กองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (เฮดจ์ 75) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (B-HY (H75) AI) และกองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (อันเฮดจ์) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (B-HY (UH) AI)

กองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (เฮดจ์ 75) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (B-HY (H75) AI) และกองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (อันเฮดจ์) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (B-HY (UH) AI)

บทสัมภาษณ์ทิศทางตลาดยูเอสไฮยิลด์จาก Mr. Charl Pepper Whitbeck, Head of AXA US High Yield Bond Fund หากมองในปี 2019 ท่านผู้ถือหน่วยคงจำได้ว่าเป็นปีที่ตลาดยูเอสไฮยิลด์มีความผันผวนต่ำมาก ตลาดยูเอสไฮยิลด์เป็นขาขึ้นตลอดทางเพราะช่วงก่อนหน้าเคยเผชิญกับแรงขายในช่วงปลายปี 2018 แต่ในปี 2019 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยยูเอสไฮยิลด์กับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Spread) แคบลงตลอดทาง ดัชนีตราสารหนี้ยูเอสไฮยิลด์ให้ผลตอบแทนรายเดือนติดลบเพียงเดือนเดียว ด้วยเหตุที่ว่า นักลงทุนเกรงว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) จึงขยับไปถือครองตราสารหนี้ซึ่งมีคุณภาพที่ดีแต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับมีทิศทางตรงกันข้ามกับที่ตลาดมอง โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้กลับลำ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงทำให้เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่เคยทรงตัวอยู่ในรูปแบบ Flattening Yield curve (ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุสั้นเท่ากันกับผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุยาว) วกกลับมาเป็น Inverted yield Curve (ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุสั้นน้อยกว่าผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุยาว) กองทุนหลักถือครองตราสารหนี้ยูเอสไฮยิลด์ที่มีอายุยาวจึงให้ผลตอบแทนดีกว่าดัชนี ในช่วงเวลาดังกล่าวกองทุนหลัก เริ่มทยอยปรับเพิ่มน้ำหนักกับตราสารหนี้ยูเอสไฮยิลด์ที่มีอายุสั้นมากขึ้น เพราะเป็นกลยุทธ์ของกองทุนหลักที่จะ stay Defensive สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมของตราสารหนี้ที่กองทุนหลักถือครองอยู่นั้น ตราสารหนี้ในกลุ่มพลังงานให้ผลตอบแทนโดดเด่น กองทุนหลักลงทุนตราสารหนี้ในกลุ่มนี้โดยคัดเลิอกบริษัทผู้ให้บริการท่อส่งน้ำมันที่รายได้ไม่ผันผวนไปตามราคาน้ำมันดิบโลก […]

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล (B-GLOBAL) และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอลเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-GLOBALRMF)

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล (B-GLOBAL) และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอลเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-GLOBALRMF)

ผลตอบแทนของดัชนีหุ้นโลก ผลตอบแทนของกองทุนหลัก และมุมมองต่อหุ้นรายตัวที่กองทุนหลักถือครอง  ผลตอบแทนในไตรมาส 4Q2019 กองทุนหลักสร้างผลตอบแทนได้ 8.7% เทียบกับดัชนี MSCI AC World ที่ 9.0% (ขณะที่ผลตอบแทนรายปี (CY2019) กองทุนหลักสร้างผลตอบแทนได้ 26.0% ใกล้เคียงกับดัชนีที่ 26.6%) หากมองผลตอบแทนรายภูมิภาคของดัชนี เช่น จีน ตลาดเกิดใหม่ อเมริกาเหนือ ยุโรป และญี่ปุ่น ผลตอบแทนที่โดดเด่นของตลาดหุ้นจีนมาจากช่วงโค้งสุดท้ายของปีเหตุจากความคืบหน้าด้านการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ กราฟ: แสดงผลตอบแทนของดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาคต่างๆเฉพาะในไตรมาส 4Q2019 (สีน้ำเงินเข้ม) เทียบกับผลตอบแทนดัชนีทั้งปี 2019 (สีฟ้าอ่อน) และหากจำแนกผลตอบแทนของดัชนี MSCI แยกตามรายกลุ่มอุตสาหกรรม จะเห็นว่า หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีให้ผลตอบแทนรายปีสูงสุดถึง 48% ขณะที่กลุ่มซึ่งมีรายได้ผันเป็นไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจ เช่น วัสดุก่อสร้าง สถาบันการเงิน ราคาหุ้นมีทิศทางฟื้นตัวชัดเจนในไตรมาสสี่ กราฟ 2: แสดงผลตอบแทนของดัชนี MSCI จำแนกตามรายกลุ่มอุตสาหกรรม […]

