บริษัทชิปยักษ์ใหญ่เตรียมใช้จ่ายหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐรับความต้องการเซมิคอนดักเตอร์โต
บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกกำลังเตรียมลงทุนครั้งใหญ่ในด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อรองรับความต้องการที่เติบโต ท่ามกลางการขาดแคลนชิปทั่วโลกที่ยังคงมีอยู่ ผู้รับจ้างผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง TSMC เตรียมลงทุน 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตซิลิกอนเวเฟอรืที่ล้ำสมัย ซึ่งใช้ในชิปหลายประเภท ในเดือนมกราคม 2022 TSMC ระบุว่า เงินลงทุนของบริษัทจะเติบโตถึง 47% ในปี 2022 โดยบริษัทมีแผนใช้จ่าย 40,000 -44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้ เพิ่มจาก 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2021 บริษัทชิปไต้หวันแห่งนี้ ซึ่งมีมูลค่าตามราคาตลาดเกือบ 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้สร้างโรงงานมูลค่า 12,000 ล้านดอลลาร์ศหรัฐ ในฟีนิกซ์ รับแอริโซนา และอีกแห่งในญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต นอกจากนี้บริษัทยังมีโรงงานผลิตอีกหลายแห่งที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ขณะที่ คู่แข่งอย่าง Intel ก็ประกาศเมื่อเดือนมีนาคม 2021 ว่ามีแผนใช้จ่าย 20,000 […]
ผู้เชี่ยวชาญมอง โลกถึงเวลาก้าวข้ามการแพร่ระบาดแล้ว
ดร.Stefanos Kales ศาสตราจารย์จากโรงเรียนแพทย์ Harvard ซึ่งดูแลสาขาเด็กและผู้ใหญ่ ระบุว่า โควิด-19 ไม่ใช่ภัยคุกคามที่ร้ายแรงอีกแล้ว เป็นเพียงสิ่งที่สร้างความรำคาญขัดขวางการเรียน การทำงาน และการเดินทางเท่านั้น ทั้งนี้ เมื่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนไปถึงจุดสูงสุด ไวรัสย่อยๆ ที่จะตามมาหลังจากนั้นก็จะยิ่งอ่อนแอลง เราจำเป็นต้องปล่อยให้คนทั่วไป รวมถึงคนหนุ่มสาว กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ที่มีเหตุผล พูดตรงไปตรงมา และมีความซื่อสัตย์ หลายๆ คน ชี้ว่า โควิด-19 กำลังเคลื่อนย้ายตัวเองอย่างรวดเร็วจากโรคระบาดไปสู่โรคประจำถิ่น เทียบได้กับไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว โควิด-19 เป็นเพียงฝันร้ายมากกว่าภัยคุกคามสุขภาพไปแล้ว ยกเว้นสำหรับผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาสุขภาพและยังไม่ได้รับวัคซีน เขา มองว่า นี่ถึงเวลาแล้วที่จะหยุด หรือลดลงอย่างมาก สำหรับการทดสอบสุขภาพผู้คนที่ไม่แสดงอาการโควิด โดยการทดสอบในวงกว้างสำหรับการเดินทางและทำงาน ทำให้ผู้ป่วยและผู้ที่อ่อนแอพบความยากลำบากมากขึ้นในการทดสอบ “เราก็ไม่ได้ทดสอบคัดกรองผู้คนที่ป่วยเป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ได้ดี ดังนั้นควรจะหยุดทดสอบสุขภาพของเด็กที่ไปโรงเรียนและมหาวิทยาลัย และในเวลานี้ครู และพนักงานต่างมีโอกาสได้รับวัคซีน ดังนั้นพวกเขาจึงมีความเสี่ยงน้อยลงแล้ว” เขา กล่าว ที่มา : CNBC
Toshiba ลงทุน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มกำลังการผลิตชิปไฟฟ้าเป็นเท่าตัว
Toshiba Corp ระบุว่า จะลงทุนประมาณ 125,000 ล้านเยน หรือประมาณ 1,090 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเซมิคอนดักเตร์สำหรับการจัดการพลังงานเป็นเท่าตัว โดยมีเป้าหมายที่จะแข่งขันได้กับผู้ผลิตชิปไฟฟ้ายักษ์ใหญ่อย่าง Infineon Technologies AG ทั้งนี้ บริษัทจะสร้างโรงงานทางภาคกลางของญี่ปุ่น เพื่อผลิตชิปจัดการพลังงาน ซึ่งจะใช้ควบคุมประสิทธิภาพพลังงานไฟฟ้าในรถยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อุตสาหกรรม Toshiba จะลงทุนประมาณ 100,000 ล้านเยน ในโรงงานผลิตใหม่ เพิ่มจาก 25,000 ล้านเยน ที่ลงทุนในสายการผลิต 300 มิลลิเมตร ในโรงงานชิปที่สร้างอยู่แล้ว สำหรับโรงงานใหม่จะเริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคม 2025 เมื่อเฟสแรกเสร็๗ โดยจะทำให้ Toshiba ผลิตชิปได้ 2.5 เท่า จากระดับปัจจุบัน วึ่งการผลิตก็ขึ้นอยู่กับความต้องการ และในโรงงานใหม่ยังสามารถขยายการลงทุนเพิ่มเติมได้อีก ที่มา : Reuters
BF Knowledge Center BMAPS100 BMAPS25 BMAPS55
เปลี่ยนเงินร้อย เป็นเงินล้าน
โดย…อรพรรณ บัวประชุม CFP® ทุกวันนี้ รูปแบบการลงทุนมีให้เลือกอย่างหลากหลาย แต่เราจะเลือกลงทุนในอะไร จำนวนเงินเท่าไหร่ เพื่อให้มีเงินล้านกับเขาบ้าง ถ้าจะลงทุนแค่หลักร้อยจะมีโอกาสได้เงินล้านกับเขาบ้างมั้ย บอกได้เลยว่า ถ้ามีความพยายาม มีความตั้งใจและมีวินัยเพียงพอ การมีเงินล้านไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ลงทุนวันละร้อยบาทก็มีโอกาสได้เงินล้านกับเขาบ้างแล้ว แค่ว่า วันละ 100 บาท เราจะเลือกลงทุนในอะไร ถ้าจะเลือกแบบไม่อยากเสี่ยง หรือเสี่ยงต่ำมากๆ ก็คงหนีไม่พ้นกับการฝากธนาคาร ซึ่งหากฝากแบบออมทรัพย์ ดอกเบี้ยปัจจุบันจะอยู่ที่ 0.25% ฝากทุกวันๆ เป็นเวลา 9,672.4 วัน หรือ 26.5 ปี ก็จะมีเงินล้านแล้ว แต่ถ้าเราลองเปลี่ยนรูปแบบการลงทุน มาลงทุนในกองทุนรวมซึ่งอาจจะต้องเริ่มต้นลงทุนที่ 500 บาท เพื่อไม่ให้เสียโอกาส เราลองดูว่า หากสะสมเงินวันละ 100 บาท เป็นเวลา 30 วัน ก็จะได้เงินจำนวน 3,000 บาทในแต่ละเดือน สำหรับการลงทุนเดือนละครั้ง หากเลือกกองทุนที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนประมาณ 3% […]
รัฐบาล Biden เบรกแผนของไปรษณีย์สหรัฐฯ ที่จะใช้จ่ายงบหลักพันล้านดอลลาร์สหรัฐกับยานพาหนะที่ใช้ก๊าซ
รัฐบาลบริหารของ Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พยายามจะระงับแผนการใช้จ่ายของบริการไปรษณีย์ของสหรัฐฯ ที่วางแผนว่าจะใช้จ่าย 11,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการเปลี่ยนยานพาหนะสำหรับส่งพัสดุที่ใช้พลังงานก๊าซหลายพันคัน โดยชี้ว่ายานพาหนะประเภทนี้จะส่งผลเสียต่อการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ และสุขภาพของประชาชน ทั้งนี้ EPA และสภาคุณภาพสิ่งแวดล้อมของทำเนียบขาว ส่งจดหมายไปถึงบริการไปรษณีย์ของสหรัฐ โดยเรียกร้องและอัปเดตรายละเอียดทางเทคนิค รวมถึงทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับแผนการเปลี่ยนยานพาหนะครั้งนี้ แผนงานของผู้ให้บริการไปรษณีย์ของสหรัฐฯ ที่จะเปลี่ยนยานพาหนะนั้นขัดแย้งกับแผนของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ต้องการจะเปลี่ยนรถยนต์และรถบรรทุกกว่า 600,000 คัน ของรัฐบาลกลางไปสู่ยานพาหนะที่ใช้พลังงานไฟฟ้า และตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนของรัฐบาลกลางลง 65% ภายในปี 2030 นอกจากนี้รัฐบาลยังสัญญาจะลดก๊าซเรือนกระจกเกือบครึ่งหนึ่งภายในปลายทศวรรษนี้ และเปลี่ยนเศรษฐกิจไปสู่การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ภายในช่วงกลางศตวรรษ (ปี 2050) ที่มา : CNBC
