ตัวเต็งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นหวังกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยพลังงานหมุนเวียนและ 5G

ตัวเต็งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นหวังกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยพลังงานหมุนเวียนและ 5G

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Taro Kono รัฐมนตรีผู้ผลักดันวัคซีนของญี่ปุ่น และผู้สมัครลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นแทน Yoshihide Suga ที่ลาออกจากตำแหน่ง ออกมาเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ของญี่ปุ่นควรจะให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายด้านพลังงานหมุนเวียนและการขยายเครือข่าย 5G ทั่วประเทศ Kono ให้สัมภาษณ์กับกลุ่มผู้สื่อข่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินอย่างกะทันหัน ในช่วงเวลาที่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนากำลังสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ทั้งนี้ Kono เป็นตัวเต็งที่จะมาทำหน้าที่แทน Suga ในฐานะผู้นำพรรคเสรีประชาธิปไตย ซึ่งหาก Kono ได้เป็นผู้นำพรรค ก็มั่นใจได้ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะพรรคนี้ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร  

สรุปเศรษฐกิจจีนเดือน ส.ค.

สรุปเศรษฐกิจจีนเดือน ส.ค.

BF Economic Research เศรษฐกิจจีนในเดือนส.ค.ชะลอลงต่อเนื่อง ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) เดือน ส.ค. ขยายตัว 5.3% YoY ชะลอตัวลงจาก 6.4% ในเดือนก่อน และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 5.8% โดยผลผลิตรถยนต์ (-12.6% vs. -8.5% เดือนก่อน), โลหะเหล็ก (-10.1% vs. -6.6% เดือนก่อน) และโทรศัพท์มือถือ (-7.2% vs. -2.1% เดือนก่อน) หดตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลผลิตสินค้ากลุ่มอื่นๆ เช่น อุปกรณ์สื่อสารและคอมพิวเตอร์ (13.3% vs. 13.0% เดือนก่อน) ยังคงขยายตัวได้ดี ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือน ส.ค. ขยายตัว 2.5% YoY ชะลอตัวลงอย่างมากจาก […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 ก.ย. 2564 ปิดตลาดที่ 1,628.04 จุด เพิ่มขึ้น 4.20 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 ก.ย. 2564 ปิดตลาดที่ 1,628.04 จุด เพิ่มขึ้น 4.20 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 ก.ย. 2564 ปิดตลาดที่ 1,628.04 จุด เพิ่มขึ้น 4.20 จุด หรือ +0.26% ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,630.05 จุด และต่ำสุดที่ 1,620.84 จุด มูลค่าการซื้อขาย 73,187.40 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.PTT ปิดที่ 39.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 2,322.19 ลบ. 2.DELTA ปิดที่ 574.00 บาท ลดลง 8.00 บาท (-1.37%) มูลค่าการซื้อขาย 2,209.13 ลบ. 3.INTUCH ปิดที่ 82.25 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 […]

เม็กซิโกเล็งตั้งโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในรัฐทางตอนใต้

เม็กซิโกเล็งตั้งโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในรัฐทางตอนใต้

สำนักข่าว Reuters รายงานว่า  Tatiana Clouthier รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของเม็กซิโก ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เม็กซิโกมีเป้าหมายจะกระตุ้นการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศ โดยอาจจะสร้างโรงงานผลิตในรัฐทางตอนใต้ของประเทศ เนื่องจากมีทรัพยากรน้ำซึ่งมีความจำเป็นอย่างมาก ในการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับสูงที่เรียกว่า High-Level Economic Dialogue (HLED) ระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโก ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และถือเป็นการประชุมครั้งแรกในรอบหลายๆ ปี ทั้ง 2 ประเทศเห็นชอบร่วมกันในการสร้างห่วงโซ่อุปทานร่วมกัน โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้สูงขึ้น ความตกลงนี้เกิดขึ้นหลังจากปัญหาการขาดแคลนชิปเซมิคอนดักเตอร์ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ในอเมริกาเหนือต้องระงับการผลิตชั่วคราว และเจ้าหน้าที่ก็ออกมาเตือนว่าปัญหานี้อาจจะมีแนวโน้มแย่ลง “การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ต้องใช้น้ำจำนวนมาก ดังนั้นเราอาจจะต้องดำเนินการทางตอนใต้ซึ่งมีน้ำอยู่มากเพียงพอกว่าเมื่อเทียบกับรัฐทางตอนเหนือซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนสหรัฐฯ” Clouthier กล่าว Andres Manuel Lopez Obrador ประธานาธิบดีเม็กซิโก ได้ดำเนินการลงทุนเพื่อกระตุ้นการพัฒนารัฐทางตอนใต้ที่ยากจนของเม็กซิโก เพราะถือเป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลชุดนี้ ในการประชุม HLED ทั้งเม็กซิโกและสหรัฐฯ ตกลงร่วมกันที่จะสร้างคณะทำงานร่วมกันในด้านห่วงโซ่อุปทานของเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึงอุปกรณ์การแพทย์ และยา โดยในส่วนของคณะทำงานเซมิคอนดักเตอร์จะพบกันครั้งแรกสัปดาห์หน้า และมีแผนจะนำเสนอผลลัพธ์ในวันที่ 9 พ.ย. นี้

หุ้นจีนยังน่าสนใจลงทุนไหม?

หุ้นจีนยังน่าสนใจลงทุนไหม?

หุ้นจีนยังน่าลงทุนอยู่ไหม ? ถ้ามองในระยะยาว ผู้ลงทุนหลายท่านที่มีหุ้นจีนอยู่ในพอร์ตตอนนี้ คงมีความกังวลใจอยู่ไม่น้อย และคงมีคำถามว่า “เมื่อไรหุ้นจีนจะกลับมาสดใสสักที” สำหรับปัจจัยสำคัญ ๆ ที่กดดันให้หุ้นจีนปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ประเด็นแรก: นักลงทุนบางส่วนเริ่มขายทำกำไรหุ้นจีน หลังปรับตัวขึ้นมามากช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเด็นที่สอง: การเข้ามาควบคุมหรือออกกฎเกณฑ์กำกับดูแลการดำเนินกิจการของบริษัทในหลายอุตสาหกรรม ให้อยู่ในระบบระเบียบมากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายราย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนไม่ได้ต้องการปิดกั้นการเติบโตของบริษัทเทคโนโลยีเสียทีเดียว แต่คาดหวังให้บริษัทเทคโนโลยีของจีนเติบโตได้ดีกว่าเดิม ภายใต้กฎเกณฑ์ที่รัฐบาลจีนควบคุมดูแลได้ ซึ่งรัฐบาลจีนเชื่อว่า จะสามารถสร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจจีนได้ในระยะยาว ดังนั้น สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นจีนหรือกองทุนรวมหุ้นจีน อาจจะต้องมองจีนแบบจีนจริง ๆ และเน้นลงทุนระยะยาว ซึ่งระยะยาวที่ว่า คืออย่างน้อย ๆ ก็น่าจะประมาณ 5-10 ปี ที่น่าสนใจคือ หลาย ๆ อุตสาหกรรมในจีน ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก สอดคล้องไปกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 14 ของจีน สำหรับรายละเอียดจะเป็นอย่างไร และมีช่องทางการลงทุนไหนบ้างจากกองทุนบัวหลวง ที่ผู้สนใจในหุ้นจีนจะเลือกลงทุนได้ ติดตามต่อกันที่บทความฉบับเต็มได้เลย https://www.bblam.co.th/…/investment…/bf-knowledge-tip-6 หมายเหตุ: การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) […]

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 ก.ย. 2564 ปิดตลาดที่ 1,623.84 จุด ลดลง 9.92 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 ก.ย. 2564 ปิดตลาดที่ 1,623.84 จุด ลดลง 9.92 จุด

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 ก.ย. 2564 ปิดตลาดที่ 1,623.84 จุด ลดลง 9.92 จุด หรือ -0.61% ระหว่างวัน ดัชนีสูงสุดที่ 1,640.40 จุด และต่ำสุดที่ 1,621.96 จุด มูลค่าการซื้อขาย 84,176.04 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่ 1.DELTA ปิดที่ 582.00 บาท ลดลง 70.00 บาท (-10.74%) มูลค่าการซื้อขาย 4,357.48 ลบ. 2.PTT ปิดที่ 39.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท (+1.96%) มูลค่าการซื้อขาย 2,918.23 ลบ. 3.INTUCH ปิดที่ 77.75 […]

จีนเดินหน้าพัฒนารถไฟความเร็วสูงพิเศษและเครื่องบินพาณิชย์

จีนเดินหน้าพัฒนารถไฟความเร็วสูงพิเศษและเครื่องบินพาณิชย์

Global Times รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จีนให้คำมั่นว่าจะเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและสร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการขนส่ง รวมถึงดำเนินการศึกษาเกี่ยวกับยานพาหนะประเภทใหม่ เช่น รถไฟความเร็วสูงพิเศษ และเครื่องบินพาณิชย์ แผนงานนี้ถูกนำเสนออยู่ในแนวปฏิบัติร่วมของกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเร่งการสร้างระบบขนส่งที่ใช้นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยแนวปฏิบัติมุ่งเน้นไปที่การจัดการกับขีดจำกัดการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการขนส่งของจีน โดยจะเพิ่มความแข็งแกร่งด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สนับสนุนนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม และยกระดับการผสมผสานเทคโนโลยีใหม่กับด้านคมนาคม แนวปฏิบัตินี้ ระบุว่า ภายในปี 2025 จะมีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของงานวิจัยด้านคมนาคมและการประยุกต์ใช้งานวิจัยอย่างมาก รวมทั้งการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ การปรับใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยกับการขนส่งจะเร่งตัวขึ้น จะมีการสร้างระบบนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อทำให้จีนเป็นประเทศที่มีระบบคมนาคมที่แข็งแกร่ง ส่วนในปี 2035 ความสามารถด้านนวัตกรรมในงานวิจัยพื้นฐานเกี่ยวกับระบบคมนาคมและการประยุกต์ใช้จะได้รับการปรับปรุงอย่างเต็มที่ เทคโนโลยีลำสมัยจะถูกใช้ในการขนส่งโดยสมบูรณ์ ระบบนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะตอบโจทย์ความต้องการของประเทศได้ดี ในด้านการมีเครือข่ายคมนาคมที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้จีนจะมุ่งเน้นเรื่องความก้าวหน้าในองค์ประกอบหลัก เช่น ด้านพลังงาน การรับรู้ การควบคุมยานพาหนะ การสื่อสาร อุปกรณ์นำทาง รวมถึงอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินด้วย และประเทศจะพยายามเอาชนะอุปสรรคทางเทคโนโลยีที่สำคัญในอุตสาหกรรมเฉพาะกลุ่ม ซึ่งรวมถึงการดำน้ำลึกและการรับรองการเดินอากาศ

กองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (อันเฮดจ์) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย B-HY (UH) AI และกองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (เฮดจ์ 75) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย B-HY (H75) AI

กองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (อันเฮดจ์) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย B-HY (UH) AI และกองทุนเปิดบัวหลวงไฮยิลด์ (เฮดจ์ 75) ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย B-HY (H75) AI

Highlight กองทุนมีกลยุทธ์ที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุคงเหลือระยะสั้น โดยมีอายุตราสารเฉลี่ย 2.4 ปี (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ 3.7 ปี) ด้วยมีความผันผวนไม่สูงมากนักและมีระดับมูลค่าที่น่าลงทุน กองทุนหลักมีมุมมองว่า แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการปรับทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของ FED และการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ตราสารหนี้ US High Yield ยังคงมีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุน ทั้งในเรื่องของรายได้ที่ได้รับอย่างสม่ำเสมอและระดับอัตราดอกเบี้ยจ่ายของตราสารที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูงประมาณ 3.5 – 4% ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของผู้ออกตราสารมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ภาพรวมตลาด ช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ปัจจัยเรื่องการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยเฉพาะจากการกลายพันธุ์ของสายพันธุ์ไวรัส ได้เข้ามากดดันทำให้เกิดความกังวลเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอีกครั้งทั้งภายในและภายนอกสหรัฐฯ และทำให้ผลตอบแทนของตราสารหนี้กลุ่ม High Yield สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในช่วงเดือน ส.ค. อย่างไรก็ตาม ตราสารหนี้ กลุ่ม High Yield สหรัฐฯ ยังคงให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ประเภทอื่นๆ โดยให้ผลตอบแทนประมาณ 4.6% นับตั้งแต่ช่วงต้นปี ขณะที่ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้กลุ่ม High Yield […]

