Market Summary SET Uncategorized
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 16 ก.ย. 2564 ปิดตลาดที่ 1,631.70 จุด เพิ่มขึ้น 3.66 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 16 ก.ย. 2564 ปิดตลาดที่ 1,631.70 จุด เพิ่มขึ้น 3.66 จุด หรือ +0.22% ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,636.01 จุด และต่ำสุดที่ 1,628.57 จุด มูลค่าการซื้อขาย 79,594.58 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 39.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท (+1.92%) มูลค่าการซื้อขาย 3,212.39 ลบ. 2.DELTA ปิดที่ 562.00 บาท ลดลง 12.00 บาท (-2.09%) มูลค่าการซื้อขาย 3,112.98 ลบ. 3.SCGP ปิดที่ 64.50 […]
B-CHINAARMF B-CHINE-EQ B-CHINESSF B-USALPHA China US USA
หุ้นสหรัฐฯ กับ นโยบายล้านล้านเหรียญของ โจ ไบเดน
หุ้นสหรัฐฯ กับ นโยบายล้านล้านเหรียญ ของโจ ไบเดน ถามอีก กับ คุณเอม คุณมทินา วัชรวราทร CFA®, Head of Investment Strategy กองทุนบัวหลวง โดย อิก บรรพต ธนาเพิ่มสุข, AFPT ที่ปรึกษาการเงิน รับชมย้อนหลังได้ที่นี่!!
ตัวเต็งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นหวังกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยพลังงานหมุนเวียนและ 5G
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Taro Kono รัฐมนตรีผู้ผลักดันวัคซีนของญี่ปุ่น และผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแทน Yoshihide Suga ที่ลาออกจากตำแหน่ง ออกมาเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ของญี่ปุ่นควรจะให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายด้านพลังงานหมุนเวียนและการขยายเครือข่าย 5G ทั่วประเทศ Kono ให้สัมภาษณ์กับกลุ่มผู้สื่อข่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินอย่างกะทันหัน ในช่วงเวลาที่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนากำลังสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ทั้งนี้ Kono เป็นตัวเต็งที่จะมาทำหน้าที่แทน Suga ในฐานะผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตย ซึ่งหาก Kono ได้เป็นผู้นำพรรค ก็มั่นใจได้ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะพรรคนี้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร
สรุปเศรษฐกิจจีนเดือน ส.ค.
BF Economic Research เศรษฐกิจจีนในเดือนส.ค.ชะลอลงต่อเนื่อง ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) เดือน ส.ค. ขยายตัว 5.3% YoY ชะลอตัวลงจาก 6.4% ในเดือนก่อน และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 5.8% โดยผลผลิตรถยนต์ (-12.6% vs. -8.5% เดือนก่อน), โลหะเหล็ก (-10.1% vs. -6.6% เดือนก่อน) และโทรศัพท์มือถือ (-7.2% vs. -2.1% เดือนก่อน) หดตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลผลิตสินค้ากลุ่มอื่นๆ เช่น อุปกรณ์สื่อสารและคอมพิวเตอร์ (13.3% vs. 13.0% เดือนก่อน) ยังคงขยายตัวได้ดี ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือน ส.ค. ขยายตัว 2.5% YoY ชะลอตัวลงอย่างมากจาก […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 ก.ย. 2564 ปิดตลาดที่ 1,628.04 จุด เพิ่มขึ้น 4.20 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 ก.ย. 2564 ปิดตลาดที่ 1,628.04 จุด เพิ่มขึ้น 4.20 จุด หรือ +0.26% ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,630.05 จุด และต่ำสุดที่ 1,620.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย 73,187.40 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 39.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 2,322.19 ลบ. 2.DELTA ปิดที่ 574.00 บาท ลดลง 8.00 บาท (-1.37%) มูลค่าการซื้อขาย 2,209.13 ลบ. 3.INTUCH ปิดที่ 82.25 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 […]
เม็กซิโกเล็งตั้งโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในรัฐทางตอนใต้
