IMF มองนโยบาย zero-Covid policy เป็นภาระกับจีนมากกว่าเป็นประโยชน์
Kristalina Georgieva กรรมการผู้จัดการ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบาย zero-Covid policy ถือเป็นภาระที่กำลังกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งในประเทศจีนเองและโลกโดยรวม เธอ กล่าวว่า กลยุทธ์การกักกันโรค แม้จะประสบความสำเร็จในขั้นต้น แต่ตอนนี้เป็นความเสี่ยงมากกว่าผลประโยชน์ที่ได้ สำหรับ zero-Covid policy หมายถึงความพยายามที่จะกำจัดไวรัสให้หมดไปด้วยมาตรการด้านสุขภาพ เช่น ล็อคดาวน์ การทดสอบเชื้อจำนวนมาก และการกักตัวสำหรับผู้ที่ข้ามแดน ข้อจำกัดที่เกิดขุึ้นจากนโยบายนี้เป็นภาระต่อเศรษฐกิจมากกว่าผลดี ทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่เฉพาะกับจีน แต่จีนเป็นแหล่งอุปทานของส่วนอื่นของโลกด้วย Georgieva กล่าวว่า โอมิครอนกำลังสอนเราว่า เชื้อโควิดที่แพร่ระบาดได้สูงอาจควบคุม เพื่อไม่ให้มีผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจได้ยาก ทั้งนี้ จีนเริ่มกลับมากระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งหลังจากเศรษฐกิจเริ่มเติบโตช้าลง โดยเมื่อวันพุธที่ 19 มกราคม 2022 ธนาคารกลางจีนเพิ่งลดดอกเบี้ยอ้างอิงกู้ยืม ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการปล่อยกู้องค์กรและครัวเรือนลดลง ที่มา : CNBC
BBLAM Weekly Investment Insights
BBLAM Weekly Investment Insights 24-28 มกราคม 2022
2022 Economic Outlook – EU BBLAM ประเมินเศรษฐกิจยูโรโซนปี 2022 โต 4.2% คาดเมื่อปัจจัยลบค่อย ๆ คลี่คลาย เศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นช่วงครึ่งปีหลัง คุณฐนิตา ตุมราศวิน จาก Economic Research ออกมาเผยมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจในแถบยูโรโซนว่า ทั้งปี 2022 เศรษฐกิจยูโรโซนน่าจะเติบโตได้ 4.2% จากปี 2021 ที่มองว่าจะเติบโต 5.1% โดยในระยะสั้นแม้จะเจอปัจจัยลบจากหลายด้าน ทั้งการขาดแคลนในฝั่งอุปทาน หรอ supply shortage รวมถึงโควิดที่แพร่ระบาด และปัจจัยเงินเฟ้อ แต่เชื่อว่า ในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจยูโรโซนน่าจะปรับตัวได้ดีขึ้น จากปัญหาต่าง ๆ ที่ค่อย ๆ คลี่คลายไป สำหรับปัจจัยกดดันเศรษฐกิจยูโรโซนหลักๆ คือเรื่องเงินเฟ้อ ได้แก่ วิกฤติราคาแก๊ส ที่เกิดจากปัจจัย 3 ปัจจัย คือ […]
Bill Gates ย้ำธุรกิจต้องเข้าร่วมต่อสู้กับสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน
Bill Gate ออกมาเน้นย้ำว่า เป็นเรื่องเร่งด่วนสำหรับธุรกิจที่จะต้องยกระดับการมีส่วนร่วมต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งการลงทุนในเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เขา กล่าวผ่านออนไลน์ในโอกาสร่วมงานประชุมว่า การสนับสนุนและการลงทุนของภาคเอกชนจะทำให้เทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมใช้งานได้กว้างขวางขึ้น โดยการพัฒนาในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ไฮโดรเจนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการจับอากาศโดยตรง และพลังงานสะอาดในเชื้อเพลิงของเครื่องบินนั้นมีอยู่แล้ว แต่ธุรกิจต้องช่วยสร้าง รวมทั้งเข้าไปเป็นลูกค้าของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เพื่อทำให้มีราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น Gate ซึ่งจัดตั้งบริษัท Breakthrough Energy ลงทุนในเทคโนโลยีที่ยั่งยืน กล่าวว่า ในที่สุดแล้วสิ่งเหล่านี้ก็จะมาสู่เศรษฐกิจ ดังนั้นเราต้องทำให้สิ่งเหล่านี้ไปได้ไกลมากขึ้นในเชิงเศรษฐกิจ โดยการจับคู่เทคโนโลยีใหม่กับบริษัทขนาดใหญ่ ที่มีทักษะในการสร้างสิ่งต่างๆ ในวงกว้าง เป็นเรื่องเร่งด่วน ที่มา : CNBC
