BF Monthly Economic Review – มิ.ย. 2563
BF Economic Research สรุปภาพเศรษฐกิจและการลงทุนเดือน มิ.ย. และมุมมองเดือน ก.ค. ช่วงเดือน มิ.ย. หลายประเทศเริ่มคลาย Lockdown จากโควิด-19 แล้ว เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นของภาพเศรษฐกิจหลายที่ เครื่องชี้รายเดือน เครื่องชี้ที่ถี่กว่ารายเดือน เริ่มเห็นกิจกรรมกลับเข้ามาแล้ว เช่น การกลับออกไปทานข้าวข้างนอก การไปท่องเที่ยวพื้นที่ใกล้เคียง ถือเป็นบรรยากาศที่ดี สำหรับ 3 ประเด็นหลัก เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนช่วงครึ่งปีหลัง มีดังนี้ 1.ประมาณการเศรษฐกิจโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) 2.การใช้นโยบายการเงินของประเทศต่างๆ เพื่อดัดความชันของ Yield Curve ให้เป็นไปตามจุดประสงค์ของธนาคารกลางแต่ละประเทศนั้นๆ 3.การเลือกตั้งสหรัฐฯ
ธนาคารโลกเผยผลกระทบที่สำคัญของโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทย ความเปราะบางของครัวเรือน และผู้ประกอบการ
ธนาคารโลก หรือ World Bank จัดทำรายงานเรื่องผลกระทบที่สำคัญของโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทย ความเปราะบางของครัวเรือน และผู้ประกอบการ โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากโควิด-19 อาจหดตัวกว่าร้อยละ 5 ในปี 2563 และน่าจะใช้เวลามากกว่าสองปีกว่าที่จะกลับไปสู่ระดับผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ก่อนที่จะประสบปัญหาโควิด-19 ทั้งนี้ จากรายงานตามติดเศรษฐกิจไทยของธนาคารโลกฉบับล่าสุดที่เผยแพร่ในวันนี้พบว่า การระบาดของเชื้อโควิด-19 ฉุดเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในไตรมาสที่สองของปี 2563 โดยมีคนตกงานกระจายไปทั่ว และกระทบต่อครัวเรือนชนชั้นกลาง และครัวเรือนที่ยากจน แม้ว่าประเทศไทยจะประสบความสำเร็จในการชะลอการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในสามเดือนที่ผ่านมา แต่ผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจนั้นรุนแรง ภาคการท่องเที่ยวซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 15 ของ GDP ได้รับผลกระทบอย่างมากจากการที่ประเทศไทยเกือบจะห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 การส่งออกน่าจะหดตัวลงประมาณร้อยละ 6.3 ในปี 2563 ซึ่งเป็นการชะลอตัวลงรายไตรมาสที่แรงที่สุดในรอบ 5 ปี เนื่องจากความต้องการสินค้าไทยในต่างประเทศยังคงอ่อนแอ อันเป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ คาดว่าการบริโภคภาคเอกชนจะลดลงร้อยละ 3.2 เนื่องจากมาตรการห้ามการเดินทางและรายได้ที่ลดลงซึ่งจำกัดการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยเฉพาะในไตรมาสที่สองของปี 2563 จากการที่ประเทศไทยเริ่มผ่อนปรนการห้ามเดินทาง จะทำให้การบริโภคภายในประเทศที่เดิมมีความเข้มแข็งอยู่แล้วและเป็นเครื่องจักรผลักดันเศรษฐกิจเริ่มจะฟื้นตัวได้ในไตรมาสที่สองของปี 2563 […]
แบงก์ชาติฟิลิปปินส์ส่งสัญญาณยังมีพื้นที่บริหารจัดการด้านนโยบายการเงินอีกมาก
รายงานข่าวจากซีเอ็นบีซี ระบุว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ยังคงมีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับการบริหารจัดการรับมือกับเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังเผชิญกับการชะลอตัวท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 Benjamin Diokno ผู้ว่าการธนาคารกลางบอกกับ “Street Signs” ของซีเอ็นบีซี เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ยังมีพื้นที่ในการบริหารจัดการด้านนโยบายทางการเงินอีกมาก ซึ่งนั่นทำให้เราแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ที่อยู่ในแดนลบ ความคิดเห็นของเขาเกิดขึ้นภายหลังการตัดสินใจของธนาคารกลางฟิลิปปินส์ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่าสุดลง 0.50% เป็น 2.25% ซึ่งเป็นการปรับลดที่เหนือความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ทำการสำรวจโดยรอยเตอร์ส เขา กล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเกิดขึ้นหลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลง ขณะที่การคำนวณจากธนาคารกลางที่แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อจะส่งผลกระทบเศรษฐกิจทั้งปีนี้ และยาวไปอีก 3 ปีข้างหน้า ธนาคารจึงได้ดำเนิการกระตุ้น ด้วยการดำเนินมาตรการล่วงหน้า