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Tatiana Clouthier รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของเม็กซิโก ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เม็กซิโกมีเป้าหมายจะกระตุ้นการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ โดยอาจจะสร้างโรงงานผลิตในรัฐทางตอนใต้ของประเทศ เนื่องจากมีทรัพยากรน้ำซึ่งมีความจำเป็นอย่างมาก ในการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับสูงที่เรียกว่า High-Level Economic Dialogue (HLED) ระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโก ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และถือเป็นการประชุมครั้งแรกในรอบหลายๆ ปี ทั้ง 2 ประเทศเห็นชอบร่วมกันในการสร้างห่วงโซ่อุปทานร่วมกัน โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้สูงขึ้น ความตกลงนี้เกิดขึ้นหลังจากปัญหาการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ในอเมริกาเหนือต้องระงับการผลิตชั่วคราว และเจ้าหน้าที่ก็ออกมาเตือนว่าปัญหานี้อาจจะมีแนวโน้มแย่ลง “การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ต้องใช้น้ำจำนวนมาก ดังนั้นเราอาจจะต้องดำเนินการทางตอนใต้ซึ่งมีน้ำอยู่มากเพียงพอกว่าเมื่อเทียบกับรัฐทางตอนเหนือซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนสหรัฐฯ” Clouthier กล่าว Andres Manuel Lopez Obrador ประธานาธิบดีเม็กซิโก ได้ดำเนินการลงทุนเพื่อกระตุ้นการพัฒนารัฐทางตอนใต้ที่ยากจนของเม็กซิโก เพราะถือเป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลชุดนี้ ในการประชุม HLED ทั้งเม็กซิโกและสหรัฐฯ ตกลงร่วมกันที่จะสร้างคณะทำงานร่วมกันในด้านห่วงโซ่อุปทานของเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงอุปกรณ์การแพทย์ และยา โดยในส่วนของคณะทำงานเซมิคอนดักเตอร์จะพบกันครั้งแรกสัปดาห์หน้า และมีแผนจะนำเสนอผลลัพธ์ในวันที่ 9 พ.ย. นี้
B-CHINAARMF B-CHINE-EQ B-CHINESSF
หุ้นจีนยังน่าสนใจลงทุนไหม?
หุ้นจีนยังน่าลงทุนอยู่ไหม ? ถ้ามองในระยะยาว ผู้ลงทุนหลายท่านที่มีหุ้นจีนอยู่ในพอร์ตตอนนี้ คงมีความกังวลใจอยู่ไม่น้อย และคงมีคำถามว่า “เมื่อไรหุ้นจีนจะกลับมาสดใสสักที” สำหรับปัจจัยสำคัญ ๆ ที่กดดันให้หุ้นจีนปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ประเด็นแรก: นักลงทุนบางส่วนเริ่มขายทำกำไรหุ้นจีน หลังปรับตัวขึ้นมามากช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเด็นที่สอง: การเข้ามาควบคุมหรือออกกฎเกณฑ์กำกับดูแลการดำเนินกิจการของบริษัทในหลายอุตสาหกรรม ให้อยู่ในระบบระเบียบมากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายราย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนไม่ได้ต้องการปิดกั้นการเติบโตของบริษัทเทคโนโลยีเสียทีเดียว แต่คาดหวังให้บริษัทเทคโนโลยีของจีนเติบโตได้ดีกว่าเดิม ภายใต้กฎเกณฑ์ที่รัฐบาลจีนควบคุมดูแลได้ ซึ่งรัฐบาลจีนเชื่อว่า จะสามารถสร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจจีนได้ในระยะยาว ดังนั้น สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นจีนหรือกองทุนรวมหุ้นจีน อาจจะต้องมองจีนแบบจีนจริง ๆ และเน้นลงทุนระยะยาว ซึ่งระยะยาวที่ว่า คืออย่างน้อย ๆ ก็น่าจะประมาณ 5-10 ปี ที่น่าสนใจคือ หลาย ๆ อุตสาหกรรมในจีน ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก สอดคล้องไปกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 14 ของจีน สำหรับรายละเอียดจะเป็นอย่างไร และมีช่องทางการลงทุนไหนบ้างจากกองทุนบัวหลวง ที่ผู้สนใจในหุ้นจีนจะเลือกลงทุนได้ ติดตามต่อกันที่บทความฉบับเต็มได้เลย https://www.bblam.co.th/…/investment…/bf-knowledge-tip-6 หมายเหตุ: การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 ก.ย. 2564 ปิดตลาดที่ 1,623.84 จุด ลดลง 9.92 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 ก.ย. 2564 ปิดตลาดที่ 1,623.84 จุด ลดลง 9.92 จุด หรือ -0.61% ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,640.40 จุด และต่ำสุดที่ 1,621.96 จุด มูลค่าการซื้อขาย 84,176.04 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.DELTA ปิดที่ 582.00 บาท ลดลง 70.00 บาท (-10.74%) มูลค่าการซื้อขาย 4,357.48 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 39.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท (+1.96%) มูลค่าการซื้อขาย 2,918.23 ลบ. 3.INTUCH ปิดที่ 77.75 […]
จีนเดินหน้าพัฒนารถไฟความเร็วสูงพิเศษและเครื่องบินพาณิชย์
Global Times รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จีนให้คำมั่นว่าจะเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและสร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการขนส่ง รวมถึงดำเนินการศึกษาเกี่ยวกับยานพาหนะประเภทใหม่ เช่น รถไฟความเร็วสูงพิเศษ และเครื่องบินพาณิชย์ แผนงานนี้ถูกนำเสนออยู่ในแนวปฏิบัติร่วมของกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเร่งการสร้างระบบขนส่งที่ใช้นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยแนวปฏิบัติมุ่งเน้นไปที่การจัดการกับขีดจำกัดการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการขนส่งของจีน โดยจะเพิ่มความแข็งแกร่งด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สนับสนุนนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม และยกระดับการผสมผสานเทคโนโลยีใหม่กับด้านคมนาคม แนวปฏิบัตินี้ ระบุว่า ภายในปี 2025 จะมีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของงานวิจัยด้านคมนาคมและการประยุกต์ใช้งานวิจัยอย่างมาก รวมทั้งการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ การปรับใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยกับการขนส่งจะเร่งตัวขึ้น จะมีการสร้างระบบนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อทำให้จีนเป็นประเทศที่มีระบบคมนาคมที่แข็งแกร่ง ส่วนในปี 2035 ความสามารถด้านนวัตกรรมในงานวิจัยพื้นฐานเกี่ยวกับระบบคมนาคมและการประยุกต์ใช้จะได้รับการปรับปรุงอย่างเต็มที่ เทคโนโลยีลำสมัยจะถูกใช้ในการขนส่งโดยสมบูรณ์ ระบบนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะตอบโจทย์ความต้องการของประเทศได้ดี ในด้านการมีเครือข่ายคมนาคมที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้จีนจะมุ่งเน้นเรื่องความก้าวหน้าในองค์ประกอบหลัก เช่น ด้านพลังงาน การรับรู้ การควบคุมยานพาหนะ การสื่อสาร อุปกรณ์นำทาง รวมถึงอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินด้วย และประเทศจะพยายามเอาชนะอุปสรรคทางเทคโนโลยีที่สำคัญในอุตสาหกรรมเฉพาะกลุ่ม ซึ่งรวมถึงการดำน้ำลึกและการรับรองการเดินอากาศ
B-HY B-HY (H75) AI B-HY (UH) AI Product Update
กองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (อันเฮดจ์) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย B-HY (UH) AI และกองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (เฮดจ์ 75) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย B-HY (H75) AI
Highlight กองทุนมีกลยุทธ์ที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุคงเหลือระยะสั้น โดยมีอายุตราสารเฉลี่ย 2.4 ปี (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ 3.7 ปี) ด้วยมีความผันผวนไม่สูงมากนักและมีระดับมูลค่าที่น่าลงทุน กองทุนหลักมีมุมมองว่า แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการปรับทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของ FED และการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ตราสารหนี้ US High Yield ยังคงมีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุน ทั้งในเรื่องของรายได้ที่ได้รับอย่างสม่ำเสมอและระดับอัตราดอกเบี้ยจ่ายของตราสารที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูงประมาณ 3.5 – 4% ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของผู้ออกตราสารมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ภาพรวมตลาด ช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ปัจจัยเรื่องการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะจากการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์ไวรัส ได้เข้ามากดดันทำให้เกิดความกังวลเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอีกครั้งทั้งภายในและภายนอกสหรัฐฯ และทำให้ผลตอบแทนของตราสารหนี้กลุ่ม High Yield สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงเดือน ส.ค. อย่างไรก็ตาม ตราสารหนี้ กลุ่ม High Yield สหรัฐฯ ยังคงให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ประเภทอื่นๆ โดยให้ผลตอบแทนประมาณ 4.6% นับตั้งแต่ช่วงต้นปี ขณะที่ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้กลุ่ม High Yield […]