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 21 ม.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,652.73 จุด ลดลง 4.23 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 21 ม.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,652.73 จุด ลดลง 4.23 จุด (-0.26%) ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,655.42 จุด และต่ำสุดที่ 1,641.86 จุด มูลค่าการซื้อขาย 81,426.12 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.KBANK ปิดที่ 140.00 บาท ลดลง 1.00 บาท (-0.71%) มูลค่าการซื้อขาย 3,567.89 ลบ. 2.AOT ปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+0.80%) มูลค่าการซื้อขาย 3,367.75 ลบ. 3.PTT ปิดที่ 38.75 […]
BBLAM เสนอขาย IPO “BP2/22 (AI)” วันที่ 21-25 ม.ค.นี้
ข่าวประชาสัมพันธ์ Press Release BBLAM เสนอขาย IPO ‘กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 2/22 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย’ หรือ BP2/22 (AI) ซึ่งเป็นเทอมฟันด์ อายุ 6 เดือน วันที่ 21-25 มกราคม 2565 นี้ ลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท เป็นทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่มองหาการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่เหมาะสม รายงานข่าวจาก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ BBLAM เปิดเผยว่า BBLAM เสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนรวมบัวหลวงธนสารพลัส 2/22 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ BP2/22 (AI) ระหว่างวันที่ 21-25 มกราคม 2565 นี้ โดยเสนอขายในราคา 10 บาทต่อหน่วย […]
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 20 ม.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,656.96 จุด ลดลง 1.28 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 20 ม.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,656.96 จุด ลดลง 1.28 จุด (-0.08%) ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,666.60 จุด และต่ำสุดที่ 1,656.47 จุด มูลค่าการซื้อขาย 80,864.60 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.AOT ปิดที่ 62.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท (+2.04%) มูลค่าการซื้อขาย 3,929.14 ลบ. 2.TRUE ปิดที่ 4.74 บาท ลดลง 0.14 บาท (-2.87%) มูลค่าการซื้อขาย 2,892.53 ลบ. 3.KBANK ปิดที่ 141.00 […]
รัฐบาลเวียดนามอนุมัติแผน 5 ปี ลดความยากจนอย่างยั่งยืน
Pham Binh Minh รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงนามอนุมัติแผนของชาติที่มีเป้าหมายในการลดความยากจนอย่างยั่งยืนในช่วงปี 2021-2025 ด้วยมูลค่าเงินทุนไม่ต่ำกว่า 75 ล้านล้านดอง หรือ 3,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป้าหมายโดยรวมของแผนนี้คือ เกิดผลสำเร็จในหลายมิติ ทั้งการลดความยากจนอย่างครอบคลุมและยั่งยืน โดยจะเน้นไปที่พื้นที่มียากจนและชุมชนที่เสียเปรียบเพราะอยู่ในพื้นที่ลุ่ม ชายฝั่ง และบนเกาะต่างๆ สำหรับเป้าหมายของเวียดนามคือ ลดอัตราความยากจนทั่วประเทศ 1-1.5% โดยลดความยากจนของครัวเรือนกลุ่มชนกลุ่มน้อยลงมากกว่า 3% และลดความยากจนในเขตที่ยากจน 4-4.5% ต่อปี ขณะที่จำนวนครัวเรือนที่ยากจนและเข้าใกล้เส้นความยากจน คาดว่าจะลดลงไปครึ่งหนึ่งภายในปี 2025 ทั้งนี้ พื้นที่ยากจน รวมถึงชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ยากลำบาก เช่น พื้นที่ลุ่ม ชายฝั่ง และบนเกาะต่างๆ จะได้รับคำแนะนำการลงทุนเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมและเศรษฐกิจ รองรับความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่น รวมทั้งกระตุ้นการผลิต การค้า และการจัดหาบริการทางสังคมขั้นพื้นฐาน ขณะที่อัตราเด็กจากครอบครัวที่ยากจนหรือเข้าใกล้ความยากจนที่ได้ไปโรงเรียน ตามอายุที่เหมาะสมควรจะถึง 90% ตามแนวทางนี้ ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/
ธนาคารกลางจีนลดดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี 1 ปีอีกรอบ และลดดอกเบี้ยเงินกู้ 5 ปี ครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี
ธนาคารกลางของจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมอ้างอิงอีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม 2022 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีน หรือ PBOC ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดี หรือ LPR ระยะ 1 ปี ลง 0.10% จาก 3.8% มาอยู่ที่ 3.7% โดยในเดือนธันวาคม 2021 ธนาคารกลางจีนก็มีการลดดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีตัวนี้มาแล้ว ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 สำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีระยะ 5 ปี มีการปรับลดในอัตราที่ต่ำกว่า คือลดลงไป 0.05% จาก 4.65% ไปสู่ระดับ 4.6% ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020 ที่อัตราการแพร่ระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนาสูง ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี จะส่งผลต่อดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับองค์กรและสินเชื่อสำหรับครัวเรือนในประเทศ โดยยอดสินเชื่อใหม่และสินเชื่อคงค้รางในจีนส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับดอกเบี้ย LPR ระยะ 1 ปี ส่วนดอกเบี้ย LPR ระยะ […]
เงินเฟ้ออังกฤษพุ่งสูงสุดรอบ 30 ปี หลังเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนที่พุ่งต่อเนื่อง
ตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษในเดือนธันวาคม 2021 พุ่งขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี จากต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งอุปสงค์ที่ฟื้นตัว และปัญหาในห่วงโซ่อุปทานที่ยังเป็นแรงกดดันราคาผู้บริโภคให้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เงินเฟ้อเดือนธันวาคม 2021 ของอังกฤษเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 5.4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 1992 และเพิ่มขึ้นจาก 5.1% ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่ตอบแบบสำรวจกับ Reuters คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อดูตัวเลขรายเดือน พบว่า ราคาผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 0.5% เหนือกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะไต่ระดับที่ 0.3% จากต้นทุนค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธนาคารกลางอังกฤษอาจเริ่มมองหาแนวทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง โดยในเดือนธันวาคม 2021 ธนาคารอังกฤษเป็นธนาคารกลางหลักแห่งแรกที่เริ่มปรับเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมจากระดับที่ต่ำในช่วงการแพร่ระบาด ขณะที่ตลาดกำลังจับตาการประชุมนโยบายการเงินครั้งต่อไปในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2022 อย่างใกล้ชิด โดยผู้ดำเนินนโยบายกำลังพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยอื่นๆ หลังจากปรับขึ้นดอกเบี้ยกู้ยืมสู่ระดับ 0.25% ในเดือนธันวาคม 2021 ที่มา : CNBC
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 19 ม.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,658.24 จุด ลดลง 2.03 จุด
ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 19 ม.ค. 2565 ปิดตลาดที่ 1,658.24 จุด ลดลง 2.03 จุด (-0.12%) ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,667.44 จุด และต่ำสุดที่ 1,653.38 จุด มูลค่าการซื้อขาย 96,191.89 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.KBANK ปิดที่ 141.00 บาท ลดลง 3.00 บาท (-2.08%) มูลค่าการซื้อขาย 5,038.11 ลบ. 2.TRUE ปิดที่ 4.88 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาท (+5.63%) มูลค่าการซื้อขาย 3,877.23 ลบ. 3.PTT ปิดที่ 39.00 […]