กระแส The Rise of Asia นำเด่น หนุนกองทุน B-BHARATA คว้ารางวัล “กองทุนยอดเยี่ยม 2566 ประเภทกองทุนหุ้นต่างประเทศ”

กระแส The Rise of Asia นำเด่น หนุนกองทุน B-BHARATA คว้ารางวัล “กองทุนยอดเยี่ยม 2566 ประเภทกองทุนหุ้นต่างประเทศ”

กองทุน B-BHARATA คว้ารางวัลกองทุนยอดเยี่ยม 2566 ประเภทกองทุนหุ้นต่างประเทศ จากงานประกาศรางวัล Money & Banking Awards 2023 ต่อเนื่องจากเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา B-ASEANRMF อีกหนึ่งกองทุนกลุ่มเอเชีย ซึ่งได้รับรางวัลกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพยอดเยี่ยมปี 2566 ประเภทตราสารแห่งทุน จาก Morningstar Thailand Fund Awards 2023 มาแล้ว ตอกย้ำความชัดเจนของธีมลงทุน “The Rise of Asia” ที่ BBLAM นำเสนอมาตลอดทั้งปี นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM กล่าวถึง กองทุนเปิดบัวหลวงภารตะ (B-BHARATA) ที่ได้รับรางวัล กองทุนยอดเยี่ยม 2566 ประเภทกองทุนหุ้นต่างประเทศ (Foreign Equity Fund) ว่ากองทุน B-BHARATA คัดเลือกตราสารลงทุนที่เหมาะสม โดยเลือกลงทุนในหน่วยลงทุนของ […]

BBLAM Weekly Investment Insights 17 – 21 กรกฎาคม 2023

BBLAM Weekly Investment Insights 17 – 21 กรกฎาคม 2023

2023 – The Rise of Asia INVESTMENT STRATEGY BBLAM X Nippon Life India Asset Management “สำหรับอินเดียที่ประชากรเกือบ 50% ไม่ได้มีบัญชีเงินฝาก ถ้าไม่มี Microfinance มาช่วยแล้ว ทำให้คนเหล่านี้ยากที่จะก้าวไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะไม่ได้มีความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงิน ธุรกิจ Microfinance กำลังไปได้ดี และมีอนาคต และนี่เป็นหนึ่งธุรกิจที่ B-BHARATA ลงทุน” หนึ่งใน 7 Mega Investment Theme ที่ทาง Nippon Live India พูดถึง “Why India” คือ Financials ซึ่งสัปดาห์นี้ก็มาพูดถึงโอกาสลงทุนในธุรกิจ Microfinance ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่ดีในอินเดีย  ก่อนที่จะเข้าไปดูว่า ผู้จัดการกองทุนเค้าว่าอย่างไร อยากนำข้อมูลจาก […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 ก.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,517.92 จุด เพิ่มขึ้น 23.90 จุด (+1.60%)

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 ก.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,517.92 จุด เพิ่มขึ้น 23.90 จุด (+1.60%)

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 ก.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,517.92 จุด เพิ่มขึ้น 23.90 จุด (+1.60%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,497.85 จุด และสูงสุดที่ 1,519.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,645.02ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ PTT ปิดที่ 35.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 (+2.19%) มูลค่าการซื้อขาย 2,594.90 ล้านบาท GULF ปิดที่ 48.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 (+1.58%) มูลค่าการซื้อขาย 1,836.30 ล้านบาท BBL ปิดที่ 158.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 (+0.96%) มูลค่าการซื้อขาย […]

‘จีน’ เชิญนักลงทุนรายใหญ่ทั่วโลก ร่วมประชุม 21 ก.ค.66 หนุนต่างชาติลงทุนในจีน

‘จีน’ เชิญนักลงทุนรายใหญ่ทั่วโลก ร่วมประชุม 21 ก.ค.66 หนุนต่างชาติลงทุนในจีน

“จีน” เชิญนักลงทุนรายใหญ่ทั่วโลก ร่วมการประชุม 21 ก.ค.66 สนับสนุนให้ต่างชาติลงทุนในจีน ท่ามกลางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า แหล่งข่าวระบุว่า หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของจีนได้เชิญนักลงทุนรายใหญ่ของโลกบางรายเข้าร่วมการประชุมสัมมนา ที่จัดโดยสมาคมจัดการกองทุนของจีน (AMAC) ในสัปดาห์หน้า โดยพยายามสนับสนุนให้ต่างชาติลงทุนในจีน แม้ล่าสุดจะเผชิญความอ่อนแอทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น การประชุมที่กรุงปักกิ่งในวันศุกร์หน้า (21 ก.ค.) จะมุ่งเน้นไปที่สภาพปัจจุบันของบริษัทลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในจีน ตลอดจนปัญหาและความท้าทายหลักที่เผชิญอยู่ ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีขึ้นในช่วงเวลาที่นักลงทุนและธนาคารทั่วโลกต่างเตือนว่า ความเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจของจีนกำลังถดถอย การฟื้นตัวหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 กำลังสูญเสียโมเมนตัมอย่างรวดเร็ว และความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากปัญหาความมั่นคงของชาติ ซึ่งรวมถึงไต้หวัน การห้ามส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงของสหรัฐและนโยบายอุตสาหกรรมที่นำโดยรัฐของจีน แหล่งข่าวระบุว่า การประชุมดังกล่าวซึ่งมีวาระการประชุมที่ชัดเจน เพื่อหารือเกี่ยวกับความท้าทายที่ผู้จัดการกองทุนทั่วโลกต้องเผชิญในการลงทุนในจีนนั้นเกิดขึ้นได้ยาก และสะท้อนให้เห็นถึงความกระตือรือร้นของจีนในการเสริมสร้างความเชื่อมั่นในหมู่นักลงทุนต่างชาติ ผู้จัดการกองทุนรายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น บริษัทไพรเวทอิควิตี้ (PE) หรือที่รู้จักในชื่อหุ้นส่วนทั่วไป (GPs) และนักลงทุนหรือหุ้นส่วนจำกัด (LPs) รวมถึงกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติและกองทุนบำเหน็จบำนาญ คาดว่าจะเข้าร่วมการประชุม อีกทั้งยังจะได้รับการสนับสนุนให้ให้คำแนะนำเพื่อช่วยจัดการกับความท้าทายที่ธุรกิจเผชิญในจีนและแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ทั้งนี้ […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 13 ก.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,494.02 จุด เพิ่มขึ้น 2.88 จุด (+0.19%) 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 13 ก.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,494.02 จุด เพิ่มขึ้น 2.88 จุด (+0.19%) 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 13 ก.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,494.02 จุด เพิ่มขึ้น 2.88 จุด (+0.19%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,487.48 จุด และสูงสุดที่ 1,497.24 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,447.57 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ AOT ปิดที่ 69.25 บาท ลดลง 2.00 (-2.81%) มูลค่าการซื้อขาย 3,538.40 ล้านบาท CPALL ปิดที่ 62.00 บาท ลดลง 0.50 (-0.80%)   มูลค่าการซื้อขาย 2,224.68 ล้านบาท PTT ปิดที่ 34.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,037.51 ล้านบาท […]

จับตา “หนี้สาธารณะทั่วโลก” พุ่งเป็นประวัติการณ์ที่ 92 ล้านล้านดอลล์ในปี 2565 เหตุรัฐบาลเร่งกู้รับมือวิกฤติ

จับตา “หนี้สาธารณะทั่วโลก” พุ่งเป็นประวัติการณ์ที่ 92 ล้านล้านดอลล์ในปี 2565 เหตุรัฐบาลเร่งกู้รับมือวิกฤติ

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า สหประชาชาติรายงานว่า หนี้สาธารณะทั่วโลกพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ 92 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2565 เนื่องจากรัฐบาลกู้ยืมเพื่อรับมือกับวิกฤติ เช่น การระบาดใหญ่ของโควิด-19 โดยที่ประเทศกำลังพัฒนาต้องรับภาระอย่างหนัก โดยหนี้ในประเทศและต่างประเทศทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 เท่าในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งแซงหน้าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเพิ่มขึ้นเพียง 3 เท่า นับตั้งแต่ปี 2545 อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ตลาดอาจดูเหมือนยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่ผู้คนกำลังได้รับผลกระทบอยู่” บางประเทศที่ยากจนที่สุดในโลกกำลังถูกบีบให้เลือกระหว่างรับใช้หนี้หรือรับใช้ประชาชน” โดยประเทศกำลังพัฒนาเป็นหนี้เกือบ 30% ของหนี้สาธารณะทั่วโลก โดย 70% เป็นหนี้ของจีน อินเดีย และบราซิล ประเทศกำลังพัฒนา 59 ประเทศเผชิญกับอัตราส่วนหนี้สินต่อ GDP ที่สูงกว่า 60% ซึ่งเป็นเกณฑ์บ่งชี้ถึงระดับหนี้ที่สูง “หนี้กลายเป็นภาระที่สำคัญสำหรับประเทศกำลังพัฒนา เนื่องจากการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำกัด ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น การลดค่าของสกุลเงิน และการเติบโตที่ซบเซา” […]

Economic Update: จีนส่งสัญญาณผ่อนคลายเชิงนโยบายเพิ่มเติม

Economic Update: จีนส่งสัญญาณผ่อนคลายเชิงนโยบายเพิ่มเติม

โดย ดร.มิ่งขวัญ ทองพฤกษา Chief Economist, BBLAM จีนส่งสัญญาณผ่อนคลายเชิงนโยบายเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือ Developer โดยขยายระยะเวลาชำระสินเชื่อไปถึงหนึ่งปี  โดยก่อนหน้านี้ ได้ออกมาตรการสนับสนุนให้สถาบันการเงินและ Developer ได้เจรจาต่อรองเงื่อนไขการชำระ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบไปด้วย PBoC และหน่วยงานกำกับสถาบันการเงิน หรือ NFRA ได้กล่าวร่วมกันว่า มาตรการดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อให้ Developer มีสายป่านเพียงพอที่จะก่อสร้างจนแล้วเสร็จและสามารถส่งมอบบ้านได้ สำนักข่าว China Securities Journals กล่าวว่า ทางการจีนมีแผนที่จะออกมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมอีก เพื่อที่จะเพิ่มความเชื่อมันธุรกิจในกลุ่มนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมาตรการที่จะออกต่อไป อาจจะเป็นมาตรการกระตุ้นจากฝั่งอุปสงค์ เช่น ผ่อนคลายเกณฑ์การซื้อบ้าน หรือปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่ามาตรการกระตุ้นจากฝั่งอุปทานแต่เพียงด้านเดียวอาจไม่เพียงพอให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีนฟื้นได้อย่างยั่งยืน จึงมองว่า มาตรการกระตุ้นทางฝั่งอุปสงค์จะมีส่วนช่วยหนุนธุรกิจได้อีกทางหนึ่ง โดยหวังว่า ทางการจีนจะปรับลดการวางเงินดาวน์เพื่อกระตุ้นให้คนอยากซื้อบ้านมากขึ้น ทั้งนี้ ตัวเลข  Saving Rate ล่าสุดของจีนปรับตัวสูงขึ้น 15 % YoY YTD มาอยู่ที่ […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 12 ก.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,491.14 จุด ลดลง 5.82 จุด (-0.39%)

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 12 ก.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,491.14 จุด ลดลง 5.82 จุด (-0.39%)

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 12 ก.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,491.14 จุด ลดลง 5.82 จุด (-0.39%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,488.01 จุด และสูงสุดที่ 1,507.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,290.62 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ PTTEP ปิดที่ 155.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 (+1.97%) มูลค่าการซื้อขาย 2,488.72 ล้านบาท GULF ปิดที่ 47.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 (+3.85%) มูลค่าการซื้อขาย 2,306.29 ล้านบาท KTC ปิดที่ 46.25 บาท ลดลง 0.50 (-1.07%) […]

OECD เผยงานกว่า 27% มีความเสี่ยงสูงจากการปฏิวัติ AI

OECD เผยงานกว่า 27% มีความเสี่ยงสูงจากการปฏิวัติ AI

OECD เผยงานกว่า 27% มีความเสี่ยงสูงจากการปฏิวัติ AI ย้ำค่าจ้างขั้นต่ำ-การเจรจาต่อรองร่วมกัน อาจช่วยลดแรงกดดัน เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) กลุ่มสมาชิก 38 ประเทศ ซึ่งครอบคลุมประเทศที่ร่ำรวยเป็นส่วนใหญ่ แต่ยังรวมถึงประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บางแห่ง เช่น เม็กซิโกและเอสโตเนีย ระบุว่างานมากกว่า 1 ใน 4 ใน OECD พึ่งพาทักษะที่สามารถทำงานโดยอัตโนมัติได้อย่างง่ายดายจากการปฏิวัติปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังจะมาถึง และพนักงานวิตกว่าอาจตกงานให้กับ AI OECD กล่าวว่า มีหลักฐานเพียงเล็กน้อยว่า การเกิดขึ้นของ AI มีผลกระทบอย่างมากต่องานจนถึงขณะนี้ แต่นั่นอาจเป็นเพราะการปฏิวัติ ซึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น งานที่มีความเสี่ยงสูงสุดคิดเป็น 27% ของกำลังแรงงานโดยเฉลี่ยในประเทศกลุ่ม OECD โดยประเทศในยุโรปตะวันออกมีความเสี่ยงมากที่สุด โดยงานที่มีความเสี่ยงสูงสุด ถูกกำหนดให้เป็นงานที่ใช้ทักษะและความสามารถมากกว่า 25 จาก 100 […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 11 ก.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,496.96 จุด เพิ่มขึ้น 0.07 จุด (0.00%) 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 11 ก.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,496.96 จุด เพิ่มขึ้น 0.07 จุด (0.00%) 

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 11 ก.ค. 2566 ปิดตลาดที่ 1,496.96 จุด เพิ่มขึ้น 0.07 จุด (0.00%) ระหว่างวัน ดัชนีต่ำสุดที่ 1,492.63 จุด และสูงสุดที่ 1,505.40 จุด มูลค่าการซื้อขาย 34,188.57 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ DELTA ปิดที่ 101.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,805.13 ล้านบาท KBANK ปิดที่ 131.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 (+0.77%) มูลค่าการซื้อขาย 1,372.35 ล้านบาท PTT ปิดที่ 34.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,347.87 ล้านบาท CPALL ปิดที่ 62.75 […]