัฒนกิจการุณ จาก Fund Management BBLAM มาพูดถึงว่า ทำไมกองทุนตราสารหนี้เป็น “ผู้ชนะ” และจำเป็นต้องมีในพอร์ตในช่วงที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัว ถึงแม้ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาหุ้นสหรัฐฯจะฟื้นตัวขึ้นมา ภาพรวมตลาดการลงทุนครึ่งปีแรกนั้น ถึงแม้ตลาดหุ้นจะฟื้นตัวขึ้นได้ดีกว่าคาด จากปัจจัยหนุนทางด้านเศรษฐกิจที่ไม่ได้แย่ลงตามที่เคยคาดไว้ และยังคงมีการเติบโตที่ดี ได้แก่ ดัชนีภาคการบริการ การใช้จ่ายภาคการบริโภค และอัตราการว่างงานที่ยังอยู่ในระดับต่ำ อัตราดอกเบี้ยในตลาดที่เพิ่มมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ตามอัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มผ่านพ้นจุดสูงสุด ตามรายงานดัชนี CPI ทั่วไปเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงเหลือเพียง 3.2% จากจุดสูงสุดกว่า 9% ในปีที่แล้ว ทำให้มีแนวโน้มมากขึ้นที่ Fed จะยุติการดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินในปีนี้ […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,542.03 จุด ลดลง 3.11 (-0.20%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,542.03 จุด ลดลง 3.11 (-0.20%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,541.58 จุด และสูงสุดที่ 1,551.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,066.56 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ CRC ปิดที่ 39.25 บาท ลดลง 1.75 (-4.27%)มูลค่าการซื้อขาย 2,370.34 ล้านบาท COCOCO ปิดที่ 9.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.35 (+17.09%) มูลค่าการซื้อขาย 2,322.18 ล้านบาท PTTEP ปิดที่ 167.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 (+0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 2,305.32 […]
‘ซิตี้กรุ๊ป’ เริ่มเจรจาเลิกจ้างพนักงาน หลังปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2566 เวลา 08.50 น. สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า แหล่งข่าวระบุว่า ในขณะที่ ซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) เริ่มดำเนินการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ นอกจากปลดพนักงานฝ่ายบริหารออกแล้ว ยังมีนโยบายลดตำแหน่งงาน โดยตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการกำกับพนักงานในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการบริหารความเสี่ยง เป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะถูกเลิกจ้าง รวมถึงตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีที่ทำงานในหน้าที่ทับซ้อนกันก็มีความเสี่ยงที่จะถูกเลิกจ้างเช่นกัน แหล่งข่าว ระบุว่า ผู้จัดการของซิตี้กรุ๊ปกำลังหารือกับพนักงานเกี่ยวกับการเลิกจ้างที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่ แหล่งข่าวคนหนึ่งกล่าวว่า การประชุมแบบตัวต่อตัวเกี่ยวกับการเลิกจ้างก็เริ่มต้นขึ้นเช่นกัน การเจรจาเกิดขึ้น หลังจากที่ซิตี้กรุ๊ปประกาศเมื่อวันพุธ (13 ก.ย.) ว่า จะเลิกจ้างผู้บริหารและเลิกจ้างงาน เฟรเซอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของซิตี้กรุ๊ป เรียกว่า การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ที่สุดของซิตี้ในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ สามารถควบคุมได้โดยตรงมากขึ้น เพื่อความคล่องตัวในการตัดสินใจ และการบริหารงาน ซึ่งเป็นความพยายามที่จะเพิ่มผลกำไรและราคาหุ้น แหล่งข่าว ระบุว่า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินได้อธิบายการเปลี่ยนแปลงและสร้างความมั่นใจให้กับทีมว่า การยกเครื่องจะช่วยลดระบบราชการและจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมการทำกำไร ซิตี้กรุ๊ปยังคงจัดการกับคำสั่งยินยอมในปี 2563 โดยหน่วยงานกำกับดูแลเรียกร้องให้แก้ไขข้อบกพร่องที่มีมายาวนานหลายประการในการควบคุมภายใน บริษัทกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพุธ (14 ก.ย.) ว่า “การลดความซับซ้อนขององค์กรจะช่วยให้การดำเนินการเปลี่ยนแปลงของ ซิตี้กรุ๊ปมีความสำคัญสูงสุดของบริษัท” ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ซิตี้กรุ๊ปได้ลงทุนอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในระบบเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มการควบคุมความเสี่ยงและการปฏิบัติตามคำสั่งเพื่อขอความยินยอม […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,545.14 จุด เพิ่มขึ้น 9.83 (+0.64%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,545.14 จุด เพิ่มขึ้น 9.83 (+0.64%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,532.48 จุด และสูงสุดที่ 1,547.71 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,574.21 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ COCOCO ปิดที่ 7.90 บาท เพิ่มขึ้น 2.40 (+43.64%) มูลค่าการซื้อขาย 3,080.21 ล้านบาท PTTEP ปิดที่ 167.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,770.19 ล้านบาท KBANK ปิดที่ 131.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 (+1.95%) มูลค่าการซื้อขาย 1,554.52 ล้านบาท EA […]
‘มูดี้ส์’ หั่นแนวโน้มภาคอสังหาฯ ในจีน เป็นลบ จากมีเสถียรภาพ
เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 เวลา 12.49 น. สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า มูดี้ส์ (Moody’s) ปรับลดแนวโน้ม ภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีน ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตของจีนเป็นลบ (negative) จากมีเสถียรภาพ (stable) โดยกล่าวถึงความท้าทายในการเติบโตทางเศรษฐกิจที่จะทำให้ยอดขายลดลง แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการมาสนับสนุนก็ตาม มูดีส์กล่าวว่าคาดว่ายอดขายตามสัญญาจะลดลงประมาณ 5% ในช่วง 6 ถึง 12 เดือนข้างหน้าในจีน และผลกระทบของมาตรการของรัฐบาลในการกระตุ้นการซื้ออสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มว่าจะคงอยู่ระยะสั้นและไม่สม่ำเสมอ ทั้งนี้ การปรับลดแนวโน้มเกิดขึ้นท่ามกลางการผิดนัดชำระหนี้จำนวนมาก โดยบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกบีบด้วยปัญหาสภาพคล่องของ China Evergrande Group ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้มากที่สุดในโลก เป็นศูนย์กลางของวิกฤติในครั้งนี้ วิกฤติดังกล่าวส่งผลให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนรายใหญ่ที่สุดของจีนอย่าง Country Garden Holdings ซึ่งกำลังต่อสู้เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยได้รับการอนุมัติจากเจ้าหนี้ในสัปดาห์นี้ เพื่อขยายอายุการชำระของพันธบัตรในประเทศหลายชุด ที่มา: รอยเตอร์
Economic Update: ราคาพลังงานดันเงินเฟ้อสหรัฐฯในเดือนส.ค. ตลาดยังคาดว่า Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้ง
โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist, BBLAM อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนส.ค.เร่งตัวขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกันที่ 3.7% YoY จาก 3.2% เดือนก่อน สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 3.6% หลักๆ มาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ประกอบกับฐานต่ำจากปีที่แล้ว (ทําให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น) ในรายองค์ประกอบพบว่า ราคาพลังงาน (เมื่อเทียบรายปี) แม้จะยังหดตัว -3.6% YoY แต่เป็นการหดตัวที่ต่ำกว่าเดือนก่อนที่ -12.5% โดยในกลุ่มย่อยของพลังงานพบว่าน้ำมันเตา (หดตัว-14.8% เทียบกับ -26.5%) และน้ำมันเบนซิน (หดตัว-3.3% เทียบกับ -19.9%) ต่างหดตัวในอัตราที่ลดลง นอกจากนี้ต้นทุนการขนส่ง (10.3% เทียบกับ 9%) ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามพบว่าอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวสําหรับราคาไฟฟ้า (2.1% เทียบกับ 3%) อาหาร (4.3% เทียบกับ […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 13 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,535.31 จุด ลดลง 10.19 (-0.66%)
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 13 ก.ย. 2566 ปิดตลาดที่ 1,535.31 จุด ลดลง 10.19 (-0.66%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,533.13 จุด และสูงสุดที่ 1,546.47 จุด มูลค่าการซื้อขาย 44,303.73 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ PTT ปิดที่ 34.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 (+0.72%) มูลค่าการซื้อขาย 2,923.11 ล้านบาท PTTEP ปิดที่ 167.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 (+0.91%) มูลค่าการซื้อขาย 1,527.69 ล้านบาท EA ปิดที่ 58.75 บาท ลดลง 2.25 (-3.69%) มูลค่าการซื้อขาย […]