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 ก.พ. 2565 ปิดตลาดที่ 1,669.05 จุด เพิ่มขึ้น 1.30 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 3 ก.พ. 2565 ปิดตลาดที่ 1,669.05 จุด เพิ่มขึ้น 1.30 จุด (+0.08%) ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,673.75 จุด และต่ำสุดที่ 1,664.09 จุด มูลค่าการซื้อขาย 68,034.20 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.KTC ปิดที่ 65.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท (+3.15%) มูลค่าการซื้อขาย 2,278.21 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 38.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 1,967.12 ลบ. 3.BBL ปิดที่ 136.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 […]
อินเดียเล็งเปิดตัวอินเซนทีฟสำหรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า 2 เดือนข้างหน้า
รัฐบาลอินเดียอาจจะสรุปการให้ผลตอบแทนจูงใจ (อินเซนทีฟ) กับการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายใต้ 2 เดือนข้างหน้า ท่ามกลางการมุ่งหน้าไปสู่การขับเคลื่อนที่สะอาดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดคาร์บอน นโยบายที่จะออกมานี้ จะมุ่งเน้นไปที่บริการเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซด์ และรถสามล้อ เพื่อกระตุ้นกลุ่มการใช้งานเพื่อส่งสินค้าและบริการการขับขี่ อินเดีย ระบุว่า จะนำเสนอนโยบายใหม่เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแบตเตอรี่ โดยจะอนุญาตให้คนขับรถยนต์ไฟฟ้าเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่แทนแบตเตอรี่ก้อนเดิมที่หมดลงที่สถานีแลกเปลี่ยนแบตเตอรี่ ซึ่งจะมีความรวดเร็วมากกว่าการชาร์จรถยนต์และลดความกังวลของผู้ขับขี่ได้ ผู้บริหารในอุตสาหกรรมรถยนต์ ระบุว่า แบตเตอรี่เป็นชิ้นส่วนที่แพงที่สุดในรถยนต์ไฟฟ้า การเปลี่ยนจะทำให้บริษัทนำเสนอบริการให้เช่าหรือลงทะเบียนใช้งานรถยนต์ได้ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนแทนการเป็นเจ้าของหรือการดำเนินงานด้านรถยนต์ได้ ทั้งนี้รัฐบาลอินเดียมีแนวโน้มจะนำเสนอให้เจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าได้รับผลตอบแทนจูงใจไม่ต่ำกว่า 20% ของยอดลงทะเบียนหรือค่าเช่ารวมที่ต้องเสียให้กับแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นส่วนเพิ่มเติมจากที่ได้รับเมื่อซื้อรถยนต์พลังงานสะอาด เมื่อปี 2019 อินเดียจัดงบไว้ 100,000 ล้านรูปี หรือ 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า โดยให้ผลตอบแทนจูงใจโดยตรงกับผู้ซื้อ แต่มีการใช้งบไปแค่ 10% เท่านั้น ขณะที่ผลตอบแทนจูงใจสำหรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่จะมาจากเงินก้อนเดียวกันนี้ ที่มา : Reuters
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ก.พ. 2565 ปิดตลาดที่ 1,667.75 จุด เพิ่มขึ้น 6.00 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ก.พ. 2565 ปิดตลาดที่ 1,667.75 จุด เพิ่มขึ้น 6.00 จุด (+0.36%) ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,669.50 จุด และต่ำสุดที่ 1,658.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 61,327.23 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.DELTA ปิดที่ 390.00 บาท เพิ่มขึ้น 22.00 บาท (+2.98%) มูลค่าการซื้อขาย 2,400.78 ลบ. 2.KBANK ปิดที่ 150.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 2,072.77 ลบ. 3.KTC ปิดที่ 63.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 […]
เวียดนามเผยธุรกิจต่างๆ กลับมาดำเนินการปกติแล้วในเดือนมกราคม 2022
สำนักงานสถิติแห่งชาติ เผยว่า กิจการกว่า 19,100 ราย กลับมาดำเนินงานในเดือนมกราคม 2022 หลังจากที่ต้องปิดการดำเนินงานไปหลายเดือน โดยจำนวนกิจการที่ดำเนินงาน เพิ่มขึ้น 353% จากเดือนธันวาคม 2021 จำนวนกิจการที่กลับมาดำเนินการเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ ถือเป็นสัญญาณที่ทำให้มีกำลังใจขึ้น หลังจากเวียดนามผ่อนคลายมาตรการควบคุมไวรัสโคโรนา กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมก็เริ่มกลับมามากขึ้น ช่วยฟื้นฟูธุรกิจได้ ทั้งนี้ มีธุรกิจประมาณ 13,000 ราย ที่มีทุนจดทะเบียนรวมกันกว่า 192 ล้านล้านดอง หรือ 8,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดำเนินการอยู่ระหว่างเดือนมกราคม ขณะนี้ในจำนวนนี้ 2,250 ราย อยู่ในฮานอย และ 2,000 ราย อยู่ในโฮจิมินห์ อย่างไรก็ตามในเดือนมกราคม 2022 มีธุรกิจประมาณ 38,400 ราย ที่ออกจากตลาดไป ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดที่เคยมีมา และเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า เมื่อเทียบเดือนก่อนหน้านั้น ที่มา : […]
Fund Comment
Fund Comment มกราคม 2565 : ภาพรวมตลาดหุ้น
ตลาดหุ้นโลกผันผวนมากขึ้นตั้งแต่เริ่มต้นของปี 2022 ก่อนการประชุม Fed ในช่วงปลายเดือน และปิดเดือนมกราคมด้วยการปรับตัวลดลง 5.0% โดยนักลงทุนมีความกังวลต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินของ Fed ซึ่งเป็นไปในทางที่เข้มงวดมากขึ้น โดยมีความเป็นไปได้สูงที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมเดือนมีนาคม พร้อมยุติมาตรการการผ่อนคลายทางการเงิน QE ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดได้เริ่มคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า แต่ยังมีความไม่ชัดเจนต่อขนาดของการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้และประเด็นการลดขนาดงบดุล ซึ่งจะเป็นการดูดซับสภาพคล่องออกจากตลาด ส่งผลให้นักลงทุนมีการลดความเสี่ยงในหลายตลาดสินทรัพย์เสี่ยง แต่หลังจากการปรับตัวลดลงแรง โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ราคาหุ้นทั่วโลกจึงเริ่มปรับตัวขึ้นได้บ้างเนื่องจากได้สะท้อนความกังวลดังกล่าวไปมากแล้ว ทั้งนี้ ท่าทีของ Fed และตัวเลขเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าจะยังคงเป็นสิ่งที่ตลาดให้ความสำคัญ ด้านตัวเลขเศรษฐกิจในเดือนนี้ Composite PMI เบื้องต้น เดือน ม.ค. ของประเทศหลักปรับตัวลง โดยของสหรัฐฯอยู่ที่ 50.8 จุด ต่ำสุดตั้งแต่ ก.ค. 2020 และของยูโรโซนที่ 52.4 จุด ต่ำสุดในรอบ 11 เดือน โดยสหรัฐฯนั้นยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาห่วงโซ่การผลิตและการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง และยูโรโซนได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวลงของภาคบริการ จากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดขึ้น ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อจากทั้ง 2 เศรษฐกิจหลักออกมาเร่งตัว หนุนความเข้มงวดทางการเงินที่เพิ่มขึ้น […]