B-INCOME B-SENIOR B-SENIOR-X BF Knowledge Center
Asset Allocation จำเป็นแค่ไหน
โดย…เสกสรร โตวิวัฒน์ CFP® ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน BF Knowledge Center การจัดสรรการลงทุนในสินทรัพย์หลายๆ ประเภท หรือ Asset Allocation เป็นการกระจายความเสี่ยงและจัดสรรสัดส่วนการลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้และเป้าหมายผลตอบแทนของแต่ละคน ปัจจุบันผู้มีเงินออมจำนวนมากได้ทำ Asset Allocation กันอยู่แล้ว แต่อาจไม่รู้ตัว ตัวอย่างเช่น เก็บเงินไว้ที่ธนาคาร ซื้อหุ้นกู้ ซื้อกองทุนรวม ซื้อทองคำ หรือแม้แต่เล่นหุ้นเอง การแบ่งเงินไปฝาก/ ลงทุนที่หลากหลาย ก็นับว่าเป็น Asset Allocation อยู่แล้ว แต่ผู้ลงทุนควรพิจารณาว่า Asset Allocation ที่มีอยู่นั้นเหมาะสม สอดคล้องกับความต้องการของตนเองหรือไม่ ทั้งนี้ เวลาดูทรัพย์สินลงทุน เราไม่ควรดูแค่กองทุนรวม หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) หรือกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) อย่างเดียว ควรต้องพิจารณาเงินลงทุนทั้งหมดไปพร้อมๆ กัน แต่ต้องอิงตามเป้าหมายด้วย ทุกคนควรทำ Asset Allocation ใช่หรือไม่? คำตอบคือ […]
ธปท. เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือน พ.ค.
BF Economic Research ธปท. เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือน พ.ค. ระบุ เศรษฐกิจไทยหดตัวต่อเนื่อง โดยรายละเอียดสำคัญมีดังนี้ธปท. เปิดเผยรายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือน พ.ค. ระบุ เศรษฐกิจไทยหดตัวต่อเนื่อง โดยรายละเอียดสำคัญมีดังนี้ • นักท่องเที่ยวต่างชาติหดตัว -100% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง: โดยเป็นผลมาจากการปิดน่านฟ้าและได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยว • ส่งออกไทย (ข้อมูลกระทรวงพาณิชย์) ในเดือน พ.ค.-20 อยู่ที่16,278.0 ล้านดอลลาร์ฯ vs. prev 18,948.2 ล้านดอลลาร์ฯหรือ -22.50%YoY (vs. prev.2.12% YoY) ถ้าไม่รวมทองจะอยู่ที่ -27.86% YoY (vs. prev.-10.31% YoY) มูลค่านำเข้าไทย ในเดือน พ.ค.-20 อยู่ที่ 13,584.0 ล้านดอลลาร์ฯ vs. prev 16,485.9 ล้านดอลลาร์ฯ […]
ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจญี่ปุ่นปรับตัวลงแรงในไตรมาส 2/2020 ตามคาด สะท้อนผลกระทบของ COVID-19
BF Economic Research ดัชนี Tankan ที่สะท้อนความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ โดยการสำรวจรายไตรมาสของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ชี้ให้เห็นว่า ในช่วงไตรมาส 2/2020 บริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นมีความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงอย่างมากแตะระดับ -34 จากระดับ -8 ในไตรมาส 1/2020 ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ -31 และเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 สอดคล้องกับดัชนีของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กในภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลงจากระดับ -8 และ -15 เป็น -36 และ -45 ตามลำดับ โดยเป็นผลจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้ห่วงโซ่อุปทานเกิดภาวะชะงักงัน การส่งออก และการผลิตลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะในเดือนเม.ย. และพ.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นอยู่ภายใต้ภาวะสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมไปถึงความต้องการสินค้าในตลาดที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ ทำให้หลายบริษัทต้องลดกำลังการผลิตลง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ดัชนี Tankan ของบริษัทขนาดใหญ่ลดลงจากระดับ -17 เป็น -72 เนื่องจากตลาดส่งออกหลัก คือสหรัฐฯ และยุโรปซึ่งได้รับผลกระทบจาก COVID-19 […]
ฮ่องกงจะสูญเสียความเป็นศูนย์กลางการเงิน?
โดย…ทนง ขันทอง ฮ่องกงจะสามารถรักษาความเป็นศูนย์กลางการเงินได้หรือไม่ หลังจากสภาประชาชนแห่งชาติของจีนผ่านกฎหมายความมั่นคงฮ่องกงในวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ลงนามให้มีผลบังคับใช้ทันที ผู้นำของสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และนาโต้ ดาหน้าออกมาแสดงความเห็นคัดค้านกฎหมายความมั่นคงฮ่องกง โดยให้เหตุผลว่ากฎหมายความมั่นคงจะทำลายพื้นฐานสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตยตามหลักการ 1 ประเทศ 2 ระบบ เพราะว่าฮ่องกงยังมีเวลาปกครองตัวเอง 50 ปี ตามข้อตกลงที่จีนมีกับอังกฤษในการส่งมอบคืนเกาะฮ่องกงในปี 1997 หลังอังกฤษครอบครองอาณานิคมฮ่องกงมาเป็นเวลา 99 ปี นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกมาประกาศว่าจะยกเลิกสิทธิพิเศษทางการค้าที่ให้กับฮ่องกงตามกฎหมาย United States- Hong Kong Policy Act of 1994 ในช่วงที่มีการชุมนุมประท้วงก่อเหตุรุนแรงที่ฮ่องกงก่อนหน้านี้เพื่อต่อต้านกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน รัฐบาลจีนออกอาการกร้าวว่าจะจัดการกับผู้ชุมนุมประท้วงอย่างเด็ดขาด เพราะมองว่าการประท้วงถูกต่างชาติแทรกแซง และมีจุดมุ่งหมายแอบแฝงของมหาอำนาจตะวันตกที่ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือของปักกิ่งที่กำลังเผชิญหน้ากับสหรัฐฯ ในเกมภูมิรัฐศาสตร์ระดับโลก แต่จีนก็ไม่ได้ทำอะไรมาก คงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ฮ่องกงจัดการกับม็อบ เนื่องจากฮ่องกงไม่มีกฎหมายความมั่นคง การเอาผิดแกนนำผู้ชุมนุมประท้วงจึงไม่สามารถกระทำได้ อย่างมากแค่คุมตัวชั่วคราว […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 มิ.ย. 2563 ปิดตลาดที่ 1,339.03 จุด ลดลง 0.58 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 มิ.ย. 2563 ปิดตลาดที่ 1,339.03 จุด ลดลง 0.58 จุด หรือ –0.04% โดยระหว่างวันสูงสุดที่ 1,351.59 จุด ต่ำสุดที่ 1,339.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 58,589.45 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1. ADVANC ปิดที่ 185.00 บาท ลดลง 2.00 บาท (-1.07%) มูลค่าการซื้อขาย 2,042.54 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 37.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+1.34%) มูลค่าการซื้อขาย 1,854.99 ลบ. 3.KBANK ปิดที่ 93.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+0.54%) มูลค่าการซื้อขาย 1,851.57 ลบ. 4.CBG ปิดที่ 104.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท (+4.52%) มูลค่าการซื้อขาย 1,627.68 ลบ. 5.KCE ปิดที่ 22.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.30 บาท (+6.05%) มูลค่าการซื้อขาย 1,622.86 ลบ.
อังกฤษขยายแพคเกจช่วยเหลือครอบคลุมธุรกิจสตาร์ทอัพ-บริษัทในต่างแดน
รายงานข่าวจากซีเอ็นบีซี ระบุว่า รัฐบาลอังกฤษได้ขยายแพคเกจการช่วยเหลือสำหรับบริษัทสตาร์ทอัพที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 รวมไปถึงธุรกิจที่บริษัทแม่ตั้งอยู่ในต่างประเทศ ภายใต้แพคเกจนี้ บริษัทสตาร์ทอัพต้องให้ผู้ร่วมทุนของบริษัทยื่นขอเงินกู้แบบชั่วคราว (bridge financing ) กับรัฐบาล เงินทุนดังกล่าวบริหารงานโดย British Business Bank ในรูปแบบของเงินกู้แปลงสภาพที่กลายเป็นหุ้นในรอบการระดมทุนรอบต่อไปของบริษัทสตาร์ทอัพ โดยทฤษฎีที่ว่านี้จะช่วยให้รัฐบาลสามารถสร้างผลตอบแทนการลงทุนในภายหลัง กองทุน 500 ล้านปอนด์ (614 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ประกอบด้วยภาระผูกพัน 250 ล้านปอนด์ จากกระทรวงการคลังคลังซึ่งจับคู่กับการระดมทุนของภาคเอกชน โดยสตาร์ทอัพจะได้รับการสนับสนุนถึง 320 ล้านปอนด์และรัฐบาล กล่าวว่า ยินดีที่จะเพิ่มขนาดกองทุนหากจำเป็น Rishi Sunak รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อังกฤษ กล่าวว่า บริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทด้านนวัตกรรมของอังกฤษเป็นหนึ่งในจุดแข็งทางเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นเมื่อเราเริ่มฟื้นตัวกลับจากการระบาดของโควิด-19 บริษัทเหล่านี้จะช่วยผลักดันการฟื้นตัวและสร้างงานใหม่ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ หมายความว่า ผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจที่พยายามอย่างดีที่สุดและมีโอกาสเติบโตทางธุรกิจจะได้รับประโยชน์จากกองทุนในอนาคต
การปรับแก้พอร์ตโฟลิโอด้วยตัวเอง
โดย…พิชญ ฉัตรพลรักษ์ กองทุนบัวหลวง ในตลาดการลงทุนของไทยเริ่มมีการโฆษณารับปรับเปลี่ยนพอร์ตโฟลิโอออกมา รวมถึงมีผู้นำเสนอการจัดสรรเงินลงทุนในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น อย่างไรก็ดี การเปรียบเทียบข้อเสนอกันแบบตรงๆ ก็ดูจะพิจารณากันได้ลำบาก เนื่องจากแต่ละที่ก็มีผลิตภัณฑ์ที่เลือกมาแตกต่างกัน น้ำหนักก็ต่างกัน หากลงทุนตามคำแนะนำในครั้งแรกและปล่อยไว้เฉยๆ โดยไม่ติดตามคงไม่ดีแน่ แต่ครั้นนักลงทุนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงการเงินคิดจะติดตามปรับเปลี่ยนการลงทุนเอง ก็อาจสงสัยว่า จะเริ่มต้นอย่างไรดี จะคอยติดต่อที่ปรึกษาก็คงต้องพึ่งพาเขาอยู่ร่ำไป เหมือนยืมจมูกคนอื่นหายใจ มันก็ไม่สะดวกคล่องตัว ค่าใช้จ่ายถูกแพงก็ดูยาก บทความนี้จึงนำเสนอเกร็ดความรู้ในการเริ่มต้นลงมือจัดสรรเงินลงทุนและปรับเปลี่ยนพอร์ตโฟลิโอด้วยตนเองในเจ็ดขั้นตอน (Clements & Clough, 2019) และเพื่อเป็นบันไดเริ่มต้นในการก้าวขึ้นสู่นักลงทุนที่สามารถพึ่งพาตัวเองและเพิ่มความช่ำชองมากขึ้นต่อไป ก้าวแรก คือ ต้องเรียนรู้การลงทุนในอดีตของเราโดยการมองย้อนกลับไป เช่นในช่วงที่ตลาดหุ้นลง เราเคยขายสินทรัพย์ออกไปในราคาถูกบ้างหรือไม่ หากเคยแสดงว่าเรารับความเสี่ยงได้ไม่มาก ควรที่จะปรับลดน้ำหนักการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลงให้อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้โดยไม่เกิดความตื่นตระหนก การขายหุ้นหรือหลักทรัพย์ในอดีตมีจำนวนครั้งมากน้อยเพียงไร ถ้าไม่บ่อยครั้งแสดงว่านักลงทุนอาจต้องการใช้เงินสดบ้างหรือปรับส่วนผสมการลงทุนให้เป็นไปตามกลยุทธ์ในระยะยาว แต่หากมีการซื้อขายที่ถี่เกินไปอาจแปลว่าเราอาจเปลี่ยนใจอยู่บ่อยครั้งและเป็นสัญญาณเตือนว่าเรามีความไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องการที่จะทำอะไรกันแน่ ก้าวที่ 2 กำหนดสัดส่วนการลงทุนที่เหมาะสมสำหรับความต้องการใช้เงินของตัวเองโดยการพิจารณาลักษณะของแต่ละประเภทของสินทรัพย์ (Asset Class) ตราสารทุนจะมีความผันผวนของอัตราผลตอบแทนในระยะสั้นแต่จะให้การงอกเงยของเงินลงทุนที่ดีในระยะยาวและชนะอัตราเงินเฟ้อได้ เงินฝากมีความเสี่ยงต่ำแต่อัตราผลตอบแทนหลังจากหักภาษีก็อาจจะน้อยกว่าเงินเฟ้อได้ ตราสารหนี้มีการจ่ายดอกเบี้ยที่สม่ำเสมอและราคาก็ไม่ผันผวนเท่าตราสารทุน แต่ก็สามารถเพิ่มอัตราผลตอบแทน (ตามมาด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น) จากตราสารหนี้พวก High Yield ตราสารหนี้ระยะยาว หรือหุ้นกู้ […]