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชีย (B-ASIA) และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชียเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-ASIARMF)

กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชีย (B-ASIA) และกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นเอเชียเพื่อการเลี้ยงชีพ (B-ASIARMF)

Highlight ผู้จัดการกองทุนขายทำกำไรในหุ้นที่ราคาปรับตัวขึ้นมามาก และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นที่ราคายังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง และเห็นโอกาสในหุ้นวัฎจักรที่ undervalued เนื่องจากราคาปรับตัวลงจากผลของโควิด แม้ว่าราคาของหุ้นกลุ่มวัฎจักรเริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว แต่ยังมีบางตัวที่น่าสนใจลงทุน กลยุทธ์ปัจจุบัน เน้นลงทุนในหุ้นที่มีกระแสเงินสดแข็งแกร่ง เพราะสามารถทนต่อแรงกระทบเชิงลบ ได้ อีกทั้งยังพิจารณาถึงความเสี่ยงที่อาจจะกระทบต่อบริษัทในหลายด้าน เช่น ความเสี่ยงด้านการเมือง สงครามการค้า กฎระเบียบจากรัฐ การถูก Disrupt และ ประเด็นด้าน ESG เป็นต้น ภาพรวมตลาด ภาพรวมของตลาดเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) มีมูลค่า P/B (Price per Book Value) สูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี สะท้อนว่า โดยรวมหุ้นเอเชียไม่ถูกแล้ว แต่เมื่อดูรายประเทศกลุ่มประเทศที่มี P/B สูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปี จะเป็นกลุ่มเอเชียเหนือ เช่น จีน ไต้หวัน เกาหลี รวมทั้งอินเดีย เมื่อพิจารณารายอุตสาหกรรมในเอเชีย พบว่า […]

กองทุนเปิดฟันด์ออฟฟันด์บัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ (B-IR-FOF) และกองทุนเปิดฟันด์ออฟฟันด์บัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (B-IR-FOFRMF)

กองทุนเปิดฟันด์ออฟฟันด์บัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ (B-IR-FOF) และกองทุนเปิดฟันด์ออฟฟันด์บัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานและอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (B-IR-FOFRMF)

Highlight การปลดล็อคของภาครัฐจะเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่ม Retail, Exhibition Center แล IFF-Transportation และหากสถานการณ์ดีขึ้นหลายธุรกิจจะค่อยๆ กลับมาดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะเป็นผลดีกับเศรษฐกิจโดยรวม รวมทั้ง Property Fund / REIT ด้วย แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะอยู่ในช่วงทรงตัวถึงขาขึ้น แต่การปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรน่าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป จึงทำให้ความผันผวนของ REITs ไม่สูงมากนัก และด้วยส่วนต่างระหว่างอัตราเงินปันผลกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ยังค่อนข้างสูง REITs จึงสามารถใช้เป็นเครื่องมือเพื่อใช้กระจายความเสี่ยงของพอร์ตได้ ภาพรวมตลาด  ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2564 ดัชนีของกลุ่ม Property Fund / REIT (SETPREIT) ปรับตัวเพิ่มขึ้น1.7% น้อยกว่า SET ที่เพิ่มขึ้น +13.1% เมื่อรวมผลตอบแทนจากเงินปันผล (Total Return) กลุ่ม Property Fund/REIT มี Total Return +7.55% […]