มาเลเซียเผยมีหน่วยงานดูแลมาตรฐานความปลอดภัยพิจารณาว่าใครจะร่วมแผนเปิดตัว 5G ปีนี้

มาเลเซียเผยมีหน่วยงานดูแลมาตรฐานความปลอดภัยพิจารณาว่าใครจะร่วมแผนเปิดตัว 5G ปีนี้

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า กระทรวงการสื่อสารของมาเลเซียให้ข้อมูลว่า หน่วยงานดูแลมาตรฐานความปลอดภัยมาเลเซียจะกำหนดว่าบริษัทใดเข้ามามีส่วนร่วมในแผนเปิดตัว 5G ปีนี้ได้ ท่ามกลางกระแสที่สหรัฐฯ กำลังกดดันประเทศต่างๆ ไม่ให้เปิดรับหัวเว่ยของจีนเข้าร่วม หัวเว่ยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นรายสำคัญที่ทำให้สหรัฐฯ ออกแคมเปญจำกัดการใช้เทคโนโลยีจีนพัฒนาแพลตฟอร์มโทรคมนาคมรุ่นต่อไป เพราะมีข้อกังวลว่าอุปกรณ์หัวเว่ยอาจถูกรัฐบาลจีนใช้สอดแนม โดยสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำการค้ากับหัวเว่ย เดือน พ.ค. 2019 ส่วนเดือน ก.พ. นี้อัยการของสหรัฐฯ กล่าวหาว่า หัวเว่ยขโมยความลับทางการค้าและช่วยเหลืออิหร่านติดตามผู้ประท้วง ซึ่งหัวเว่ยปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ Gobind Singh Deo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารของมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียตระหนักถึงความกังวลที่เผยแพร่ทั่วโลกเกี่ยวกับหัวเว่ย แต่เรื่องนี้จะถูกควบคุมดูแลโดยหน่วยงานดูแลมาตรฐานความปลอดภัยของรัฐในการเลือกพันธมิตรเข้าร่วมแผนเปิดตัวเครือข่าย 5G ของประเทศในไตรมาส 3 นี้ “มุมมองเราชัดเจนมาก เรามีหน่วยงานดูแลมาตรฐานความปลอดภัยของเรา เรามีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของตัวเอง ถ้าใครก็ตามมาพร้อมข้อเสนอเพื่อตกลงกับเรา เราต้องแน่ใจว่าผ่านมาตรฐานความปลอดภัย”  Singh Deo กล่าว Singh Deo กล่าวอีกว่า เมื่อพูดเรื่องความปลอดภัย ไม่ว่าหัวเว่ยหรือรายอื่น คุณก็ต้องแน่ใจว่าระบบที่พวกเขานำเสนอเป็นอย่างไร เหมาะสมกับคุณหรือไม่ […]

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ)

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ)

ในปี 2019 ที่ผ่านมา ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศจีน GDP เติบโตลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น สงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ การประท้วงในฮ่องกง อัตราการผิดนัดชำระหนี้ของหุ้นกู้เอกชนหลายแห่ง ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการหลายอย่างเพื่อปรับสมดุลทางเศรษฐกิจ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้บรรยากาศการลงทุนไม่สดใสนัก แต่กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นจีน (B-CHINE-EQ) สามารถผงาดทำกำไรได้สูงถึงกว่า 38% และสูงกว่าดัชนีชี้วัดเกินเท่าตัวโดดเด่นเป็นที่หนึ่งในอุตสาหกรรมกองทุนหุ้นจีนประเภทที่ลงทุนได้ในทุกตลาด หรือกลยุทธ์แบบ All China Strategy ทั้งนี้ปัจจัยสำเร็จมาจากการเลือกลงทุนในบริษัทที่เติบโตสอดคล้องกับเศรษฐกิจยุคใหม่ การยกระดับการบริโภค การยกระดับอุตสาหกรรมการผลิต รวมถึงการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีอย่างกว้างขวาง เช่น การวิจัยและพัฒนาเครือข่าย 6G เป็นต้น ปัจจุบัน หน่วยลงทุนมีหุ้นที่โดดเด่นสำคัญๆ ได้แก่ บริษัท Jiangsu Hengli Hydraylics ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฮดรอลิกรายใหญ่ที่สุดในจีน และรายใหญ่อันดับ 8 ของโลก จำหน่ายสินค้าให้ลูกค้าทั้งในประเทศ ลูกค้าต่างประเทศ อาทิ Caterpillar ธุรกิจมีผู้แข่งขันในตลาดน้อยราย บริษัท Ping An Insurance […]

กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ (BCARE) และกองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์เพื่อการเลี้ยงชีพ (BCARERMF)

กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์ (BCARE) และกองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลเฮลธ์แคร์เพื่อการเลี้ยงชีพ (BCARERMF)

มุมมองต่อประเด็นทางการเมืองต่อระบบเฮลธ์แคร์ของสหรัฐฯ กองทุนหลักมองว่าโอกาสหรือความเป็นไปได้ที่โครงสร้างเฮลธ์แคร์ของสหรัฐฯ จะเปลี่ยนจากปัจจุบันไปสู่ระบบที่รัฐเข้าดูแลจัดการสวัสดิภาพของพลเมืองทั้งหมดหรือที่เรียกว่า Universal or government run healthcare system หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีนั้นเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากจะใช้งบประมาณประเทศที่สูงเกินจะแบกจะรับไหว ข้อเสนอระบบประกันสุขภาพที่ประชาชนทุกคนมีสิทธิใช้บริการเท่าเทียมกันหรือ Medical for all ของพรรคเดโมแครทนั้น ใช้งบประมาณสูงถึง 30 -50 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และใช้ระยะเวลาในการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนงานรวม 10 ปี ตัวเลขนี้อยู่สูงกว่าขนาดเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในตอนนี้ที่คิดเป็นมูลค่า 21 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์อีกอย่างหนึ่งที่ฝั่งนักการเมืองผู้เสนอยังไม่ได้ประเมินคือ มีชาวอเมริกันจำนวน 180 ล้านครัวเรือนที่ใช้บริการประกันสุขภาพภาคเอกชน ผู้ให้บริการประกันสุขภาพภาคเอกชนดังกล่าว เมื่อนับรวมกับความร่วมมือภาครัฐผ่านสวัสดิการโอบามาแคร์แล้ว ก็แทบจะครอบคลุมคนสหรัฐฯ ในกลุ่มอยู่แล้ว หากจะเหลือก็มีเพียงแค่ พลเมืองสหรัฐฯ อีก 10 ล้านคน ซึ่งยังไม่มีหลักประกันสุขภาพค่ารักษาพยาบาล ณ จุดนี้ ทำให้ดูเหมือนว่าการที่รัฐจะเข้ามาดูแลกลุ่มคนเพียง 10 ล้านคน ด้วยการรื้อถอนโครงสร้างระบบประกันสุขภาพของประเทศใหม่หมดไม่เมคเซนซ์เอาเสียเลย ด้วยเงินจำนวนมหาศาลที่ต้องใช้ ในเชิงยุทธศาสตร์การเมืองการบริหารประเทศ จึงเป็นไปได้ยาก […]

เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 และประมาณการเศรษฐกิจปี 2020

เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 และประมาณการเศรษฐกิจปี 2020

BF Economic Research เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2019 ขยายตัว 1.6% YoY (0.2% QoQ หลังปรับฤดูกาล) จากที่โต 2.6% ในไตรมาสก่อน ทำให้ทั้งปี 2019 โต 2.4% จากปีก่อนที่ 4.2% ด้านการใช้จ่าย: การบริโภคยังขยายตัวเกิน 0% ขณะที่การส่งออกสุทธิเป็นบวกจากการนำเข้าที่ติดลบมากกว่าการส่งออก การส่งออกสุทธิ (Net exports) ช่วยหนุน GDP ในไตรมาสนี้ จากการนำเข้าสินค้าและบริการที่หดตัวแรงกว่าการส่งออกสินค้าและบริการ (นำเข้า -8.3% vs ส่งออก -3.6%) โดยการส่งออกสินค้าหดตัวต่อเนื่องสี่ไตรมาสติดต่อกัน จากอุปสงค์ต่างประเทศที่อ่อนแอและความสามารถในการแข่งขันที่ลดลงจากเงินบาทแข็งค่า การใช้จ่ายทั้งการบริโภคและการลงทุนชะลอตัวลง (การบริโภคภาคเอกชน 4.1% YoY จาก 4.3% ไตรมาสก่อน, การลงทุนรวม 0.9% จาก 2.7% ไตรมาสก่อน) […]

กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) เตรียมจ่ายเงินปันผลและจ่ายคืนเงินทุน รวม 0.215 บาท/หน่วย วันที่ 13 มี.ค. นี้

กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) เตรียมจ่ายเงินปันผลและจ่ายคืนเงินทุน รวม 0.215 บาท/หน่วย วันที่ 13 มี.ค. นี้

นายพรชลิต พลอยกระจ่าง รองกรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือ กองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) ประกาศจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 25 ในอัตรา 0.181 บาทต่อหน่วย และจ่ายคืนเงินทุนครั้งที่ 7 ในอัตรา 0.034 บาทต่อหน่วย หรือรวมแล้วจ่ายเงินปันผลพร้อมจ่ายคืนเงินทุนเป็นเงินทั้งสิ้น 0.215 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2562/63 หรือระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2562 โดยจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อกำหนดสิทธิของผู้ถือหน่วยลงทุนในการรับเงินปันผลและรับคืนเงินทุน ในวันที่ […]

กองทุนเปิดบัวหลวงภารตะ (B-BHARATA)

กองทุนเปิดบัวหลวงภารตะ (B-BHARATA)

สรุปประเด็นทางเศรษฐกิจอินเดีย หลังจากที่ดัชนีตลาดหุ้นอินเดีย (MSCI India USD Index) แกว่งขึ้นลงตลอดครึ่งปีที่แล้ว (2H2019) จากการชะลอตัวของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศและสงครามการค้าที่เข้ามากระทบ ในเดือน ม.ค. ปีนี้ (ปี 2020) ดัชนีปรับตัวเพิ่มจากหุ้นในกลุ่มหุ้นมิดแอนด์สมอลแคป จากระดับมูลค่า Valuation ลดลงในปีก่อนหน้า มาตรการที่รัฐบาลอินเดียได้ประกาศใช้หลายอย่างตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว เช่น ลดภาษีนิติบุคคล/บริษัทลงจากเดิม 30% เป็น 22% ลดภาษีนิติบุคคล/บริษัทที่เริ่มดำเนินการผลิตสินค้าจากเดิม 25% เป็น 15% ได้ช่วยให้บริษัทมีเงินเหลือนำไปลงทุนในกิจการต่อยอดไปสู่การผลิตสินค้าเพื่อผู้บริโภค หรือนำเงินไปชำระหนี้สินเพิ่มเติม ส่งผลบวกต่อธุรกิจโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง ยอดการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนชาติซึ่งเคยเป็นผู้ขายสุทธิตลาดหุ้นอินเดีย -3.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสสามปี 2019 และเป็นผู้ซื้อสุทธิ +1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือน ต.ค. ปี 2019 ต่อเนื่องจนถึงสิ้นปีแล้วนั้น ในเดือนมกราคมปีนี้ยังพบว่านักลงทุนต่างชาติยังเป็นผู้ซื้อสุทธิ +2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศก็เป็นผู้ซื้อสุทธิเช่นกันที่ +316 […]

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชีย (B-ASIA) กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชียเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-ASIARMF)

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชีย (B-ASIA) กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชียเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-ASIARMF)

ทิศทางการลงทุนตลาดหุ้นเอเชียไม่รวมประเทศญี่ปุ่น กองทุนหลักมองว่า ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่ควรประเมินเศรษฐกิจเอเชียด้วยการหยิบตัวเลขในการผลิตที่ฟื้นตัวภายหลังข้อตกลงทางการค้าเฟสหนึ่ง เนื่องจากยังไม่ได้รวมผลกระทบจากระบาดของโคโรนาไวรัส (โควิด-19) ที่ปะทุขึ้นในเดือน ม.ค. ซึ่งมองว่าสถานการณ์แพร่ระบาดจะส่งผลกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงสั้นๆ แล้วหลังจากนั้นภาคการผลิตจะกลับมาฟื้นตัวได้ต่อหลังจากนี้ ด้วยแนวทางการคัดเลือกหลักทรัพย์ลงทุนโดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐาน ธุรกิจของบริษัทที่กองทุนหลักถือครองอยู่นั้น ไม่ค่อยไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโคโรนาไวรัส ห้วงเวลาดังกล่าว ทีมจัดการกองทุนหลัก เริ่มมองเห็นว่า ราคาหุ้นเอเชียที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับห่วงโซ่อุปทานในตลาดรถยนต์ มีราคาหุ้นลดลงมามากจากการชะลอตัวลงของยอดขายรถยนต์ในประเทศจีนช่วงก่อนหน้า คาดว่า หลังจากที่ทีมงานได้หารือและประเมินสถานการณ์แล้วจะเข้าลงทุนในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้าถัดจากนี้ ในปี 2020 หุ้นในพอร์ตลงทุนของกองทุนหลัก น่าจะสร้างผลอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนได้หากผลลัพธ์ทางการค้าออกมาในเชิงบวก เพราะหุ้นรายตัวที่ถือครองมีรายได้เติบโตไปตามวัฏจักรเศรษฐกิจ หรือที่เรียกว่า Cyclical Stock เสียส่วนใหญ่ มุมมองรายประเทศที่กองทุนหลักได้ให้ความสำคัญและมีน้ำหนักลงทุนมากกว่าดัชนี เกาหลีใต้ (น้ำหนักในกองทุนหลัก 18.46%, น้ำหนักในดัชนี 13.79%) กองทุนหลัก ประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเกาหลีใต้ช่วงปี 2019 ที่ผ่านว่า เป็น Perfect Storm เกาหลีใต้ประสบกับปัญหาการเมืองภายในประเทศ จากการที่รัฐบาลประกาศเพิ่มรายได้จ้างงานขั้นต่ำ โดยหวังว่าผู้บริโภคจะบริโภคสินค้าและบริการมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นคือ บริษัทส่วนใหญ่ไม่สามารถจะจ้างงานเพิ่ม เนื่องจากต้นทุนการดำเนินธุรกิจสูงขึ้น ด้วยเหตุนี้ […]

ตัวเลข GDP ญี่ปุ่นและยูโรโซนออกมาต่ำกว่าคาดใน Q4/19 และมีแนวโน้มแย่ลงอีกใน Q1/20 จากผลของ Coronavirus

ตัวเลข GDP ญี่ปุ่นและยูโรโซนออกมาต่ำกว่าคาดใน Q4/19 และมีแนวโน้มแย่ลงอีกใน Q1/20 จากผลของ Coronavirus

BF Economic Research GDP ญี่ปุ่นไตรมาส 4/2019 หดตัวแรง -6.3% QoQ saar หลังปรับขึ้นภาษี Consumption Tax เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาจาก 8% เป็น 10% ประกอบกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลให้การบริโภค การส่งออก และการลงทุนต่างชะลอตัว ขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าก็ยังคงหดตัวถึง -1.6% QoQ มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทั้งนี้ ตลาดคาดไว้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นน่าจะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มภาษีอย่างแน่นอน และผลกระทบจะเบาบางกว่าเมื่อเทียบการการขึ้นภาษีในครั้งก่อนที่เพิ่มจาก 5% เป็น 8% ในไตรมาส 2/2014 แต่ตัวเลขที่ออกมาในไตรมาสล่าสุดกลับแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้ค่อนข้างมาก สะท้อนว่ามาตรการบรรเทาผลกระทบจากการขึ้นภาษี และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างที่รัฐบาลคาด โดยเรามองว่า รัฐบาลอาจต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม (Supplementary budget) อีกรอบ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่ผลกระทบจากไวรัสสายพันธุ์ใหม่ต่อภาคการท่องเที่ยว และการส่งออกยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เราอาจจะเห็น GDP ในไตรมาส 1/2020 ของญี่ปุ่นติดลบอีกครั้งเป็นไตรมาสที่ 2 และ ทำให้ญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะ […]